posttoday

ปั่น 3 จังหวัด ‘เหนือ’ ความคาดหมาย

04 กรกฎาคม 2558

สมัยนี้คนหิ้วจักรยานไปทุกที่ และประเทศไทยมีเส้นทางจักรยานให้ปั่นมากกว่าที่คิด อย่างภาคเหนือ

โดย...กาญจน์ อายุ

สมัยนี้คนหิ้วจักรยานไปทุกที่ และประเทศไทยมีเส้นทางจักรยานให้ปั่นมากกว่าที่คิด อย่างภาคเหนือ คนส่วนใหญ่จะคิดถึง จ.น่าน ที่วางตัวเป็นเมืองจักรยานเต็มตัว แต่ใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ก็มีเช่นกัน เป็นเส้นทางที่ชาวบ้านใช้ปั่นเพื่อสัญจร แต่เมื่อนำแผนที่มากางและมาร์กจุดสำคัญก็จะได้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวโดยที่ไม่ต้องลงทุน

เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง สามารถเที่ยวได้เป็นวงกลม โดยเริ่มที่ จ.เชียงใหม่ เพราะเป็นศูนย์กลางการขนส่ง จากนั้นหิ้วจักรยานขึ้นรถประจำทางไป จ.ลำปาง (107 กม.) เมื่อเที่ยวเสร็จก็จับรถอีกครั้งเข้า จ.ลำพูน (76 กม.) จาก จ.ลำพูน สามารถปั่นจักรยานกลับเข้า จ.เชียงใหม่ ผ่านถนนต้นยาง (30 กม.) และกลับกรุงเทพฯ ตามอัธยาศัย

ปั่น 3 จังหวัด ‘เหนือ’ ความคาดหมาย ภายในหอศิลป์ลำปาง

 

เส้นทางทวิภพ เวียงกุมกาม

นักท่องเที่ยวรู้จักนิมมานเหมินท์ แต่เวียงกุมกามจะแค่คุ้นๆ เวียงกุมกามคือเมืองโบราณที่พญาเม็งราย กษัตริย์แห่งโยนกนคร สถาปนาให้เป็นเมืองหลวงแห่งแรกของอาณาจักรล้านนา ปัจจุบันเมืองแห่งนั้นยังคงอยู่ที่เดิมในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ แต่ด้วยกาลเวลาที่ล่วงเลยมา 727 ปี ทำให้อาณาจักรเหลือเพียงซากปรักหักพังในชั้นดิน ซึ่งมีการขุดค้นพบและบูรณะให้เป็นแหล่งศึกษาประวัติศาสตร์แล้ว

เวียงกุมกามทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวมานาน มีศูนย์ข้อมูลเวียงกุมกามที่ให้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ก่อนออกเดินทางและแผนที่ปั่นจักรยานที่จะพาไปไหว้พระเกิน 9 วัด ดังนี้ วัดกู่ป้าด้อม-วัดธาตุน้อย-วัดช้างค้ำ-วัดอีก้าง-วัดหนานช้าง-วัดปู่เปี้ย-วัดพระธาตุขาว-วัดพระเจ้าองค์ดำ-วัดพญาเม็งราย-วัดเจดีย์เหลี่ยม ระยะทางรวม 6 กม.

ปั่น 3 จังหวัด ‘เหนือ’ ความคาดหมาย เก็บภาพในพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา

 

เส้นทางจะผ่านชุมชนเล็กๆ เป็นถนนเลนเดียวที่ส่วนใหญ่มีแต่รถมอเตอร์ไซค์ผ่าน ถนนมีไหล่ทางเล็กๆ ให้จักรยานมีพื้นที่มากขึ้น ตามหัวมุมซอยจะมีป้ายบอกทางไปวัดตามเส้นทาง หากมีเวลาไม่มากควรจะย่อทริปให้เหลือแค่วัดไฮไลต์ เช่น วัดช้างค้ำ จุดค้นพบเวียงกุมกามแห่งแรกในปี 2527 หลังจากจมอยู่ใต้ตะกอนดินมานานเพราะน้ำท่วมเมือง

