posttoday

วิจารณ์หนัง "ฟรีแลนซ์" ผ่านมุมมองจิตวิทยา

13 กันยายน 2558

เฟซบุ๊ก สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย

เฟซบุ๊ก สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย

#‎ทุกการเลือก_คือการแลก‬

ตอนแรกไม่กะจะดูเพราะตัวอย่างหนัง ‪#‎Freelancethemovie‬ ทำให้คิดว่าเป็นหนังกุ๊กกิ๊ก

เอาเข้าจริงเป็นหนังที่ดูจบแล้วความรู้สึกไม่จบ มีอะไรหลายอย่างชวนให้ตั้งคำถามและใคร่ครวญ จนต้องเขียนบทความนี้ออกมา

- - - ทุกคนคงรู้พล็อตเรื่องและตัวละครหลักๆ(ที่มีอยู่ไม่กี่คน)กันอยู่แล้วเนอะ

แต่หากใครยังไม่ได้ดู ถัดจากนี้ spoil จ้ะ (ยาวด้วย ขอเตือน) - - -

1) ชีวิตฟรีแลนซ์ มันไม่ได้ชิล สบาย เป็นเจ้านายตัวเอง อย่างที่หลายๆคนวาดภาพหรอกนะ

ไม่มีเวลาเข้างาน-เลิกงานก็จริง แต่มี 'deadline' มาแทน ซึ่งบ่อยครั้งผุดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ไม่มีเจ้านาย มีแต่ลูกค้า ซึ่งสำหรับคนที่ทำงานด้านการบริการ ลูกค้าก็คือพระเจ้า

การไม่รับงานๆหนึ่งอาจหมายถึงโอกาสอื่นๆที่จะหลุดลอยไป

ดังนั้นหากไม่เก๋าจริง ใครจะกล้าปฏิเสธเมื่อไม่อาจแน่ใจได้ว่าเดือนหน้าปฏิทินงานจะแน่น...หรือว่างสักแค่ไหน

ความรับผิดชอบคือ'จุดขาย' และคือ "ค่าใช้จ่าย" ของการนั่งทำงานที่ไหนที่ได้ หัวฟูหน้าสดได้ตามใจอยาก

มันก็เลยเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ที่ยุ่นต้องทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ ใครจะให้ทำอะไรก็รับไว้หมด

ในเมื่อสังคมปัจจุบัน เงินคือตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ

การเป็นฟรีแลนซ์ จะทำให้เรามีอิสระมากกว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือนจริงๆหรือ ... หรือเราแค่จะก้าวออกจากเล้าไปเข้ากรงเท่านั้น?
อิสระที่แท้จริงคืออะไร?

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

2) ชีวิตมิติเดียว : คุณค่าของตัวตนแปรผันตรงกับผลงาน

แม้ยุ่นจะรู้สึกว่าเขามีความสุขกับชีวิตแบบนี้ดี แต่ดูเหมือนว่าชีวิตจะไม่ได้เห็นด้วยกับเขานัก

และผื่นคัน ก็คือวิธีที่ชีวิตใช้เป็นสัญญาณเรียกร้องขอความสมดุลให้กับร่างกายที่จิตใจของเขาอาศัยอยู่

สำหรับยุ่น งานไม่ใช่แค่วิธีการหารายได้เพื่อยังชีพ แต่คือเครื่องยืนยันการมีอยู่ของเขา

ผลงานที่เนี้ยบและทันเวลา คือเกณฑ์พิสูจน์คุณค่าของตัวเอง

ดังนั้นเมื่อ 'ผลงาน' ไม่เป็นไปอย่างที่คิด 'ตัวตน' ก็สั่นคลอน

ชีวิตที่มีมิติเดียวแทบจะพังทลาย เหมือนปราสาททรายที่โดนคลื่นลูกใหม่อย่างเจิดไล่ซัด

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

3) เราอาจจะเคยได้ยินคำกล่าวเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ระหว่าง เวลา - สุขภาพ - เงิน กันมาบ้าง

ตอนเป็นเด็ก เรามีเวลา มีสุขภาพที่ดี - แต่ไม่มีเงิน

พอเป็นผู้ใหญ่ สามารถหาเงินได้ สุขภาพยังดี - ก็ไม่มีเวลา

ครั้นแก่ชรา มีเงินเก็บ มีเวลา - สุขภาพก็ไม่เอื้ออำนวยเสียแล้ว

ยุ่นยังไม่แก่ แต่ร่างกายกำลังพัง

ตลอดทั้งเรื่อง เราแทบไม่เห็นร่อยรอยของความสุขของเขา

ยิ้มบางๆปรากฏเพียงชั่วแวบ ... และมันเป็นตอนที่ยุ่นนั่งเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากทอดสายตามองพระอาทิตย์อยู่ริมทะเล
ไม่ใช่ตอนทำงานอย่างเอาเป็นเอาตาย

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

4) เจ๋ - นาฬิกาที่มีชีวิตอีกเรือน และคนๆเดียวที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทของยุ่น

