posttoday

ภาพวาดชนะเลิศ โครงการปลุกจิตสำนึกรู้คุณแผ่นดิน

19 ตุลาคม 2558

เส้นสีแห่งงานศิลป์ซึ่งสะท้อนผ่านภาพวาดจำนวน 150 ภาพ ภายใต้แนวคิด “จิตวิญญาณสามัคคี ทำความดีแด่องค์ราชันย์” ที่ได้นำมาแสดงในนิทรรศการรู้คุณแผ่นดิน โดยกรมกิจการพลเรือนทหารบก นับเป็นกิจกรรมของโครงการ “ปลุกจิตสำนึกรู้คุณแผ่นดิน” ปีที่ 4 ประจำปี  2558  ที่ได้หล่อหลอมดวงใจของคนไทยอีกหนึ่งกิจกรรม

เส้นสีแห่งงานศิลป์ซึ่งสะท้อนผ่านภาพวาดจำนวน 150 ภาพ ภายใต้แนวคิด “จิตวิญญาณสามัคคี ทำความดีแด่องค์ราชันย์” ที่ได้นำมาแสดงในนิทรรศการรู้คุณแผ่นดิน โดยกรมกิจการพลเรือนทหารบก นับเป็นกิจกรรมของโครงการ “ปลุกจิตสำนึกรู้คุณแผ่นดิน” ปีที่ 4 ประจำปี  2558  ที่ได้หล่อหลอมดวงใจของคนไทยอีกหนึ่งกิจกรรม

การประกวดภาพวาดนี้ มุ่งหวังให้งานศิลปะเป็นสื่อกระตุ้นเตือนคนไทยให้รู้รัก สามัคคี  รู้ถึงหน้าที่ที่พึงมีต่อสถาบันหลักของชาติและทำความดีถวายพ่อหลวง ประกอบกับปีนี้เป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 88 พรรษา จึงควรที่คนไทยทุกคนจะหันมาเริ่มต้นตั้ง “ปณิธานแห่งความดี” ร่วมกันในปีอันเป็นมหามงคลนี้

ภาพวาด 150 ชิ้น ที่ผ่านการคัดเลือกจากผลงานทั้งสิ้น 1,895 ภาพ จากทั่วทุกภาคของประเทศไทย ถูกส่งต่อให้กูรูทางศิลปะระดับแนวหน้า อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม)  อาจารย์สังคม ทองมี ประธานก่อตั้งศูนย์ศิลป์สิรินธร  ผศ.ถาวร โกอุดมวิทย์ รองอธิการบดี ฝ่ายศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร  รศ.ทินกร กาษรสุวรรณ หัวหน้าภาควิชาภาพพิมพ์ คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และ ผศ.ดร.อภิชาติ พลประเสริฐ ประธานสาขาวิชาศิลปศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้พิจารณาในรอบสุดท้าย 

สำหรับหลักเกณฑ์ในการตัดสินก็ดูจากการนำเสนอเนื้อหาได้ตรงตามวัตถุประสงค์และหัวข้อประกวด ความสมบูรณ์ คมชัด สวยงาม องค์ประกอบของภาพ และเทคนิคการสร้างสรรค์งาน จนได้ผู้ชนะใน 4 ประเภทรางวัล ได้แก่ ณรงค์ชัย สิทธิวัฒนาพร ผู้ชนะเลิศระดับประชาชน วิรัตน์ เอกปัจฉา ผู้ชนะเลิศระดับอุดมศึกษา พลวัฒน สามิดี ผู้ชนะเลิศระดับมัธยมศึกษา และ ด.ช.กฤตยชญ์ มาสม ผู้ชนะเลิศระดับประถมศึกษา

อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ หนึ่งในคณะกรรมการตัดสินเอ่ยปากว่า เห็นงานของเด็กแล้วเครียด “เครียดเพราะเก่งกันจริงๆ ซึ่งในงานนิทรรศการรู้คุณแผ่นดินนี้ เราจะได้ดูรูปพระเจ้าอยู่หัวที่สวยงาม รูปที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับประเทศชาติของเรา เป็นผลงานที่น่าชม และจะได้เห็นว่าลูกหลานไทยของเราเก่งมาก สุดยอดจริงๆ เก่งที่สุด”

ภาพวาดที่ส่งเข้าประกวดต่างใช้เทคนิคการลงสีที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสีอะครีลิกบนผ้าใบ สีอะครีลิกบนไฟเบอร์กลาส สีอะครีลิกและทองคำเปลว สีโปสเตอร์ ดินสอสี สีไม้ สีชอล์ก สีชอล์กน้ำมัน งานปะติด  ซึ่งให้มิติทางศิลปะทั้งเส้นสายและสีสันที่คมชัดงดงาม การร้อยเรียงพลังรักสามัคคีผ่านเรื่องราวมากมาย ทั้งภาพที่ได้แรงบันดาลใจจากโครงการพระราชดำริ อาทิ โครงการฝนหลวง ฝายชะลอน้ำ หรือการปลูกป่า ภาพซึ่งสื่อถึงขนบประเพณีวัฒนธรรม เช่น ประเพณีลงแขกปลูกข้าวที่ต้องอาศัยการร่วมแรงร่วมใจกัน ภาพวิถีชีวิตของคนไทยในการอยู่ร่วมกับป่า น้ำ และธรรมชาติ ภาพความรักความสามัคคีที่สะท้อนผ่านวิถีไทย เช่น สถาบันครอบครัว สังคม หรือกระทั่งการทำความดีตามหลักพุทธศาสนา

