posttoday

อนุชา บุญยวรรธนะ ความเข้าใจในเพศที่สาม

20 สิงหาคม 2558

เจอหน้าและเจอตัวเป็นๆ "นุชี่" หรือ "อนุชา บุญยวรรธนะ" ก็อดไม่ได้ที่จะถามถึงกระแสตอบรับภาพยนตร์เกย์ "อนธการ" (The Blue Hour)

โดย...โจนาสเตเชีย ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช

เจอหน้าและเจอตัวเป็นๆ "นุชี่" หรือ "อนุชา บุญยวรรธนะ" ก็อดไม่ได้ที่จะถามถึงกระแสตอบรับภาพยนตร์เกย์ "อนธการ" (The Blue Hour) ผลงานของเธอที่กำลังเข้าฉายอยู่ ณ เวลานี้

"ฟีดแบ็กค่อนข้างดีมากค่ะ ซึ่งการฉายก็เป็นแบบจำกัดโรง เฉพาะในเครือเอสเอฟ 5 โรงแค่นั้น รอบก็ไม่เยอะมาก ตอนแรกก็กลัวว่าคนดูอาจจะไม่ชอบ เพราะหนังมันช้า บางคนอาจจะคิดว่าหนังอะไรดูไม่รู้เรื่อง แต่ปรากฏว่าคนดูกลับอินและดำดิ่งไปกับบรรยากาศและอารมณ์ความอนธการความมืดมนที่หนังนำเสนอ

ถ้านับกันจริงๆ นี่ไม่ใช่ภาพยนตร์เรื่องแรกของนุชี่ ย้อนไปเมื่อ 11 ปีที่แล้ว (ตอนเรียนปี 4 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ฯ) เธอเคยมีภาพยนตร์สั้น "ตามสายน้ำ" (Down the River) ออกฉายในเทศกาลภาพยนตร์ทั้งในประเทศและและนานาชาติ จนสร้างชื่อให้นุชี่เป็นผู้กำกับเกย์คนแรกๆ ที่เปิดเผยตัวตน ขณะเดียวกันผลงานเรื่องนี้ยังแหวกแนวและฉีกกฎภาพยนตร์เกย์ไทยอย่างสิ้นเชิง ถ่ายด้วยฟิล์ม 16 มม. มีความยาว 55 นาที แถมคว้ารางวัลด้านการถ่ายภาพและผลงานโดดเด่น (เทศกาลภาพยนตร์สั้น ครั้งที่ 8) มาครองแบบไม่ค้านสายตา

ความเป็นเกย์ได้เปรียบกว่าคนเพศอื่นหรือไม่ในการทำภาพยนตร์เกย์ คำตอบของนุชี่ชัดเจนและตรงประเด็น เพราะคนที่เป็นเกย์ย่อมจะเข้าใจหัวอกคนเหล่านี้ได้ดีกว่าใคร

"เราว่าคนที่เป็นเกย์เวลามาทำหนังเกย์มันก็จะมีความเข้าใจตัวละครมากกว่าคนทั่วไปนะ เพราะหนังเกย์คนดูก็จะเป็นเกย์ส่วนใหญ่ ฉะนั้น ถ้าคนทำมีความเข้าใจตัวละครเกย์ มันก็จะมำให้หนังมีความสมบูรณ์และน่าสนใจ ที่ผ่านมาผู้หญิงหรือผู้ชายที่ทำหนังเกย์ออกมามักจะมีท่าทีล้อเลียน มองเป็นตัวตลก ตัวร้าย ตัวโรคจิต เป็นตัวที่มาหลอกลวงนางเอก ซึ่งเราว่าเป็นการก็นำเสนอแบบไม่เข้าใจในความเป็นมนุษย์ของเขาเลย เป็นการนำเสนอแบบขาดมิติรอบด้าน"

อนธการต่อยอดมาจากซีรี่ส์ เพื่อนเฮี้ยนโรงเรียนหลอน ตอนคืนสีน้ำเงิน เป็นหนังที่มีความคลุมเครือค่ะ ที่มาจากปัญหาความรุนแรงในครอบครัว เรื่องของวัยรุ่นที่มีแรงกดดันจากการไม่ถูกสังคมยอมรับ จนสุดท้ายมันก็ระเบิดออกเป็นความรุนแรง โดยหนังจะผสมผสานความจริงกับความฝัน คนดูก็จะต้องตีความกันเอาเอง เพราะนั่นเป็นความตั้งใจของเราที่อยากให้คนดูมาร่วมตีความในหนัง"

