posttoday

เจ้าจำปี

15 สิงหาคม 2558

เมื่อสัก 10 กว่าปีก่อน ผมจำได้ว่า รู้สึกตื่นเต้นกับการที่ “การบินไทย” สายการบินแห่งชาติ

โดย...สุภชาติ เล็บนาค

เมื่อสัก 10 กว่าปีก่อน ผมจำได้ว่า รู้สึกตื่นเต้นกับการที่ “การบินไทย” สายการบินแห่งชาติ ได้รับการยกย่องในฐานะสายการบินอันดับหนึ่งของโลก ทั้งในด้านการบริการ และในด้านคุณภาพ “เจ้าจำปี” เคยเป็นหน้าเป็นตาของประเทศได้สมภาคภูมิ เพราะคนไทยนั้นขึ้นชื่อเรื่อง “Service Mind” อยู่แล้ว

ในเวลานั้น เจ้าจำปีเพิ่งสั่งซื้อเครื่องบิน แอร์บัส A340-500 เพื่อบินตรงไปยังมหานครนิวยอร์ก 17 ชั่วโมง ไม่หยุดพัก รวมถึงปรับโฉมสายการบินให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น

หลังจากนั้น ก็คงไม่เกิดอะไร ถ้าสายการบินจากตะวันออกกลางเป็นต้นว่าเอมิเรตส์ เอทิฮัด ไม่ทุ่มงบพัฒนาตัวเอง และซื้อเครื่องบินอย่างบ้าคลั่งในเวลาเดียวกัน

เรื่องก็คงไม่มีอะไรหากในอีกไม่กี่ปีหลังจากนั้น ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นจนฉุดไม่อยู่ และเรื่องก็คงไม่มีอะไรหากโลว์คอสต์แอร์ไลน์ไม่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด

ปัจจัยลบที่ถาโถมเข้ามา การปรับตัวที่ไม่ทันกับโอกาส รวมถึงความไม่คงที่ในระดับการบริหาร เนื่องจากรัฐวิสาหกิจแห่งนี้ต้องเปลี่ยนไป-มาทุกครั้งตามทิศทางการเมืองภายนอก กอปรกับการเมืองภายในองค์กรที่ร้อนแรง ได้ทำให้การบินไทยกลายเป็นสายการบินที่มีราคาแพง เบาะนั่ง การบริการ เทคโนโลยีภายในเครื่องก็สู้กับสายการบินอื่นไม่ได้

ในที่สุด เจ้าจำปีก็เข้าไปติดอยู่ในหล่มขนาดใหญ่ ถลำลึกจนขึ้นมาไม่ได้เครื่องบินแอร์บัส A340-500 ที่เคยเป็นที่เชิดหน้าชูตา ทุกวันนี้ยังคงจอดอยู่ที่สนามบินดอนเมือง รอขายซากในราคาขาดทุนสุดลิ่มทิ่มประตู

ผมถามคนรู้จักหลายคนที่มีภาระจะต้องเดินทางไปในประเทศหรือต่างประเทศก็พบว่าไม่มีใครเลือกใช้การบินไทยสักคน ด้วยเหตุผลที่ว่า “ตั๋วแพง” กว่าเจ้าอื่น ไม่ใช่แค่ในระดับเท่าตัวนะครับ แต่ในบางเส้นทาง การบินไทยแพงกว่าคู่แข่งถึง 3 เท่า

มีแต่เพื่อนที่เป็นแอร์โฮสเตสเท่านั้น ที่อยากเข้าไปทำงานในการบินไทย ด้วยเหตุที่ว่าสวัสดิการและค่าตอบแทนดีกว่าสายการบินอื่น...

หลายคนมักโทษกันว่าเกิดจาก “นักการเมือง” “บอร์ด” หรือ “ญาติ” ที่ไปรุมทึ้งตั๋วฟรี รวมถึงใช้สิทธิพิเศษต่างๆ จนทำให้สายการบินประสบปัญหา

แต่ผมคิดว่า เป็นความผิดที่ผู้บริหารการบินไทยและคนจากฝ่ายการเมืองในยุคหลัง ไม่ได้ประสีประสาอะไรกับ “ธุรกิจการบิน” ที่เชี่ยวกราก ที่ต้องปรับกลยุทธ์ตลอดเวลา และต้องมีเงินถุงเงินถังไว้บริหาร เพื่อปรับเปลี่ยนสภาพธุรกิจเสมอ

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ สายการบินใหญ่ยักษ์ที่ผมเคยเห็นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ก็เจ๊งไปจำนวนมากเช่นเดียวกัน

เมื่อซูเปอร์บอร์ดในรัฐบาลปัจจุบัน วางแผนจะปฏิรูปการบินไทยด้วยการแยกผู้เล่น ให้ฝ่ายกำหนดนโยบาย ฝ่ายกำกับดูแล ปลอดจากอำนาจการเมือง และเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง

ผมจึงไม่อาจคิดอย่างอื่นได้ นอกจากเอาใจช่วยให้แผนปฏิรูปสามารถฝ่าขวากหนามภายใน-ภายนอกองค์กร เพื่อพาเอาสายการบินแห่งนี้กลับมาเป็นสายการบินที่กลับมาโดดเด่นอีกครั้ง

แต่เชื่อผมเถอะครับ พยายามขนาดไหน ประเทศนี้ยังไงๆ รัฐวิสาหกิจก็ไม่อาจปลอดจากการแทรกแซงโดยอำนาจรัฐได้ แม้เราจะอยู่ในยุค “ปฏิรูป” ทุกด้านก็เถอะ

ข่าวล่าสุด

ประเสริฐยันจบด้วยดี “ไชยา” ลาเพื่อไทยเหตุจำเป็นการเมือง