ในปีนั้น ได้ขุดพบวิหารและเจดีย์ทรงมณฑปบนฐานลานประทักษิณเตี้ย บริเวณฐานพบพระดินเผาศิลปะหริภุญชัยจำนวนมาก เชื่อว่าแต่เดิมชื่อวัดกางโถม แต่เพราะรอบองค์เจดีย์มีช้างแบกค้ำอยู่ ชาวบ้านจึงเรียกชื่อใหม่ว่าวัดช้างค้ำมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้บริเวณจุดขุดค้นยังพบโบราณวัตถุสำคัญเป็นจารึกหินทรายสีแดงสลักอักษร 3 แบบ ได้แก่ อักษรมอญ อักษรมอญที่แปลเป็นไทย และอักษรสุโขทัยบวกอักษรฝักขามรุ่นแรก วัดช้างค้ำถือว่าเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมืองกุมกาม และเมื่อไปเยือนแล้วต้องสักการะพระธาตุช้างค้ำ ไหว้หอพญามังราย และซื้อไม้ค้ำสะหลีค้ำต้นศรีมหาโพธิ์ที่เมล็ดถูกอัญเชิญมาจากเมืองลังกา

ปั่น 3 จังหวัด ‘เหนือ’ ความคาดหมาย รถม้าวิ่งผ่านวัดเจดีย์เหลี่ยม

 

วัดกู่ป้าด้อม ชื่อเดิมของวัดไม่พบหลักฐาน จึงตั้งชื่อเพื่อให้เกียรติแก่เจ้าของที่ดิน ใต้ดินตะกอนทรายแห่งนี้เป็นวัดขนาดใหญ่ ขุดพบและบูรณะเมื่อปี 2542 ประกอบด้วยวิหาร เจดีย์ กำแพงแก้ว โบสถ์ โบราณวัตถุที่สำคัญ เช่น เทวดาปูนปั้นลักษณะคล้ายที่วัดเจ็ดยอด เครื่องถ้วยจากเตาล้านนา และศิลปกรรมที่น่าสนใจที่ลายปูนปั้นรูปมกรคายนาค ประดับราวบันไดทางขึ้นโบสถ์ มกรเป็นสัตว์ในเทพนิยามผสมระหว่างจระเข้ โลมา และช้าง ส่วนมังกรได้อิทธิพลจากจีน ซึ่งเป็นแห่งแรกที่มีศิลปกรรมเช่นนี้ในสถาปัตยกรรมล้านนา

อีกแห่งคือวัดหนานช้าง เคยอยู่ใต้ตะกอนทรายและดินหนาถึง 1.8 ม. โดยได้ถูกค้นพบในปี 2545 ลักษณะพิเศษของวัดนี้คือหันหน้าไปทางทิศเหนือ ผิดจากวัดทั่วไปที่จะหันไปทางทิศตะวันออก อาจเป็นเพราะหันไปตามเส้นทางสัญจรทางน้ำที่เรียกว่า ปิงห่าง นอกจากนี้ใต้ดินยังพบเครื่องลายครามในสมัยราชวงศ์หมิงของจีนรวม 55 ใบ ส่วนหนึ่งเผาขึ้นที่เตาเผาหลวงในสมัยจักรพรรดิต้าหมิงวันลี่ และยังเป็นหลักฐานแสดงความสัมพันธ์อันดีระหว่างล้านนากับจีน

ปั่น 3 จังหวัด ‘เหนือ’ ความคาดหมาย วัดช้างล้อม จุดเริ่มต้นการค้นพบ เวียงกุมกาม

 