อนุชา บุญยวรรธนะ ความเข้าใจในเพศที่สาม

 

ภาพยนตร์มีความเซ็กซี่ขยี้ใจแค่ไหน หรือโป๊หวาบหวามมากน้อย นุชี่ยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก ก่อนจะบอกว่าภาพยนตร์ของเธอเป็นการเปลือยอารมณ์มากกว่าหาได้เซ็กซี่ หรือโป๊จะแจ้งเฉกเช่นภาพยนตร์เกย์ที่เคยพบเห็นไม่

"มันเป็นการระเบิดอารมณ์ในฉากเลิฟซีนมากกว่าค่ะ ด้วยความที่หนังเล่นกับคำว่าเปิดและปิด บางฉากมันก็จะเปิดอารมณ์แต่ปิดร่างกาย บางฉากเปิดร่างกายแต่ไม่มีอารมณ์อะไรเลย เวลาที่หนังเกย์พูดถึงความสัมพันธ์ มันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีฉากเลิฟซีน อย่างอนธการเราก็ว่าเป็นฉากเลิฟซีนที่แรงนะ แต่ไม่ได้เป็นเลิฟซีนแบบน่าเกลียด เป็นเลิฟซีนที่น่าดูมากกว่าค่ะ นักแสดงก็หน้าตาดี น่ากินกรุบกรอบมากๆ (หัวเราะ)

เราว่าโป๊ หรือไม่โป๊มันอยูที่บริบทของหนังนะ แต่ยังไงความอีโรติกมันต้องมีอยู่ในหนังเราค่ะ ซีนที่ตัวละครสัมผัสกันมันจะเป็นอะไรที่โดดเด่น หรือแม้แต่บรรยากาศก็ชวนให้เกิดอารมณ์หวาบหวามได้ ส่วนความลึกลับและความดาร์กก็เป็นสิ่งที่เราชอบอยู่แล้ว เราจะไม่ทำหนังใสๆ หรอกค่ะ เพราะตัวเองไม่ใช่คนชอบอะไรแบบนั้น จะไม่ใช่วัยรุ่นใสๆ แน่นอนค่ะ มันจะมีความละมุนละไม แต่แฝงไว้ด้วยความลึกลับความดาร์ก เป็นด้านมืดของมนุษย์ที่เราจะต้องเอามาซ่อนไว้ในหนังค่ะ เพราะเราว่าเราชอบแบบนี้"

ภาพยนตร์เกย์เรื่องโปรด : Farewell My Concubine (เฉินข่ายเก๋อ กำกับ / 1994)

"เป็นหนังรักสามเส้าของนักแสดงงิ้ว เลสลี จาง เล่นเป็นนางเอกงิ้ว นอกจากนั้นฉากหลังของหนังยังพูดถึงสังคมและการเมืองของจีนยุคการล่มสลายทางด้านวัฒนธรรม ถือเป็นหนังอิพิกที่สวยงามมากค่ะ"

พระเอกเกย์คนต่อไป (ในภาพยนตร์เกย์ของเธอ) : เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ

"ที่อยากได้เวียร์มาเล่นหนังเกย์ เพราะเรารู้สึกว่าเวียร์สามารถและพร้อมที่จะมาอยู่ในบทนี้ค่ะ ถ้าเขาอยากลองบทบาทใหม่ๆ เราว่าการมารับบทเกย์ก็น่าจะเป็นการพิสูจน์ฝีมือในฐานะนักแสดงคุณภาพได้นะ"

ผู้กำกับเกย์ไอคอน : เจ้ย-อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล

"งานพี่เจ้ยมีอิทธิพลต่องานของเรามากนะ ในแง่การทดลอง พี่เจ้ยมีความกล้าหาญที่จะกล้าเล่าเรื่องที่คนอื่นไม่กล้า เราก็อยากจะกล้าแอบบนั้นบ้าง แล้วพี่เจ้ยยังเป็นคนที่มองของธรรมดา ไม่ปรุงแต่ง บ้านๆ สมจริง แต่ยังสวยงาม"

ข่าวล่าสุด

"ธรรมนัส” เผย 25 ธ.ค.นี้ กล้าธรรมเปิดตัวสส.ทั้งเขต-ปาร์ตี้ลิสต์