ภัทรดนัย เสตสุวรรณ ไอศกรีมใส่ไอเดีย ‘ครีมมี บัซเซิล’
ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ทำให้ไอศกรีมเป็นเมนูคลายร้อนของใครหลายคน
โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์
ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ทำให้ไอศกรีมเป็นเมนูคลายร้อนของใครหลายคน นักร้องวงเค-โอติก และนักแสดงหนุ่ม “เขื่อน-ภัทรดนัย เสตสุวรรณ” จากภาพยนตร์ “หอแต๋วแตก แหกนะคะ” ค่ายโมโนฟิล์ม ในเครือ โมโน กรุ๊ป เป็นอีกหนึ่งนักชิม (ไอศกรีม) ที่ตอนนี้ผันตัวมาเป็นนักธุรกิจ เปิดร้านไอศกรีมในแบบฉบับของตัวเอง ครีมมี บัซเซิล (Creamy Buzzle)...จะอร่อยและน่ากินเหมือนเจ้าของมั้ยเนี่ย?
“เมื่อก่อนเป็นนักชิมไอศกรีม เพราะชอบเมนูของหวานอร่อยๆ ครับ แต่ตอนนี้เป็นเจ้าของร้านไอศกรีมแล้ว ก็ยังชอบกินและต้องเพิ่มหน้าที่ในการเฟ้นหาของอร่อยใหม่ๆ เพื่อต้อนรับลูกค้าของเรา ความฝันของผมคือ ธุรกิจไอศกรีมในแบบฉบับของตัวเอง ที่มีรสชาติถูกปาก เป็นทั้งอาหารตาและอาหารใจที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่” เขื่อนเล่า
“ก่อนหน้านี้เขื่อนเคยทำขนมขายกับเพื่อนๆ มาก่อน ขายมาหมดแล้ว ทั้งคุกกี้บราวนี่ เยอะแยะมากมาย ส่วนใหญ่ก็ดัดแปลงคิดสูตรเอง ทำเองขายเอง โดยขายตามบูธงานต่างๆ ใช้เวลาว่างจากการทำงานศิลปินไปทำครับ เป็นงานอดิเรกที่ผมทำมานานแล้ว ได้การตอบรับจากลูกค้าบ้างอะไรบ้าง เราก็นำมาปรับปรุงสูตรของเรามาเรื่อยๆ จนลงตัวในปัจจุบัน”
ปัจจุบันนักร้องนักแสดงหนุ่มยังทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร ที่สถาบันเสริมความงาม วุฒิ-ศักดิ์ คลินิกด้วย โดยล่าสุดเขาแบ่งเงินทุนก้อนหนึ่ง เพื่อนำมาตั้งต้นธุรกิจ สานฝันร้านไอศกรีมคนรุ่นใหม่ ซึ่งทุ่มเทอย่างมาก ถือเป็นธุรกิจหลักที่จะใช้เป็นธุรกิจของครอบครัวต่อไป
“ร้านขนมและไอศกรีมของผม คิดคอนเซ็ปต์เริ่มต้นจากไอเดียที่ต้องโดนใจ เราอยากทำร้านไอศกรีม ต้องเป็นร้านที่ไม่เหมือนใคร เพราะร้านประเภทไอศกรีม-หวานเย็นในศูนย์การค้ามีคู่แข่งเยอะ”
เขื่อนเล่าว่า ธุรกิจร้านไอศกรีมน่าจะเหมาะกับเมืองไทย ซึ่งเป็นเมืองร้อน คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่มีเมนูโปรดเป็นไอศกรีม รับประทานแล้วคลายร้อน ที่สำคัญต้องมีความสวยงาม ต้องมีไอเดียที่ดี คนกินสามารถถ่ายและโพสต์รูปได้ไม่อายใคร
อย่างเขื่อนเองชอบกินของหวาน แต่ไม่ชอบรสชาติที่หวานเกินไป อย่างไรก็ตามคนไทยบางกลุ่มก็ยังชอบหวานอยู่ เขื่อนจึงแก้ปัญหานี้ด้วยการมาพบกันครึ่งทาง ทำอย่างไรให้ถูกใจคนชอบหวานกลางๆ แถมสนุกกับการได้มาที่ร้านของเรา โพสต์รูปไอศกรีมของเรา
“เดี๋ยวนี้คนไม่ได้ต้องการมากินอย่างเดียว แต่ต้องการร้านที่แชร์ไลฟ์สไตล์ของเขาได้ด้วย ก็ออกมาเป็นครีมมี บัซเซิลครับ”
Creamy Buzzle มีความหมายว่า ครีมต่างๆ และเสียงผึ้ง คอนเซ็ปต์การออกแบบร้านเป็นรังผึ้ง ทุกอย่างออกแบบล้อกับรวงผึ้ง มีรสนมสด รสชาเขียว และทูโทน ได้แก่รสนมสดผสมชาเขียว เนื้อไอศกรีมอร่อยกลมกล่อม ไม่หวานมาก โดยเป็นสูตรที่เขื่อนและคุณแม่ช่วยกันคิดและปรับปรุง
“จุดเด่นของเราคือไม่หวานมาก แต่อร่อยนุ่มนวล นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเลือกท็อปปิ้ง หรือเครื่องโรยหน้าไอศกรีมมากกว่า 20 รายการ ออกแบบไอศกรีมถ้วยโปรดของตัวเองได้อย่างเต็มที่อลังการ” เขื่อนเล่า