ทุกภาพล้วนยึดโยงไปสู่ศูนย์รวมใจสูงสุดที่ผูกพันคนไทยทั้งชาติ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งดำรงพระองค์ทรงเป็นแบบอย่างของคนไทยในเรื่องการคิดดี ทำดี รู้รัก สามัคคี รู้จักแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่น และมีความสุขในการใช้ชีวิตบนความพอเพียงมาตลอดพระชนมายุของพระองค์

ด.ช.กฤตยชญ์ มาสม จากโรงเรียนบ้านไทยสามัคคี จ.สระแก้ว ซึ่งชนะเลิศการประกวดระดับประถมศึกษา เลือกใช้สีชอล์กน้ำมันวาดภาพเสาธงชาติที่กำลังจะล้มเสมือนมีวิกฤตร้ายมาทำลายประเทศ และมีคนไทยทุกเพศ ทุกวัย มาช่วยกันดึง มาค้ำมายันไม่ให้ชาติล้ม “ผมคิดว่าต่อให้มีสิ่งไม่ดีมาทำลายทำร้ายประเทศไทย ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะคนไทยมีความสามัคคี มีน้ำใจช่วยเหลือกัน เพราะความสามัคคีมีพลัง ทำให้ทุกคนคิดช่วยเหลือกัน”

พลวัฒน สามิดี จากโรงเรียนศรีสงครามวิทยา จ.เลย ผู้ชนะเลิศระดับมัธยมศึกษา เลือกโครงการฝนหลวงในพระราชดำริที่ตนคิดว่ามีความโดดเด่นมาก แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีในการนำเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า คือ สารฝนหลวง ไปช่วยราษฎรในถิ่นทุรกันดารให้มีอยู่มีกิน และมีความสุข เป็นการชี้ให้เห็นประโยชน์ของความสามัคคีที่ไม่ใช่เพื่อให้เกิดความสุขแก่ตนเองเท่านั้น แต่สามารถส่งต่อพลังความสามัคคีเป็นของขวัญแห่งความสุขให้ผู้อื่นได้ด้วย

“ในฐานะที่ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด ขอขอบคุณโครงการนี้ที่เปิดเวทีให้เด็กในต่างจังหวัดได้มีโอกาสแสดงผลงานทางศิลปะ รู้สึกดีใจที่มีคนมีฝีมือระดับประเทศเข้ามาร่วมประกวด ฝีมือแต่ละคนก็สุดยอด ซึ่งถ้ามีการจัดประกวดอีกก็อยากเชิญชวนเพื่อนๆ มาประกวดกันเยอะๆ มาช่วยกันแสดงให้ทุกคนได้รับรู้ถึงพลังรัก สามัคคีของคนไทยที่มีต่อชาติ ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญครับ”

ขณะที่ วิรัตน์ เอกปัจฉา นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้ชนะเลิศการประกวดในระดับอุดมศึกษา เลือกที่จะหยิบเอาประเพณีไทย เช่น ประเพณีลอยกระทง การปล่อยโคมไฟ มาเป็นเนื้อหาในการสื่อถึงความสัมพันธ์ที่ดีของคนในชาติ ซึ่งสะท้อนผ่านวัฒนธรรมที่งดงาม และแสดงให้เห็นถึงแผ่นดินไทยที่มีความร่มเย็นเป็นสุขภายใต้ร่มพระบารมี

“เป็นครั้งแรกที่เข้าร่วมในโครงการนี้ ถือว่าได้เปิดหูเปิดตาและได้รู้จักผลงานของผู้ที่มีใจรักในงานศิลปะเช่นเดียวกับเรา ภาพต่างๆ ที่ส่งเข้าประกวดดูแล้วรู้สึกดี เป็นภาพที่บอกเล่าเรื่องราวซึ่งแสดงถึงความสามัคคี ความรักใคร่กันของสังคมไทย ผมเชื่อว่าความสามัคคีจะทำให้คนไทยหันมารักกัน ช่วยเหลือและดูแลซึ่งกันและกัน และอยากให้คนไทยมาร่วมกันทำความดีแด่ในหลวง ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงตามคำสอนของท่านแล้วคนไทยจะมีความสุข”

 ด้าน ณรงค์ชัย สิทธิวัฒนาพร ผู้ชนะเลิศภาพวาดในระดับประชาชน กล่าวถึงมุมมองเรื่องความสามัคคีผ่านการใช้สัญลักษณ์จิ๊กซอว์ลายธงชาติมาต่อรวมกันเป็นชาติที่แข็งแรง มีคนไทยมาร่วมมือร่วมใจกันสร้างและบำรุงรักษาซ่อมแซมชาติ โดยที่ทุกคนต่างรู้จักหน้าที่และทำหน้าที่นั้นอย่างเต็มที่ ส่วนตัวเชื่อว่า ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ถ้ามีความสามัคคี

“ในฐานะคนไทยคนหนึ่งรู้สึกภูมิใจที่เกิดมาใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ ท่านก็มีพระคุณต่อแผ่นดินมาก จึงอยากให้ทุกคนรู้รัก สามัคคี เพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณแผ่นดิน ตอบแทนพระคุณของท่าน”

ข่าวล่าสุด

‘จีโนมิกส์ ไทยแลนด์’ เดิมพันอนาคตวงการแพทย์ไทย โครงการชื่อยากที่คนไทยได้ใช้แน่!