posttoday

ยูมิโกะ สุชิยะ ทำธุรกิจเริ่มจากเล็กไปใหญ่

24 สิงหาคม 2558

ใครๆ ที่เป็นแฟนรายการข่าวบันเทิงหลังข่าวภาคค่ำหรือคอละคร คงจะคุ้นเคยเห็นหน้าเห็นตากับพิธีกรสาวหน้าตาน่ารักเสียงหวาน

โดย...อณุสรา  ทองอุไร ภาพ : วีรวงศ์  วงศ์ปรีดี

ใครๆ ที่เป็นแฟนรายการข่าวบันเทิงหลังข่าวภาคค่ำหรือคอละคร คงจะคุ้นเคยเห็นหน้าเห็นตากับพิธีกรสาวหน้าตาน่ารักเสียงหวาน แห่งรายการดาวกระจาย โดยมี น้องมิ้งค์-ยูมิโกะ สุชิยะ เป็นพิธีกร ซึ่งเธอมีบุคลิกอ่อนหวานน่ารักน่าเอ็นดู ตอนนี้น้องมิ้งค์กำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ประสานมิตร) นอกจากมีงานหลักเป็นนักศึกษา งานรองเป็นพิธีกรกับเล่นละคร แล้วน้องมิ้งค์ยังมีงานอดิเรกที่ชอบและสร้างรายได้ให้พอสมควรก็คือ น้องทำแบรนด์เสื้อผ้าขายทางเว็บไซต์อีกด้วยจ้าเรียกว่าขยันขันแข็งรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์จริงๆ

น้องมิ้งค์ บอกว่า นอกเหนือจากงานพิธีกรและละครแล้ว สิ่งที่สนใจมากที่สุดและอยากจะทำเป็นธุรกิจก็คือ อยากเปิดร้านขนมและอยากเปิดร้านเสื้อผ้า เพราะน้องมิ้งค์ชอบทำอะไรที่เกี่ยวกับผู้หญิงๆ ความสวยความงามและเรื่องอาหาร แต่ร้านอาหารคงต้องเป็นโอกาสต่อไปหลังเรียนจบค่อยว่ากัน เพราะต้องอาศัยเวลาและเงินลงทุน ตอนนี้เลยทำแบรนด์เสื้อผ้าไปก่อน

โดยน้องทำแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเองชื่อแบรนด์ว่า สุชิยะ ตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา คือ เริ่มทำจริงจังตอนใกล้ๆ จบ ม.6 ก่อนหน้านั้นเคยหุ้นกับเพื่อนแล้วเลิกไป ก็เลยมาเปิดแบรนด์ของตัวเองอย่างจริงจัง เน้นเสื้อผ้าวัยรุ่นจับตลาดอายุ 17-22 ปี คือชั้นมัธยมปลายจนจบมหาวิทยาลัยก็ยังใส่ได้ เป็นเสื้อและกระโปรงเดี่ยวไปแยกกันใส่ และมีชุดเดรสติดกันก็มี เน้นความสดใสน่ารักเรียบๆ ไม่หวือหวา หรือดูมีรายละเอียดจนรกรุงรังเกินไป

ยูมิโกะ สุชิยะ ทำธุรกิจเริ่มจากเล็กไปใหญ่

เมื่อก่อนที่ทำแรกๆ ยังไม่มีแบรนด์เป็นของตัวเองก็ไปรับเขามาขาย ไม่ได้ตัดเองด้วยเป็นเสื้อผ้าวัยรุ่นราคา 600-700 บาท ทำอยู่ปีกว่าก็ขายดี แต่ไม่ค่อยมีเวลาด้วยตอนนั้นหุ้นกับเพื่อนก็เลยเลิกไป เพราะเกรงใจเพื่อนเขาทำเยอะกว่าแล้วทั้งเพื่อนและเธอก็สอบติดมหาวิทยาลัยทั้งคู่ต่างคนต่างยุ่ง

จนเข้ามหาวิทยาลัยเริ่มปรับตัวได้มีเวลาว่างมาสักพัก ก็เริ่มคิดถึงเลยลองกลับมาทำใหม่คนเดียว แต่มีคุณป้าเป็นผู้ช่วยในการดูแลส่งสินค้าไปหาซื้อวัตถุดิบต่างๆ ไปเลือกซื้อผ้าเอง ออกแบบเอง ไปประสานงานกับช่างเองทุกสิ่งอย่าง

“มาทำแบรนด์ของตัวเองคราวนี้เราตัดเองไม่ได้รับเขามางานก็ประณีตและการออกแบบก็โตขึ้นอีกนิด เพื่อคนวัยต้นทำงานเอาไปใส่ทำงานได้ ราคาก็จะสูงขึ้นอีกนิดจะอยู่ที่ประมาณ 800-1,000 บาท ถ้าเป็นชุดเดรสก็ 1,500-2,000 เน้นโทนสีเรียบๆ คลาสสิก เช่น ครีม ขาวนวล แดง น้ำเงิน ข้อดีของการทำธุรกิจคนเดียวคือ เราจะเป็นอิสระในความคิด คิดได้รวดเร็วทันใจไม่ต้องเกรงใจเพื่อน เพื่อนก็ไม่ต้องเกรงใจเรา แต่ข้อเสียคือบางทีตันคิดอะไรไม่ออกก็ไม่มีที่ปรึกษาไม่มีใครช่วยออกแบบ ก็ดีอย่างเสียอย่าง เราก็ทำงานในแบบที่ควรจะเป็น ซึ่งโดยรวมแล้วก็แฮปปี้ กำไรไม่มากนักแต่เรามีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำ และก็เป็นการลองเชิงทางธุรกิจด้วย เพื่อในอนาคตเราลงสนามจริงทำงานทำธุรกิจในขนาดที่ใหญ่ขึ้น เพราะมิ้งค์คิดว่าถ้าเรียนจบแล้วคงไม่อยากทำงานประจำอยากจะทำธุรกิจเล็กๆ เป็นของตัวเอง” เธอกล่าวด้วยความตั้งใจ

