อภิสฤษฎิ์ นิรุชทรัพย์รดา ทำธุรกิจคู่แข่งเยอะต้องกล้าแตกต่าง

โดย...ตุ้ย แมงโก้หวาน ภาพ กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร

ถือเป็นภารกิจท้าทายไม่น้อยในการสานต่อธุรกิจของครอบครัวให้เจริญก้าวหน้าต่อไป สำหรับ ยู-อภิสฤษฎิ์ นิรุชทรัพย์รดา ทายาทรุ่นสองที่ก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่ง และนั่งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาต้า เพาเวอร์ ผู้ผลิตและจำหน่ายปลั๊กจ่ายไฟฟ้าคุณภาพแบรนด์ดาต้า (Data) ที่อยู่คู่ประเทศไทยมา 20 กว่าปี

คุณภาพและความปลอดภัยมาก่อน

ผู้บริหารหนุ่มยอมรับว่า ย้อนไป 25 ปีที่แล้ว ธุรกิจนี้ตลาดดีมาก แต่ 10 ปีที่ผ่านมาเกิดการแข่งขันตัดราคารุนแรง จนปัจจุบันปลั๊กไฟอันหนึ่งราคา 50-60 บาท ถือว่าถูก แถมยังต้องสู้กับสินค้าของจีนที่หลั่งไหลเข้ามา ทำให้ดาต้าต้องปรับตัวตลอดให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยการพัฒนาและผลิตสินค้าที่เน้นคุณภาพและความปลอดภัย

โดยมีการนำโครงการ ISO9001:2008 มาใช้ในการผลิต และมาตรฐานอื่นๆ เช่น  ISO14001 กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ มาตรฐานสินค้า Ce Mark การตรวจวัดคุณสมบัติและผลิตภัณฑ์กับสถาบันไฟฟ้า การทดสอบ Eup ว่าเป็นสินค้าใช้พลังงานต่ำ เป็นต้น พร้อมนำเสนอแก่ผู้บริโภคในราคาที่เหมาะสม

“เราไม่ขายของถูก เพราะชีวิตคนเรามีค่ามากกว่าที่จะเอามาเสี่ยง ทุกชีวิตต้องการความปลอดภัย อีกอย่างเราไม่ใช้กลยุทธ์การตัดราคา แต่มุ่งเน้นพัฒนาและผลิตสินค้าตามมาตรฐานสากลและความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคเป็นสำคัญ พร้อมนำเสนอในราคาที่เหมาะสมและยอมรับได้

คุณสมบัติปลั๊กไฟดาต้าจะมีเต้าไฟที่รับความร้อนสูง มีเบรกเกอร์ตัดไฟอัตโนมัติ ใช้ทองเหลืองแท้จากต่างประเทศ ซึ่งเป็นวัสดุอันเดียวที่สั่งจากต่างประเทศ สายไฟมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) 100% พิเศษกว่ารายอื่นตรงที่ช่วงประกันสินค้าสามารถเปลี่ยนคืนสินค้าได้ทันที” ทายาทรุ่นสองพูดถึงอัตลักษณ์ของดาต้าฯ

 

มุ่งสร้างความหลากหลายให้สินค้า

ในการผลิตสินค้านอกจากจะมุ่งเน้นคุณภาพที่ได้มาตรฐานและความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นหลักแล้ว ทายาทหนุ่มคนเดียวของดาต้ายังได้พัฒนาปรับปรุงและพยายามออกสินค้าใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับกับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

“ช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา การมาของคอมพิวเตอร์ เครื่องเสียงคุณภาพดี โทรทัศน์ราคาถูกลง แกดเจ็ตต่างๆ โทรศัพท์มือถือ ล้วนเป็นปัจจัยให้ตลาดปลั๊กไฟเติบโตอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าเริ่มมีความต้องการปลั๊กไฟที่ตอบสนองต่ออุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งเราได้มองเห็นเทรนด์นี้มานานแล้ว จึงได้ผลิตปลั๊กไฟที่มียูเอสบีอยู่ด้วยขึ้นมารองรับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ซึ่งเราเป็นเจ้าแรกในกลุ่มผู้ผลิตในประเทศที่ออกผลิตภัณฑ์นี้มา นอกจากนี้ เรายังออกแบบปลั๊กไฟที่สามารถใช้กับอุปกรณ์เกือบทุกชนิดจากทั่วโลกไว้ในอันเดียวกัน

พร้อมกันนี้ยังผลิตสินค้าใช้ในโอกาสต่างๆ อีกด้วย เช่น ปลั๊กไฟสำหรับแม่ ปลั๊กไฟสังฆทาน ปลั๊กไฟหลากสีสัน หรือแม้แต่ปลั๊กไฟที่เหมาะกับการใช้งานเฉพาะอย่าง เช่น ปลั๊กไฟสำหรับคอมพิวเตอร์ ปลั๊กไฟสำหรับเครื่องเสียง เป็นต้น เรียกว่าถ้าพูดถึงปลั๊กไฟที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดีและปลอดภัยก็ต้องปลั๊กไฟดาต้า ซึ่งดาต้าอยู่คู่สังคมไทยมากว่า 25 ปี ถือเป็นแบรนด์ที่การันตีในความซื่อสัตย์ที่เรามีต่อลูกค้าด้วยดีเสมอมา” อภิสฤษฎิ์ พูดถึงผลิตภัณฑ์ของดาต้า

