อำไพวรรณ เตชะภูวภัทร ชีวิต = เค้ก
ว่ากันว่า เค้กกับสาวๆ คือของคู่กัน แต่การจำกัดความนี้จะเปลี่ยนไป หากหนุ่มๆ ได้มาทำความรู้จักและชิมฝีมือการทำเค้กของ เชฟเอ็ม-อำไพวรรณ เตชะภูวภัทร
โดย...ตุลย์ จตุรภัทร ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข
ว่ากันว่า เค้กกับสาวๆ คือของคู่กัน แต่การจำกัดความนี้จะเปลี่ยนไป หากหนุ่มๆ ได้มาทำความรู้จักและชิมฝีมือการทำเค้กของ เชฟเอ็ม-อำไพวรรณ เตชะภูวภัทร เชฟทำขนม ที่เป็นเจ้าของ MPB Sweet Cake ไปด้วยในตัว (ตอนนี้เปิดสามสาขาแล้ว)
“หลักๆ เอ็มจะประจำอยู่ที่สาขาเสนานิคม 1 ค่ะ ซึ่งที่นี่เป็นครัวกลาง เปิดหน้าร้าน และเป็นที่ที่ใช้สอนทำเค้กสำหรับคนที่สนใจเรียนด้วย ตอนนี้เปิดมาได้ 6 ปีแล้ว ก็ลองผิดลองถูกกันไป ทั้งการทำเค้ก การขาย การวางกลยุทธ์ และการสร้างจุดเด่นให้ตัวเอง สิ่งที่ได้ค้นพบคือ ทุกวันนี้ คนเริ่มเปิดรับเค้กมากขึ้น มาที่ร้านเพื่อตั้งใจกินเค้กมากขึ้น”
เชฟเอ็ม เผยว่า เธอเป็นคนที่ชอบกินเค้กมาตั้งแต่เด็ก มีคุณแม่ชอบทำขนมปัง และเธอก็ชอบเข้าไปช่วยในครัว “พอเอ็มเรียนจบที่คณะครุศาสตร์ ภาควิชาศิลปะ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เอ็มคิดอยากเรียนทำขนม เลยไปเรียนที่โรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ซึ่งตอนนั้น เขาเปิดสอนในไทยเป็นรุ่นแรก ตอนแรกเอ็มก็ค่อยๆ ลงเรียนทีละคลาส เพื่อวัดใจว่าตัวเองชอบจริงๆ หรือเปล่า แต่พอเรียนไปเรื่อยๆ ก็รู้ตัวว่าชอบจริงๆ เพราะเราได้คิดค้นสูตรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เลยรู้สึกสนุกกับการเรียน อีกทั้งตัวเอ็มเองเป็นคนที่ลุยงานในครัวได้เป็นอย่างดี ไม่ย่อท้อ”
พอเรียนจบปุ๊บ เชฟเอ็มก็ตัดสินใจเปิดร้านเลยทันที แม้จะรู้ตัวว่ามันเร็วมาก และก็ไม่ได้มั่นใจในการเปิดร้าน แต่ด้วยความที่มีพี่ชาย พี่สาว คุณพ่อ คุณแม่ มาช่วยงานกัน เลยทำให้การได้ลองผิดลองถูกไม่โดดเดี่ยวจนเกินไปนัก “เอ็มได้เรียนรู้ทั้งการจัดซื้อ การผลิต การบริหารร้าน บริหารคนไปพร้อมๆ กัน วันแรกที่เปิดร้าน ก็ไม่รู้ว่าจะขายดีหรือเปล่า ปรากฏว่าลูกค้ามาเยอะมาก ส่วนใหญ่มากินและก็ซื้อกลับ ทำให้เค้กหมดตั้งแต่สี่โมงเย็น ทั้งๆ ที่ร้านปิดสี่ทุ่ม ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี”
สำหรับเค้กที่เป็นซิกเนเจอร์ของเชฟเอ็ม ที่คนชอบกินกันมาก นั่นคือ พิซซ่าเค้ก เป็นเค้กที่เธอสร้างสรรค์สูตรขึ้นมาเอง โดยทำเป็นเค้กที่มีหน้าตาเหมือนพิซซ่า ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกหน้าพิซซ่าได้เองอีกด้วย “เอ็มเชื่อว่า การทำเค้ก ไม่ใช่แค่การทำเค้ก มันทำให้ได้เราได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ และทำให้เรากลายเป็นคนที่ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ส่วนใหญ่แรงบันดาลใจของเอ็ม เอ็มมักได้แรงบันดาลใจจากญี่ปุ่นในส่วนของรสชาติ ส่วนการตกแต่ง เอ็มได้รับแรงบันดาลใจจากสหรัฐ”
ด้านอุปสรรคปัญหา เชฟเอ็มเผยว่า หนักหนาที่สุดคงเป็นช่วงน้ำท่วมตอนปลายปี 2554 “เป็นบททดสอบของชีวิตเอ็มได้เป็นอย่างดี ตอนนั้นน้ำท่วมร้าน คนงานลาออกหมดเลย แต่เราก็ยังต้องทำเค้กต่อไป เพราะยังต้องทำเค้กส่งไปตามสาขาต่างๆ เอ็มต้องอดทน และฝ่าฟันอุปสรรคไปให้ได้ นอกจากนี้ยังมีคู่แข่งเยอะ บางเจ้าก็ลอกเลียนแบบเรา เราก็ต้องทำอะไรที่ทำให้คนจดจำและเชื่อในฝีมือของเราให้ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ถือเป็นบททดสอบชั้นดีที่ทำให้เราเป็นเราได้จนถึงทุกวันนี้”
เชฟเอ็มทิ้งท้ายไว้ว่า สำหรับใครที่ชอบทำขนมก็ให้ลงมือทำได้เลย แต่ถ้าใครเห็นคนอื่นทำแล้วเวิร์ก เงินเยอะ ก็ขอให้คิดให้ดีก่อน “วันไหนเราลงทุนไปแล้ว แล้วเรารู้ตัวว่าเหนื่อย ไม่ได้ชอบจริงๆ เงินที่ลงทุนไปมันจะเสียเปล่า หรืออยากลองเรียนเพื่อวัดใจตัวเอง ก็มีที่เรียนเยอะแยะมากมายที่เปิดโอกาสให้เราได้ลองเรียนค่ะ”