สำหรับราคาก็ไม่แพงมาก เริ่มต้นที่ 79 บาทเท่านั้น เติมด้วยท็อปปิ้งต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มรสชาติ เช่น สายไหม รังผึ้ง สตรอเบอร์รี่ช็อกโกแลต บราวนี่ ฯลฯ ราคาท็อปปิ้งรายการละ 20-30 บาทเท่านั้น ลูกค้าได้สนุกกับการสร้างสรรค์ไอศกรีมหน้าตาสวยๆ น่ารับประทานในสไตล์ของตัวเอง”
เขื่อนเล่าว่า เปิดร้านมานานกว่า 6 เดือนแล้ว กระแสตอบรับเรียกได้ว่าดีทีเดียว น่าปลื้มใจเวลาเห็นลูกค้าเข้าร้านเยอะๆ (ฮา) สาขาแรก Creamy Buzzle เซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น 3 ถือว่าประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ขายดีมาก แปลกใจตัวเองอยู่นิดหน่อยตรงที่คาดการณ์ว่าลูกค้าส่วนใหญ่คงเป็นวัยรุ่น แต่กลายเป็นว่ากลุ่มลูกค้าของครีมมี บัซเซิลเป็นกลุ่มคนทำงาน
ส่วนกระแสตอบรับในโลกโซเชียลIG : Creamy Buzzle และ www.facebook.com/creamybuzzle ก็ดีมากเช่นกัน ทุกคนที่มาร้านนอกจากจะติชมรสชาติของไอศกรีมโดยตรงแล้ว ส่วนใหญ่ยังชื่นชมในไอเดียของตัวไอศกรีม โดยเฉพาะการตกแต่งร้านที่แปลกใหม่ นั่งแล้วเหมือนอยู่ในรังผึ้งได้บรรยากาศเหมือนเป็นผึ้งตัวหนึ่งในรัง ที่แอบกินขนมเสียเอง อุ๊ปส์ (หัวเราะ) ทุกคนอัพรูปสวยๆ คู่กับไอศกรีม บอกต่อความอร่อย
อนาคตกับโอกาสการขยายธุรกิจ เขื่อนเล่าว่า เป้าหมายระยะสั้นคือการทำร้านสาขาแรกให้ลงตัว ในช่วงนี้ต้องทุ่มเทเวลาและการทำงานให้อย่างเต็มที่ เนื่องจากมองว่าเป็นธุรกิจของครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบสูง ธุรกิจดี ปันผลดี ดูแลลูกน้องได้ก็พอใจแล้ว ขณะเดียวกันก็ปูฐานไว้สำหรับอนาคตต่อยอดเป็นสาขาใหม่ๆ รอเวลาและความพร้อมสำหรับอนาคต
“ความคาดหวังของผมก็คือ ธุรกิจอยู่ได้ ยืนอยู่ได้ เป็นรายได้ของครอบครัว เป็นโอกาสทางธุรกิจที่คงจะทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปครับ” เขื่อนเล่า
สำหรับข้อแนะนำสำหรับวัยรุ่นในการทำธุรกิจ นักแสดงหนุ่มจากหอแต๋วแตก แหกนะคะ เล่าว่า เริ่มจากความชอบส่วนตัวน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แม้ช่วงแรกที่เริ่มต้นอาจจะยังขลุกขลัก เพราะสายสัมพันธ์หรือเครดิตต่างๆ อาจจะยังไม่แน่นหรือดีพอ ก็ต้องค่อยๆ ขยับขยาย อย่าใจร้อนหรือใจเร็วด่วนได้ ต้องรอบคอบและควรมีผู้ใหญ่หรือผู้เชี่ยวชาญในสาขาธุรกิจนั้นๆ เป็นพี่เลี้ยง คอยกำกับหรือให้คำปรึกษา ก็ไม่ผิดกติกา
เขื่อนเล่าว่า อยากให้ทุกคนที่อยากทำธุรกิจได้เริ่มต้นทดลองในสิ่งที่อยากทำดู อย่าปล่อยให้เวลาผ่านเลยไปอย่างเปล่าประโยชน์ การเริ่มต้นธุรกิจในช่วงวัยหนุ่มสาวมีข้อดีตรงที่มีแรงและมีพลังที่ดี มีทัศนคติที่ดี ล้มแล้วลุกใหม่ได้ พลาดได้เพราะยังมีเวลา ยังมีโอกาส แต่ต้องไม่ประมาท ต้องขวนขวายหาความรู้ในสิ่งที่จะทำให้ถ่องแท้ หาตัวช่วยที่ดี คือคนที่ทำธุรกิจมาก่อน จะช่วยเราได้มาก
“อย่างเขื่อนเริ่มต้นจากความชอบครับ ถ้าเราชอบกิน เราก็จะสามารถอยู่กับมันได้เรื่อยๆ เราชอบของอร่อย มีคุณภาพ เราก็จะสามารถบอกต่อสินค้าของเราได้อย่างเต็มใจและพูดได้อย่างเต็มปาก ก็ลองดูนะครับ ชอบอะไรเริ่มจากสิ่งนั้นครับ ถึงจะมีปัญหาแต่เราก็จะไม่ท้อง่าย เพราะเราชอบมัน”