ปิดทริปที่วัดเจดีย์เหลี่ยม วัดที่พญามังรายทรงโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ 700 กว่าปีมาแล้ว ส่วนที่สำคัญที่สุด คือ องค์พระเจดีย์ประธานรูปทรงมณฑปลด 5 ชั้น ลักษณะเดียวกับวัดจามเทวีใน จ.ลำพูน ที่จัดว่าเป็นรูปแบบเจดีย์ในระยะแรกๆ ของล้านนา

เวียงกุมกามเหมือนเป็นเส้นทางทวิภพที่พาไปสู่โลกคู่ขนานระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ถ้าใครสนใจแต่ติดปัญหาไม่มีจักรยานทางศูนย์มีให้เช่า ถ้าใครสนใจแต่มีปัญหาไม่อยากปั่น ทางศูนย์ก็มีรถรางให้นั่งชมกันได้เพลินๆ ดังนั้นวิธีเที่ยวกุมกามไม่ใช่ปัญหา แต่ขึ้นอยู่กับนักท่องเที่ยวมากกว่าที่จะหันมาสนใจแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์แห่งนี้หรือไม่

ปั่น 3 จังหวัด ‘เหนือ’ ความคาดหมาย วัดพระธาตุหริภุญชัย

 

เส้นพิพิธภัณฑ์ ลำปาง

“เมืองไทยไม่มีพิพิธภัณฑ์ดีๆ” คงเคยได้ยินคำพูดนี้ แต่ถ้าได้เดินทางมากๆ จะทราบว่าประเทศไทยมีพิพิธภัณฑ์ที่ดีมากมาย อย่างเวียงกุมกามก็ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง หรือที่พิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา ตรงข้ามอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ก็เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมของเก่าหายากและมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาวล้านนาไว้อย่างมีระบบและน่าชม

ส่วนใน จ.ลำปาง มีพิพิธภัณฑ์ทั้งของรัฐและเอกชนที่กล่าวได้ว่ามีคุณภาพ เช่น พิพิธภัณฑ์หอปูมละกอน แม้ภายนอกจะเหมือนสถานที่ราชการแต่ภายในทำเป็นพิพิธภัณฑ์ถาวร แสดงความเป็นมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเขลางค์นคร กลายเป็นเวียงลคอร จนถึงนครลำปาง รวมถึงไขข้อข้องใจเรื่องเมืองต้องคำสาปที่เจ้าแม่สุชาดาเอ่ยไว้ก่อนตาย พิพิธภัณฑ์ถูกออกแบบให้น่าสนใจ ข้อมูลถูกย่อยให้อ่านง่าย และจัดแสดงเป็นนิทรรศการให้เข้าใจเรื่องราวผ่านภาพและมัลติมีเดีย

ปั่น 3 จังหวัด ‘เหนือ’ ความคาดหมาย ขอพรพระในวัดสันป่ายางหลวง

 

อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์อยู่บนถนนตลาดเก่าเรียกว่า กาดกองต้า ย่านเก่าที่อนุรักษ์สถาปัตยกรรมสมัยเป็นย่านการค้า บ้านเรือนถูกดัดแปลงเป็นแหล่งเรียนรู้อย่างที่หอศิลป์ลำปาง (www.lampang-artscenter.org) เป็นเรือนไม้ที่ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี 2550 ประเภทอาคารอนุรักษ์สถาปัตยกรรมล้านนา โดยกรรมาธิการสถาปนิกสยามล้านนา บนเรือนจัดแสดงงานศิลปะแขนงต่างๆ จากศิลปินท้องถิ่นที่หมุนเวียนผลัดเวียนกันมา และของเก่าหลายชิ้นที่หอศิลป์ลำปางรักษาไว้ให้เป็นแหล่งศึกษาศิลปะล้านนา

