posttoday

พระราชวังสนามจันทร์ ระลึกคืนวันโรแมนติก

19 ตุลาคม 2558

ทุกครั้งที่มาเยี่ยมเยือนพระราชวังสนามจันทร์ ผมมักจะหาที่นั่งอ่านหนังสือใต้ต้นไม้มองวิวพระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์

โดย...โยโมทาโร่

ทุกครั้งที่มาเยี่ยมเยือนพระราชวังสนามจันทร์ ผมมักจะหาที่นั่งอ่านหนังสือใต้ต้นไม้มองวิวพระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์ สถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกถึงมนต์ขลังอันงดงามของสถาปัตย กรรมและสภาพสังคมไทยในสมัยนั้น แม้เพียงเข้ามานั่งเล่นก็มีความสุขแล้วครับและคงไม่เพียงเฉพาะตัวผมเท่านั้น ยังมีชาวนครปฐมเป็นจำนวนมากนิยมเข้ามาเดินเล่นถ่ายรูป ใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจใน
สถานที่สุดโรแมนติกแห่งนี้

พระราชวังสนามจันทร์เป็นหนึ่งในโบราณสถานที่จำเป็นต้องเก็บค่าบำรุงรักษา คนไทยเก็บค่าเข้าชม 30 บาท และชาวต่างชาติ 100 บาท ขอแนะนำอีกสักนิดว่าควรเตรียมน้ำ อาหาร และร่มติดกระเป๋าไว้ เพราะเราจะต้องเดินระยะทางไกลกันเลยทีเดียว อีกทั้งช่วงวันเวลาที่เราแนะนำให้มาเที่ยวควรเป็นช่วงฤดูหนาวท้องฟ้าปลอดโปร่ง จะถ่ายรูปได้สวยที่สุดและเผื่อเวลาเที่ยวสถานที่แห่งนี้สักประมาณ 3-4 ชั่วโมง

พระราชวังสนามจันทร์ ระลึกคืนวันโรแมนติก

 

สถานที่แรกที่เราแนะนำให้เข้าชมก็คือ พระตำหนักทับแก้ว เป็นพระตำหนักแรก ดูจากภายนอกเป็นบ้านทรงตะวันตกทาด้วยสีเขียวอ่อน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้เป็นที่ตั้งของกองบัญชาการเสือป่าในยุคแรกและยังทรงใช้เป็นที่ประทับฤดูหนาว แต่เวลานี้ได้กลายเป็น “พิพิธภัณฑ์คณะฟุตบอลแห่งสยาม” ใครอยากรู้ประวัติความเป็นมาทีมชาติไทยอย่างลึกซึ้ง ก็ควรแวะเซ็นชื่อเข้าเยี่ยมชมสักหน่อยครับ จำนวนผู้เข้าชมจะมีผลต่องบในการบำรุงรักษาตรงนี้สำคัญมาก

ถัดมาเราจะได้ชมเรือนไทยภาคกลางหลังงามที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบที่สุดที่เหลืออยู่ในประเทศไทย คือ พระตำหนักทับขวัญ หมู่เรือนไทยใช้วิธีเข้าไม้แบบโบราณ ฝาเรือนและไม้ค้ำยันสลักสวยงามเห็นแล้วใครที่ชอบบ้านแบบตะวันตกอาจจะเปลี่ยนใจอยากปลูกบ้านเรือนไทยกันเลยทีเดียว

ลำพังเดินชม 2 พระตำหนักก็ใช้เวลาไปชั่วโมงกว่ากันแล้ว เดินออกมาผมพุ่งตรงไปที่อนุสาวรีย์ย่าเหลเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของพระราชวังสนามจันทร์ มาที่นี่ 5 ครั้งก็ต้องมาถ่ายรูปกับย่าเหลทุกครั้งไป คล้ายกับว่าถ้าไม่มาถ่ายกับย่าเหลก็เหมือนมาไม่ถึงพระราชวังสนามจันทร์อย่างไรอย่างนั้น ซึ่งย่าเหลอาจเป็นสุนัขตัวเดียวที่มีในบันทึกประวัติศาสตร์โลก ที่ถูกยิงตายเพราะความอิจฉาแค้นเคืองต่อสุนัขของขุนนาง

พระราชวังสนามจันทร์ ระลึกคืนวันโรแมนติก

 

พระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์ เจ้าหน้าที่นำชมให้ความรู้เกี่ยวกับพระตำหนักนี้ว่า เป็นพระตำหนักที่สร้างจากแรงบันดาลจากบทละคร เรื่อง My friend Jarlet และทรงแปลบทละครเรื่องนี้เป็นภาษาไทยชื่อ มิตรแท้ ซึ่งมีนัยถึงความผูกพันต่อย่าเหลด้วย

พระตำหนักนี้สร้างคู่กับพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ มีสะพานเดินข้ามคูน้ำเชื่อมต่อกัน สื่อถึงสายสัมพันธ์ความรักระหว่างคนทั้งสอง

ชื่อพระตำหนักก็เป็นชื่อของนางเอก มารี นำมารวมกับคำว่า รัต แปลว่า สีแดง พระตำหนักนี้จึงมีความหมายว่า “ราชบัลลังก์สีแดงแห่งมารี” นั่นเอง

ด้านพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ เป็นชื่อของพระเอกตามท้องเรื่อง สถาปัตยกรรมคล้ายปราสาทฝรั่งเศส แต่ดัดแปลงขนาดและการใช้งานให้เหมาะสมกับการใช้งานในภูมิอากาศร้อน เป็นสองพระตำหนักที่ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็ดูสวยทุกมุม

พระราชวังสนามจันทร์ ระลึกคืนวันโรแมนติก

 

จากนั้นเดินเล่นใต้ร่มไม้ถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึก ส่วนมากคนที่เข้ามาเที่ยวที่พระราชวังสนามจันทร์จะแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ 1.นักท่องเที่ยว 2.ช่างภาพ 3.คู่รักที่อยากใช้เวลาอยู่ร่วมกันในวันหยุด

เดชา ไปรสุวรรณ ช่างภาพสมัครเล่น บอกว่า “ชอบมาถ่ายรูปที่พระราชวังสนามจันทร์เป็นประจำ เพราะชอบสถาปัตยกรรมกับทิวทัศน์ที่ร่มรื่นเหมาะกับการฝึกถ่ายภาพ ตั้งใจจะมาเก็บภาพทุกเดือนแล้วทำเป็นเซตภาพแสดงถึงช่วงเวลาแต่ละฤดูของพระราชวังสนามจันทร์ที่มีความสวยงามแตกต่างกัน”

พระราชวังสนามจันทร์เป็นสถานที่ที่เงียบสงบ ไม่ว่าเราจะมาหาความรู้ ถ่ายภาพ หรือหามุมนั่งอ่านหนังสือ เชื่อว่าสิ่งที่ทุกคนต้องชอบที่สุดในสถานที่แห่งนี้ก็คือ บรรยากาศร่มรื่น แค่นั่งดื่มกาแฟมองวิวพระราชวัง ดูต้นไม้ ดอกไม้วิวสีเขียวๆ ก็เพลินตาแล้ว

ข่าวล่าสุด

SME D Bank จัด 'Culture Day' ขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กร "ประสานพลัง-พัฒนาเรียนรู้" สู่การเติบโต