แม้เจ๋จะคอยรับงานให้ จี้เตือนdeadline และตรวจสอบคุณภาพงานของเขาตลอดเวลา จนดูเหมือนว่าชีวิตของคนสองคนนี้คล้ายกันมาก
แต่เมื่อตั้งท้อง เจ๋ก็เตรียมตัวแต่งงานแล้วหยุดทำงานตามที่สามีขอ ในขณะที่ยุ่นโวยวายว่าท้องก็ทำงานได้นี่

เจ๋บอกว่า เธอแค่ไม่ได้ "เลือก"งาน อย่างที่ยุ่นเลือก

ภายใต้ความโมโหของยุ่น มันคือความรู้สึกเคว้งคว้าง โดดเดี่ยว

ชีวิตมิติเดียวของเขาที่ตอนนี้ว่างงาน มันก็ไม่มั่นคงพออยู่แล้ว นี่เขากำลังจะสูญเสียเพื่อนสนิทที่มีอยู่คนเดียวไปอีก

หากเขาต้องการคนช่วยงาน คนอื่นก็คงไม่ต่างกัน

แต่ในแง่มุมของเพื่อน ไม่มีใครแทนที่ใครได้

ดังนั้น มันจึงไม่มี "เจ๋2" อย่างที่อาจจะมี "ยุ่น2" ได้

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

5) ตอนที่ความตายเข้ามาสบตา คือตอนที่ยุ่นได้ทบทวนว่า เขาพลาดอะไรไปบ้าง

หรือพูดอีกอย่าง อะไรกันแน่ที่สำคัญ

คนเรามักจะมองเห็นสิ่งเหล่านั้นก็ต่อเมื่อชีวิตจะปลิดปลิว

หมออิมเคยบอกกับยุ่นว่า คนที่ชอบบอกว่าตัวเองไม่กลัวความตาย มักจะเป็นคนที่ไม่เคยมีใครให้คิดถึง

ตอนนั้นเขาคงไม่ได้เข้าใจคำพูดนี้เท่าไหร่นัก

เราจะดูแลตัวเองมากขึ้น เมื่อเรารู้ว่าการอยู่ การเจ็บ การตายของเรา มีความสำคัญต่อชีวิตอื่น มีความหมายต่อหัวใจบางดวง

ตลอดเวลากว่า10วันที่ไม่ได้หลับได้นอน สภาพร่างกายของยุ่นไม่ต่างจากภาพคนที่เขาตกแต่ง ... รูปหลังๆมีลายรอยแตกกะเทาะมากขึ้นเรื่อยๆ

ตอนแรกที่ลงไปกองกับพื้น ยุ่นยังคิดว่า ในงานศพ อยากให้มีวงTKมาร้อง ทุกคนไม่ต้องเศร้าไปนะ ความตายเป็นเรื่องธรรมชาติ

ใช่ การตายอาจจะไม่ได้ชวนโศกเศร้าเท่าไหร่ แต่เก้าอี้ว่างมากมายในงานศพนั่นต่างหากที่น่าใจหาย

เมื่อผู้มาร่วมงาน ประกอบด้วย

เจ๋ - มนุษย์คนเดียวที่เรียกได้เต็มปากเต็มคำว่าเป็นเพื่อนสนิท

ไก่ - พนักงาน7-11 สาขาที่ยุ่นไปซื้ออาหารประทังชีวิตบ่อยๆ..คนขายของที่กลายมาเป็นเพื่อนโดยปริยาย

พงศธร - เพื่อนคนนึงที่มาด้วยสีหน้ามึนๆ

แม่ - ผู้มีตัวตนอย่างพร่าเลือน ไม่ต่างจากรูปถ่ายซีดๆถลอกๆใบนั้น

และหมออิม - คนที่ยุ่นจะได้เจอเมื่อมีนัดตรวจโรค

ความสำเร็จนั้นหอมหวาน

แต่มันจะยังน่าไขว่คว้าขนาดนั้นไหม หากได้มาแล้วมองไปไม่เห็นใครเลยที่จะร่วมดีใจไปด้วย?

ถ้าหากเราเป็นอะไรไป แล้วแทบจะไม่มีใครรู้สึกใจหาย?

"นี่เหรอภาพสุดท้าย ... ไม่เห็นสวยเลย"

ยุ่นนอนนิ่ง มองขยะเกลื่อนพื้นห้อง

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ยุ่นเป็นแค่ตัวอย่างของคนๆหนึ่ง ที่ชีวิตห่างไกลจากคำว่าสมดุล

ใครๆก็เป็นแบบนี้ได้ ไม่ว่าอาชีพไหน

เราไม่อาจจะได้ทุกอย่าง ในเวลาเดียวกัน

เราไม่อาจจะได้ทุกอย่าง โดยไม่เสียอะไรไป

ทุกการ "เลือก" คือการ "แลก"

ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุ่น อาจเป็นตอนที่

เขาเรียนรู้ แล้วจึงเลือกที่จะปฏิเสธพี่เป้งด้วยการบอกว่า

"ผมจะนอน"

‪#‎หมอมีฟ้า‬

ที่มา https://www.facebook.com/ThaiPsychiatricAssociation/photos/a.499791366791551.1073741828.483246708446017/726519564118729/?type=1

 

ข่าวล่าสุด

ผลบอล โยเคเรสซัดโทษ! อาร์เซน่อล1-0 เอฟเวอร์ตัน,ลิเวอร์พูล 2-1