ยูมิโกะ สุชิยะ ทำธุรกิจเริ่มจากเล็กไปใหญ่

น้องมิ้งค์ บอกว่า งานจะออกมาเป็นรายสะดวกไม่ได้มีฤดูกาลอะไร ช่วงเตรียมสอบกะช่วงสอบจะไม่ทำอะไรเลย ถ้าเป็นช่วงปิดเทอมจะมีงานออกมาเยอะ ช่วงไฮก็จะออกแบบล่วงหน้าไว้ให้เยอะๆ เลย เสื้อผ้าของเธอนั้นขายผ่าน instagram คือ tsuchiya-official

สำหรับผลตอบรับนั้นน้องมิ้งค์บอกว่าก็เป็นไปได้ดี หักค่าใช้จ่ายแล้วมีรายได้เหลือประมาณเดือนละ 2 หมื่นบาท ก็พอมีค่าใช้จ่ายให้ในบ้านต่างๆ เพราะตอนนี้น้องมิ้งค์อยู่กับคุณป้า 2 คน และเธอก็เป็นหัวหน้าครอบครัวด้วย เนื่องจากคุณแม่อยู่ต่างประเทศนานๆ กลับมาที

“การได้ทำงานไปเรียนไปมันฝึกให้หนูรับผิดชอบ และการที่มีรายได้เลี้ยงตัวเองก็ทำให้หนูภูมิใจและรู้ค่าของเงินถึงหาเงินเองได้เยอะ แต่หนูก็ไม่ฟุ่มเฟือยเพราะรู้ว่าเงินมันหายาก เหนื่อยกว่าจะได้มา การได้ลองทำธุรกิจเองแม้จะเป็นงานเล็กๆ เงินไม่มากมันช่วยต่อยอดความคิดให้ประสบการณ์ที่ดีในวันข้างหน้า ถ้าพลาดอายุยังน้อยเดี๋ยวเราเริ่มใหม่ได้อีก มีแต่เรื่องดีๆ นะคะหนูว่า”

ยูมิโกะ สุชิยะ ทำธุรกิจเริ่มจากเล็กไปใหญ่

 

สำหรับแผนอนาคตต่อไปหลังเรียนจบน้องมิ้งค์ คาดว่าอยากจะเปิดร้านขนมเล็กๆ น่ารักๆ เป็นของตัวเอง พวกเบเกอรี่ มาการองบลูเบอร์รี่ชีสเค้ก พาย เป็นของที่เธอชอบรับประทาน และเป็นของที่เธอทำได้ตอนนี้ก็พยายามฝึกปรือฝีมืออยู่เป็นระยะๆ โดยน้องมิ้งค์บอกว่าการจะทำธุรกิจอะไรสักอย่างน้องมิ้งค์จะยึกหลัก เลือกทำในสิ่งที่ชอบในสิ่งที่ตัวเองถนัด และจะเป็นธุรกิจที่ค่อยเป็นค่อยไปเริ่มจากเล็กๆ ก่อนเงินลงทุนไม่มาก แล้วก็ค่อยขยายไปตามลำดับ ที่สำคัญต้องใช้เงินของตัวเองอย่าไปกู้ใครมาสำหรับการเริ่มธุรกิจ เนื่องจากยังไม่มีประสบการณ์ รอจนเก่งแล้วแน่แล้วจึงค่อยขยายแล้วไปกู้เขามาส่วนหนึ่ง แต่ก็ไม่ควรกู้ทั้งหมด หากพลาดก็แค่สูญเงินของตัวเอง แต่ถ้ากู้แบงก์ไหนก็จะมีดอกเบี้ย เราจะบาดเจ็บสาหัสไม่ได้จบที่ตัวเราคนเดียว

“มิ้งค์จะไม่ทำพรวดพราดแล้วลุยเลย ไม่แน่ใจไม่ทำเงินเราไม่เยอะหากไม่คิดให้รอบคอบเกิดขาดทุนขึ้นมาเงินหายวับ จะทำแบบนกน้อยทำรังแต่พอตัว มั่นใจแล้วค่อยขยายเริ่มจากเล็กไปใหญ่ มิ้งค์เริ่มทำเสื้อครั้งแรกลงทุนแค่ 3 หมื่นบาท ซื้อเสื้อเขามาขาย พอทำแบรนด์ของตัวเองไปจ้างเขาตัดตอนนั้นก็ 6 หมื่นกว่าบาท คือค่อยขยับไปทีละขั้นตามประสบการณ์ที่เราเพิ่มขึ้นความมั่นใจเพิ่มขึ้น แล้วเวลาทำธุรกิจควรจะมองทั้งทางได้และทางเสียไว้ด้วย อย่าคิดว่ามันจะประสบความสำเร็จอย่างเดียว เพราะเหรียญมีสองด้านเสมอ ลองคิดเผื่อๆ ไว้ว่า หากพลาดไม่เป็นดังหวังจะทำอย่างไรคิดถึงแผนสองเตรียมสำรองเผื่อทางหนีทีไล่ไว้ด้วย” เธอให้คำแนะนำ

ข่าวล่าสุด

งานเข้า! EU สอบสวน Google ข้อหาผูกขาดเนื้อหาให้กับ AI ของบริษัท