พร้อมทั้งพูดถึงผลิตภัณฑ์หนึ่งของดาต้าที่เขาพยายามสร้างความแตกต่างและไม่เหมือนใครให้กับแบรนด์ของตัวเอง ก็คือปลั๊กไฟโดราเอมอน ซึ่งดาต้าเป็นผู้ผลิตปลั๊กไฟเจ้าเดียวในประเทศไทยที่ได้ลิขสิทธิ์โดราเอมอนจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นหรือคนรุ่นใหม่ต่างเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว

เลือกโดราเอมอนสร้างการรับรู้แบรนด์

อภิสฤษฎิ์ เล่าที่มาการนำโดราเอมอนมาอยู่บนปลั๊กไฟให้ฟังว่า เพราะโดราเอมอนเป็นเทคโนโลยี คือเป็นหุ่นยนต์และอยู่คู่สังคมไทยมานานกว่า 50 ปี ซึ่งคนไทยทุกเพศทุกวัยรู้จักเป็นอย่างดี ตั้งแต่รุ่นคุณแม่มาจนถึงรุ่นลูก บางคนชอบดูการ์ตูนโดราเอมอน บางคนก็อ่านหนังสือการ์ตูนโดราเอมอน จึงมั่นใจว่าโดราเอมอนจะสร้างการรับรู้แบรนด์ดาต้าให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี

“ก่อนตัดสินใจเลือกโดราเอมอนมาประทับบนสินค้าของเรา ผมได้ทำรีเสิร์ชตัวการ์ตูนที่คนชื่นชอบที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นวันพีซ โคนันคิตตี้ มิกกี้เมาส์ โดราเอมอน แล้วก็เห็นว่าโดราเอมอนเป็นตัวการ์ตูนที่อยู่คู่สังคมไทยมานาน และคนทุกกลุ่มอายุรู้จักโดราเอมอนมากกว่าตัวการ์ตูนอื่นๆ อย่าง วันพีซ โคนันส่วนใหญ่กลุ่มวัยรุ่นที่รู้จัก มิกกี้เมาส์ คิตตี้ เป็นเฉพาะกลุ่มผู้หญิง เพราะฉะนั้นผมจึงเลือกโดราเอมอนมาเป็นพันธมิตรเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ดาต้าให้เป็นที่รู้จักของลูกค้า ซึ่งผลตอบรับดีมาก”   

ถือว่าเป็นมุมมองการทำธุรกิจที่เข้าใจในไลฟ์สไตล์และความชอบของคนในยุคนี้เป็นอย่างดี และเขาพร้อมที่จะนำพาดาต้าที่คุณพ่อของเขาสร้างมาให้ดำรงอยู่คู่สังคมไทยต่อไปด้วยความซื่อสัตย์ภักดีต่อลูกค้าเหมือนที่คุณพ่อของเขาพร่ำปฏิบัติมา

“คุณพ่อสอนผมเสมอไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดที่เราต้องมีประจำใจคือความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ซึ่งผมจดจำอย่างดีและอยู่ในใจผมตลอดมา และเป็นที่มาว่าทำไมดาต้าจึงต้องเน้นคุณภาพดีและความปลอดภัย ทุกวันนี้ผมไปสำรวจหลายที่ ไปเจอปลั๊กไฟตัวละสิบยี่สิบบาท ไม่รู้เขาเอาสายไฟอะไรมาเป็นมาตรฐาน เล็กมาก ดังนั้นเราไม่รู้หรอกว่าลูกค้าจะปาลูกดอกไปลงช่องไหน ถ้ามาลงช่องเราเขาก็มั่นใจได้เลยว่าเขาจะได้สินค้าคุณภาพดี และสร้างความปลอดภัยให้เขาอย่างแน่นอน”

 

ไลฟ์สไตล์ ใช้ชีวิตและการดูแลหุ่น

ด้วยความชอบพบปะบุคคลเขาจึงชอบไปอบรมคอร์สต่างๆ ใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อนำความรู้มาพัฒนาธุรกิจ ขณะเดียวกันเวลาว่างก็จะหยิบหนังสือต่างๆ ทั้งแนวบริหารและจิตวิทยามาอ่าน ส่วนการดูแลหุ่นให้ดูดีเขาเลือกเข้าฟิตเนสสัปดาห์ละ 3 ครั้ง และใช้เวลาในฟิตเนสประมาณ 2 ชั่วโมง ถ้าอยู่บ้านใช้เวลาประมาณ 30 นาที ออกกำลังกาย เพราะไม่มีอุปกรณ์อะไรมากมาย

ขณะที่หลักในการดำเนินชีวิตเขายึดคำสอนของคุณแม่มาปฏิบัติอยู่เสมอ นั่นคือการยึดมั่นในความกตัญญูกตเวที เลือกทำแต่ในสิ่งที่ดีและไม่เบียดเบียนคนอื่นให้เดือดร้อน พร้อมแนะนำศิลปะในการจัดการความเครียดว่า ทุกคนมีเรื่องให้เครียด ซึ่งเราเรียนรู้ที่จะเครียดได้ แต่ก็ต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวางได้เช่นกัน

ทว่าเมื่อถามถึงสาวในสเปกที่อยากแต่งงานด้วย ผู้บริหารหนุ่มทายาทคนเดียวของดาต้า บอกว่า ชอบผู้หญิงเก่ง ฉลาด มีความสามารถ สวย ดูแลตัวเองเป็น รักครอบครัว และที่สำคัญต้องรักเขาและครอบครัวของเขาด้วย