หงส์สังหาร (ใจ) 'ซูฉี'
เมื่อ The Assassin เดินสายออกฉายในเทศกาลหนังยุโรป ทุกสายตาต่างก็จับจ้องไปที่ดาราสาว “ซูฉี”
โดย... แหนง-ดู ภาพ... AFP/EPA
เมื่อ The Assassin เดินสายออกฉายในเทศกาลหนังยุโรป ทุกสายตาต่างก็จับจ้องไปที่ดาราสาว “ซูฉี” ซึ่งเดินทางไปร่วมโปรโมทหนังในฐานะนางเอกของเรื่อง ด้วยความโดดเด่นที่รูปร่างหน้าตา การแต่งกาย รวมทั้งกิริยาท่าทางที่สวยงามเซ็กซี่ชวนมอง การปรากฏตัวของเธอคนนี้จึงเป็นที่ติดตาตรึงใจของผู้คนได้เสมอ
วันนี้ The Assassin หรือประกาศิตหงส์สังหาร ยังคงอยู่ในโปรแกรมฉายของโรงหนังบ้านเรา (และอีกหลายๆ ประเทศ) หนังบู๊พลิ้วไหวที่มีเอกลักษณ์ชัดเจนเรื่องนี้ทำให้ โหวเสี่ยวเซี่ยน จากไต้หวันได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ปี 2015 สำหรับ โหวเสี่ยวเซี่ยน เขาเป็นคนทำหนังที่มองเห็นศักยภาพและทำให้สาวร้อนฉ่าสุดเซ็กซี่อย่าง ซูฉี กลายมาเป็นนักแสดงที่มีฝีมือไว้ขาย เริ่มจากการทำงานร่วมกันใน Millennium Mambo ปี 2001 ตามมาด้วย Three Times ปี 2005 และปีนี้กับ The Assassin
ซูฉี ในวัย 40 ปี แสดงหนังมาแล้วกว่า 80 เรื่อง และละครอีก 5 เรื่อง เธอเป็นเจ้าของรางวัลเกียรติยศอย่างม้าทองคำ แต่กว่าจะมายืนอยู่จุดนี้ได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เธอเริ่มต้นนับหนึ่งจากการเป็นนางแบบสมัครเล่นระหว่างเรียนชั้นมัธยมเพื่อหาเงินช่วยเหลือครอบครัว ก่อนจะต้องออกจากโรงเรียน ตอนอายุ 16 ปี เธอเริ่มรับงานแสดงวับๆ แวมๆ ก่อนจะกลายเป็นนางเอกหนังติดเรท แต่หลังๆ ก็มีโอกาสได้แสดงฝีมือกับหนังกระแสหลักอย่าง Millennium Mambo ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลม้าทองคำในปี 2001 เธอกลายเป็นนักแสดงไต้หวันที่โด่งดังทั้งในฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ก่อนจะมีโอกาสโกอินเตอร์กับ Transporter ที่แสดงคู่กับ เจสัน สเตแธม
กับการแสดงใน The Assassin นับเป็นความท้าทายของ ซูฉี เธอต้องใช้ความสามารถทางด้านการแสดงอย่างมากในหนังที่พูดน้อยมากๆ เรื่องนี้ นอกจากนั้นเธอยังต้องศึกษาเรียนรู้เรื่องศิลปะการต่อสู้หลายกระบวนท่า ในหนังกำลังภายในย้อนยุคเรื่องนี้ ซูฉี รับบทบาทเป็นหญิงสาวที่ถูกลักพาตัวเพื่อไปฝึกเป็นนักฆ่าตั้งแต่เด็ก เมื่อเธอทำงานพลาดจะถูกลงโทษให้กลับไปเผชิญอดีตในบ้านเกิด โดย ซูฉี ได้ประชันบทบาทกับ จางเจิน ที่เคยร่วมงานกันในเรื่อง Three Times มาก่อน โหวเสี่ยวเซี่ยน บอกว่า ทั้งสองเป็นตัวละครในฝัน ต่างก็มีฝีมือการแสดงที่ไม่ธรรมดา พวกเขาแสดงร่วมกันอย่างเป็นธรรมชาติ
ซูฉี หรือ หลินลี่ฮุ่ย หรือ แฟนนี ในวันนี้ยังเจิดจรัสมากๆ ที่สำคัญคือ เธอยังโสด ซูฉี บอกว่า การแต่งงานเป็นเรื่อง “เสียเวลา” และ “เสียช่วงวัยหนุ่มสาว” อาจจะเพราะว่า เธอมีประสบการณ์ไม่ดีจากชีวิตแต่งงานซึ่งไม่มีความสุขของพ่อแม่
“แม่ฉันเป็นคนที่ไม่มีโชคเรื่องชีวิตคู่ แม่มีฉันตอนอายุ 18 ปี ตอนนี้ฉันก็ 40 แล้ว แม่เองก็เพิ่งจะ 58 เท่านั้น ตอนเป็นสาวๆ แม่เชื่อว่าตัวเองไม่สามารถที่จะทำตามความฝันได้ เพราะต้องเลี้ยงลูก แม่ฉันเลยคิดว่า การแต่งงานทำให้เราเสียเวลาของวัยหนุ่มสาวและเสียเวลาของชีวิต”
แต่เมื่อเห็นเพื่อนๆ ทยอยมีคู่กันไป ก็มีบางครั้งที่เธอเกิดความรู้สึกขัดแย้งในใจ “เรื่องแบบนี้คนในอยากออก คนนอกอยากเข้านะ คนโสดก็อิจฉาคนมีคู่ คนมีคู่ก็อิจฉาคนโสด ตอนที่ฉันไปกินข้าวกลางวันกับเพื่อนๆ แล้วพวกเขามีลูกๆ มารับกลับ ฉันก็อดคิดไม่ได้ว่า มันคงจะดีเนอะถ้ามีลูกชายโตขนาดนั้น...”
ด้วยการงานอาชีพทำให้ ซูฉี เลือกที่จะเก็บเรื่องราวความรักเป็นความลับ จริงๆ แล้วเธออาจจะมีใครอยู่ก็ได้ และถ้าพูดย้อนหลังไปถึงข่าวคราวความสัมพันธ์กับ หวังลี่หง, หลี่หมิง และ สตีเฟ่น เฟิง ในอดีต เธอก็ปฏิเสธว่า พวกเขาทั้งหมดนั้นเป็นแค่เพื่อน
หลังจาก The Assassin แล้วงานชิ้นต่อไปของ ซูฉี ที่จะออกฉายคือ All You Need Is Love หนังเรื่องที่ 2 ของ เริ่นเสียนฉี ในฐานะผู้กำกับ รวมทั้ง My Best Friend’s Wedding หนังโรแมนติกคอเมดี้เรื่องดังของ จูเลีย โรเบิร์ตส ที่นำมาสร้างใหม่ในเวอร์ชั่นจีน ซึ่งจะออกฉายในปี 2016
และแสงแห่ง ซูฉี ก็จะเปล่งประกายมัดใจชายทั้งปฐพี


