ยิงปืนเป้าบิน เล็งให้เร็วยิงให้แม่น

โดย...โยโมทาโร่

กิจกรรมที่ท้าทายความสามารถของผู้ชายส่วนใหญ่มักจะเป็นกีฬาประเภทความเร็ว เช่น การแข่งรถ แต่อีกหนึ่งที่ผู้ชายชื่นชอบมากที่สุดก็เห็นจะเป็นเรื่องปืนผาหน้าไม้  แต่ครั้นจะยืนยิงเป้านิ่งก็เห็นจะง่ายเกินไป กีฬายิงปืนที่ต้องใช้ทักษะความเร็ว ความแม่นยำ ความชำนาญและสมาธิมากที่สุดคงหนีไม่พ้นกีฬายิงเป้าบิน (Skeet and Trap) นั่นเอง

เริ่มต้นจากการกีฬาล่านก

ความเป็นมาของกีฬาชนิดนี้มีการพัฒนามาจากกีฬาล่าสัตว์ในปี ค.ศ. 1920 ที่ประเทศอังกฤษ ในเวลานั้นยังเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ ที่คิดค้นเกมนี้ขึ้นมา โดยการจับนกพิราบขังไว้ในกรง (Trap) และปล่อยออกมาให้นักกีฬาที่เข้าแข่งขันยิง

สนามในยุคแรกจะเป็นวงกลมรัศมี 25 หลา ผู้เล่นจะยืนอยู่ตรงกลางสนาม จุดกรงปล่อยนกจะอยู่ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกาและ 6 นาฬิกา แต่ติดปัญหาตรงทว่าสนามที่ใช้แข่งมีลักษณะเป็นรูปวงกลม บวกกับการบินของนกนั้นไม่สามารถกำหนดทิศทาง ความสูงต่ำของการบินที่แน่นอนได้จึงเปลี่ยนมาเป็นการใช้เป้าดิน ที่สามารถดีดเป้าได้ระยะไกลสร้างง่าย เห็นชัดกำหนดทิศทางได้แน่นอน เป้าดินจึงถูกนำมาใช้กับการยิงเป้าบินอย่างถาวร

ความท้าทายเหนือทุกประเภทการยิง

เจ้าหน้าที่จากสมาคมยิงเป้าบินแห่งประเทศไทย อธิบายถึงการเล่นกีฬายิงเป้าบินว่า การเล่นกีฬายิงเป้าบินนั้นจะแตกต่างจากการเล่นกีฬายิงปืนประเภทอื่นๆ อยู่มาก ใครที่เคยเล่นยิงปืนแบบอื่นมาเก่งๆ ก็ไม่ใช่ว่ามาจับปืนยิงเป้าบินแล้วจะยิงได้ดีทุกคน ต้องมาหัดกันใหม่หมด เพราะกีฬายิงปืนแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ก็คือ ยิงเป้านิ่ง เป็นการยิงปืนที่อาศัยความนิ่ง สมาธิ และความแม่นยำ

ประเภทที่สอง คือ การยิงแบบรณยุทธ์ เป็นการยิงที่ต้องอาศัยความเร็วในการเคลื่อนที่ของตัวเองกับเป้านิ่งที่อยู่กับที่ แข่งกับเวลา ต้องมีการวางแผนการยิงในแต่ละสนาม และประเภทสุดท้าย คือ การยิงเป้าเคลื่อนที่ อย่างการยิงเป้าบิน เป็นต้น ซึ่งเป็นการยิงที่ต้องอาศัยทักษะความชำนาญในการยิง การคำนวณทิศทางของวัตถุที่เคลื่อนที่ ผู้เล่นจึงจำเป็นต้องยิงดักหน้าเพื่อให้กระสุนกับเป้ายิงนั้นกระทบกันพอดี

ยิงเป้าบิน 4 ประเภท

1.สกีต (Skeet) เป็นการแข่งขันที่มีมาแต่ดั้งเดิม เป้าจะถูกปล่อยออกจากแท่นปล่อยเป้าที่ตั้งอยู่ด้านซ้ายและขวาของสนาม การยิงสกีตนั้นจะเป็นการยิงที่มีระยะใกล้ที่สุดของการยิงเป้าบินทุกประเภท และนักกีฬาจะถือปืนไว้ในท่าเตรียมพร้อมและจะประทับปืนได้ต่อเมื่อเป้าได้ถูกยิงออกไปแล้ว

2.แทรป (Trap) เป็นรูปแบบการแข่งขันที่พัฒนาขึ้นจากสกีต มีแท่นยิงทั้งหมด 5 แท่น ผู้เล่นจะไม่ทราบล่วงหน้าว่าแต่ละแท่นยิงนั้นเป้าจะถูกดีดออกไปทางทิศไหน

3.ดับเบิ้ลแทรป (Double Trap) เป็นการยิงเป้าบินประเภทเดียวกับแทรปแต่ต้องยิง 2 เป้าพร้อมกันในการยิงแต่ละครั้ง โดยเป้าทั้งสองจะถูกปล่อยออกจากช่องยิง 2 ช่องพร้อมกัน ควบคุมและสุ่มการยิงโดยคอมพิวเตอร์

4.สปอร์ตติงหรือสปอร์ตติงเคลย์ (Sporting Clay) เป็นการยิงเป้าโดยเลียนแบบการล่าสัตว์ประเภทต่างๆ เช่น นก เป็ด กระต่าย หรือสัตว์อื่นๆ ที่มีการเคลื่อนไหวในลักษณะต่างๆ กัน โดยมีวัตถุประสงค์ให้ผู้ยิงมีความสนุกสนานในการยิง

 

เคล็ดลับการยิง

เคล็ดลับการยิงปืนเป้าบินต้องถ่ายน้ำหนักมาที่ขาหน้า เพราะแรงถีบของปืนจะทำให้เราเสียการทรงตัวและขาดความแม่นยำ การยิงต้องยิงดักหน้าวัตถุและต้องมีการคำนวณโดยคำนึงถึงระยะห่าง ความเร็วกระสุน และทิศทาง นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งในการใช้ปืนลูกซองจึงเหมาะสมที่สุดกับกีฬาชนิดนี้ เพราะเมื่อยิงออกไปแล้วกระสุนจะกระจายเป็นกลุ่มโดนเป้าบิน

ดังนั้น การเล่นกีฬาชนิดนี้จำเป็นต้องอาศัยการฝึกฝนบ่อยๆ เพื่อเพิ่มความชำนาญและความยากของเป้าขึ้นเรื่อยๆ อย่างหัดเล่นใหม่ๆ ถ้าจะยิงได้ดีก็ต้องยิงอย่างน้อย
หมื่นนัดขึ้นไป ซึ่งแน่นอนว่ากว่าจะยิงได้ถึงหมื่นนัดก็ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน แต่ถ้าจะให้ดีถึงขั้นทีมชาตินั้นต้องยิงอย่างน้อย 2-3 หมื่นนัดขึ้นไป

ถ้าสนใจจะมาเล่นกีฬาชนิดนี้ ไม่ว่าจะฝึกเพื่อเป็นนักกีฬาหรือเล่นเพื่อความสนุกส่วนตัว แนะนำให้ติดต่อกับสมาคมยิงเป้าบินแห่งประเทศไทย www.thaiclayshooting.com มีสนามเปิดให้บริการแก่สมาชิกและผู้ที่สนใจในกีฬายิงเป้าบินโดยเฉพาะ เล่นยิงเป้าบินนี้แล้วอาจจะติดใจไม่กลับไปเล่นกีฬาแอ็กชั่นเดิมๆ เลยก็เป็นไปได้