'ลุยไฟ’

โดย...เพรงเทพ

มนุษย์กับไฟมีความเชื่อและศรัทธาที่เกี่ยวโยงกันมาตั้งแต่บรรพกาล การนับถือและบูชาไฟมีอยู่ทุกพื้นที่ในทุกทวีป เทศกาลลุยไฟจึงสืบทอดกันมาจนถึงทุกวันนี้ในหลายๆ ประเทศ

ผู้หญิงฮินดูชาวมาเลเซียกำลังเดินบนถ่านที่ร้อนระอุในเทศกาลลุยไฟที่วัดฮินดูในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย พิธีลุยไฟหรือที่เรียกกันว่า “ธิมิธิ” เพื่อเฉลิมฉลองให้กับพระนางเทราปตี ซึ่งเป็นอวตารหนึ่งของพระศรีมาริอัมมันหรือพระแม่อุมาเทวี ซึ่งมีต้นกำเนิดจากกองไฟ โดยคติความเชื่อนี้มีรากเหง้าที่รับมาจากรัฐทมิฬนาฑูทางอินเดียตอนใต้ ในการชำระล้างจิตวิญญาณเพื่อความบริสุทธิ์ เป็นความเชื่อความศรัทธาสำหรับผู้ที่ไม่มีมลทินจะเดินผ่านไฟได้อย่างสบายโดยไม่ร้อนฝ่าเท้าและไม่เป็นแผลพุพอง

ในเมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย ก็มีผู้เลื่อมใสและศรัทธาหลายร้อยคนมาเข้าพิธีลุยไฟบนถ่านไฟที่เผาจนร้อนเป็นสีแดง เพื่อบูชาและขอพรให้สมปรารถนาจากพระแม่ศักติ หรือพระแม่ 3 ภพ ซึ่งเป็นการรวมตัวของมหาเทวีสตรีทั้ง 3 พระองค์ ได้แก่ พระปารวตี (มเหสีแห่งพระศิวะ) พระลักษมี (มเหสีแห่งพระวิษณุ) และพระสุรัสวดี (มเหสีแห่งพระพรหม) เมื่อทั้ง 3 เทวีรวมกันเป็นจิตเดียวกัน กายเดียวกัน จะรวมเป็นพระแม่ศักติ พระมารดาแห่งจักรวาล เป็นเทวีแห่งการทำลายความชั่วร้ายทั้งหลาย  

ทางด้านการลุยไฟในญี่ปุ่น พระสงฆ์ในศาสนาพุทธเดินเท้าเปล่าถือยันต์ลุยไฟ ซึ่งเป็นพิธีกรรมตามความเชื่อและศรัทธาที่สืบทอดตามประเพณีนิยมที่เรียกว่า ฮิ-วาตาริ ของเทศกาลไฟชิชิบู ในเขตนากาโตโระเมืองไซตามะ ถือเป็นการประกาศว่าฤดูใบไม้ผลิได้เดินทางมาถึงแล้ว โดยมีผู้เลื่อมใสเดินลุยไฟตามพระเพื่อชำระล้างร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์ และสวดภาวนาขอพรให้ปลอดภัยและสุขภาพดี

ส่วนในยุโรปอย่างประเทศกรีซ พิธีกรรมลุยไฟที่เรียกว่า “อนาสเทเนริเดส” ในหมู่บ้าน ดิ อะเกีย อีเลนิ เมืองเซอร์เรส ทางตอนเหนือของกรีก เพื่อเฉลิมฉลองให้กับเซนต์สคอนสแตนตินและเฮเลน ซึ่งสามารถสืบย้อนกลับไปสู่พิธีกรรมลุยไฟในยุคโบราณในการบูชาเทพไดโอนิซัส ซึ่งเป็นเทพแห่งองุ่นและน้ำเมาเพื่อบันดาลให้มีความสุข