ไปรษณีย์กลาง บางรัก มีอะไรให้เที่ยว...

โดย...สมแขก ภาพ : คลังภาพบางกอกโพสต์

นอกจากบางรักจะขึ้นชื่อเรื่องการเดินทางมาจดทะเบียนของคู่แต่งงานใหม่ เรื่องของกินและแหล่งช็อปปิ้งแล้ว บางรักยังมีสถานที่สำคัญและสวยมากอยู่หลายแห่ง แต่สถานที่ที่เราจะแนะนำครั้งนี้ก็คือ “ไปรษณีย์กลาง บางรัก” ซึ่งตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2478 และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2483

 วัยรุ่นหลายคนงงว่าไปรษณีย์กลางมีอะไรให้เที่ยว เพราะคงจะมีเรื่องของไปรษณียากร แต่คนที่รักแสตมป์และชื่นชอบเรื่องเล่าเก่าๆ การมาที่นี่นับว่ามีประโยชน์ นอกจากนี้ สำหรับนักถ่ายภาพก็มีมุมให้แชะอยู่หลายมุม ว่าแล้วก็เริ่มต้นออกเดินทางกันเลย อาคารรูปตัวที (T) และสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์นแนวทางของศิลปะในยุค Neo-Classicism ผสม Functionalism สวยสะดุดตาตั้งแต่แรกเข้ามา การออกแบบที่เรียบง่าย โดยมีพระสาโรชรัตนนิมมานก์เป็นสถาปนิก ทำให้อาคารแห่งนี้คงความคลาสสิกได้ไม่เสื่อมคลาย

 

เริ่มจากด้านหน้าของอาคาร หลายคนเข้าใจว่าเป็นพระบรมรูปของรัชกาลที่ 5 ทว่าความจริงแล้วเป็นพระอนุสาวรีย์ จอมพลสมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังสีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งอธิบดีผู้สำเร็จราชการกรมไปรษณีย์พระองค์แรก และพระองค์ได้รับการยกย่องให้เป็นพระบิดาแห่งกิจการไปรษณีย์ไทย

เปิดประตูเหล็กที่อายุกว่า 75 ปีเข้ามา จะเจอชั้นล่างสุดของอาคารเป็นโถงสามารถเช่าจัดงานได้ ตั้งแต่งานอีเวนต์ งานแต่งงาน หรือจัดนิทรรศการหมุนเวียนได้ทั้งหมด ลองนึกถึงธีมงานแต่งแบบย้อนยุคแล้วมาเดินกรีดกรายที่นี่ดูคงเก๋ไม่หยอก

 

ต่อมาเป็นชั้นของโรงละครและห้องประชุมต่างๆ ด้านหน้าของห้องประชุมจะมีภาพเก่าที่บอกเล่าเรื่องราวของวิวัฒนาการของไปรษณีย์ไทยตั้งแต่แรกเริ่มเป็นไปรสนียาคาร การโยกย้ายอาคารจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ส่วนโรงละครนั้นแม้ตอนนี้จะมองว่ามีขนาดเล็กกว่าโรงละครที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน แต่โรงละครแห่งนี้มีไว้เพื่อกิจกรรมรำโทนของข้าราชการในยุค 70 ปีที่แล้ว ดูคลาสสิกและคลุ้งกลิ่นอดีตอยู่จางๆ

การออกแบบจะสร้างให้มุขหน้าบริเวณกึ่งกลางของอาคารมีขนาดใหญ่และประดับด้วยปูนปั้นรูปครุฑที่มุขหน้าทั้งสองด้าน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่สะท้อนความนิยมสำหรับงานสถาปัตยกรรมในยุคนั้น โดยขนาดตัวครุฑสูงกว่า 2 เท่าของคนจริง และถ้าหากเราเดินขึ้นเพื่อไปชั้นดาดฟ้าก็จะสามารถมองเห็นรูปปั้นครุฑได้ใกล้ชิดและชัดเจน แนะนำว่าดาดฟ้าจะต้องรอให้แดดร่มเสียก่อน เพราะจะได้มุมภาพสวยๆ และเรายังสามารถเห็นวิวของบางรักและถนนเจริญกรุงได้ด้วย

 

มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับรูปปั้นครุฑต่อๆ กันมาว่า ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารฝ่ายสัมพันธมิตรได้ทิ้งระเบิดในสถานที่สำคัญของกรุงเทพฯ หลายแห่ง ซึ่งกรมไปรษณีย์โทรเลขในขณะนั้นที่เป็นตึกใหญ่และสูงที่สุดในย่านสุรวงศ์และสี่พระยา และนับว่าเป็นศูนย์กลางการสื่อสารที่สำคัญ กลับรอดจากระเบิดอย่างน่าประหลาด เพราะแม้ฝ่ายสัมพันธมิตรจะจงใจทิ้งระเบิดลงจุดนี้ แต่หลายครั้งก็พลาดและระเบิดด้าน หลายคนจึงเชื่อว่าครุฑสองตัวที่มุขด้านหน้าช่วยปัดป้องระเบิดให้อาคารแห่งนี้ปลอดภัย

 ไม่เพียงแต่ความสวยงามโอ่อ่าและความสวยคลาสสิกที่ควรค่าแก่การเป็นอาคารอนุรักษ์แล้ว ภายในอาคารยังมีภาพปูนปั้นผลงานของ ศ.ศิลป์ พีระศรี ศิลปินผู้บุกเบิกงานประติมากรรมแบบสากลในประเทศไทย ใครที่อยากชมภาพปูนปั้นเหล่านี้ก็สามารถมาชมกันได้ที่ไปรษณีย์กลาง บางรัก ซึ่งกระจายอยู่เกือบทุกชั้นเลยล่ะ

 

ระหว่างที่รอให้แดดร่มเพื่อไปเก็บภาพสวยๆ บนดาดฟ้า สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของบางรักได้อีกหลายแห่ง เช่น โบสถ์อัสสัมชัญที่อายุเก่าแก่กว่า 200 ปี งดงามด้วยศิลปะแบบเรอเนซองส์ หรือถ่ายภาพชิลๆ สไตล์ฮิปที่สถานีดับเพลิงบางรักก็ได้อารมณ์อีกแบบหนึ่ง รับรองว่าจะเป็นหนึ่งวันหยุดที่คุ้มค่ามากทีเดียว