เมื่อออกจากย่านเมืองเก่าเขลางค์นครไปจะมีอีกพิพิธภัณฑ์ คือ พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี มีความน่าสนใจทั้งเรื่องราวและราคาสินค้าที่เซลส์กระหน่ำตลอดปี สร้างขึ้นโดยทายาท อาปาอี้ ผู้ค้นพบแหล่งแร่ดินขาวใน อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง และผู้สร้างโรงงานเพื่อผลิตชามไก่เป็นแห่งแรกในประเทศไทย ภายในพิพิธภัณฑ์มีการแสดงประวัติของอาปาอี้ ที่มาของแร่ดินขาว และสาธิตการผลิตชามไก่ตั้งแต่ขั้นแรกจนเสร็จสิ้น ลูกหลานอาปาอี้ยังได้เก็บเตามังกรโบราณไว้ ซึ่งถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถานของกรมศิลปากรเป็นที่เรียบร้อย

ปั่น 3 จังหวัด ‘เหนือ’ ความคาดหมาย ปั่นมาไหว้พระที่วัดปงสนุก

 

พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี อยู่นอกเส้นทางกว่าใครเพื่อน แต่ที่พิพิธภัณฑ์หอปูมละกอนและกาดกองต้า นักปั่นสามารถปั่นเชื่อมโยงกันได้ ทั้งนี้หากยึดตามเส้นทางจักรยานที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้แนะนำไว้มีดังนี้ เริ่มต้นที่วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม-วัดประตูป่อง-วัดปงสนุก-สะพานรัษฎาภิเศก (สะพานขาว)-กาดกองต้า และสิ้นสุดที่หอศิลป์ลำปาง ระยะทางรวม 7 กม.

ตามสไตล์เดิม หากใครไม่อยากปั่น ลำปางก็มีรถม้าให้บริการที่สถานีรถม้าเมืองลำปาง ค่าบริการรอบเมืองเล็ก 150 บาท รอบเมืองใหญ่ 200 บาท หรือเช่าชั่วโมงละ 300 บาท คิวรถม้าจอดอยู่ที่หน้าศาลากลางหลังเก่า บริการเวลา 06.00-16.00 น. สมาคมรถม้าลำปาง โทร. 054-219-255

เส้นบุญ ลำพูน

จ.ลำพูน เป็นจังหวัดที่มีขนาดเล็กที่สุดของภาคเหนือ เคยเป็นที่ตั้งของนครหริภุญชัยสมัยพระนางจามเทวี มีอายุมากกว่า 1,000 ปีมาแล้ว เส้นทางปั่นจักรยานก็จะเริ่มต้นที่วัดของพระนาง วัดจามเทวี เชื่อว่าเคยเป็นวัดที่พระนางจามเทวีออกบวชกระทั่งสิ้นพระชนม์ อัฐิของพระองค์บรรจุอยู่ในเจดีย์ทรงเหลี่ยมชื่อว่า สุวรรณจังโกฎิเจดีย์ ตราบจนปัจจุบันเจดีย์ก็ยังประดิษฐานอยู่ แต่ส่วนยอดที่เป็นทองคำหักไป จึงเป็นที่มาของชื่อ กู่กุด ที่ชาวบ้านเรียกกัน

เส้นทางปั่นจักรยานเป็นดังนี้ วัดจามเทวี-วัดมหาวัน-วัดพระดง-วัดสันป่ายางหลวง-กู่ช้างกู่ม้า-วัดพระยืน-วัดพระธาตุหริภุญชัย-ขัวมุง ระยะทางรวม 5 กม. วัดที่ต้องพูดถึงถัดมาคือ วัดสันป่ายางหลวง เป็นวัดพุทธแห่งแรกในแคว้นล้านนา เคยเป็นวัดร้างอยู่ช่วงหนึ่งก่อนที่พระนางจามเทวีจะทรงฟื้นฟูอีกครั้ง ปัจจุบันตัววัดมีความสวยงามอลังการด้วยศิลปะปูนปั้นสีขาว และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญอย่าง พระเจ้าเขียวโขง หรือพระพุทธอัญญรัตนมหานทีศรีหริภุญชัย ประดิษฐานอยู่เหนือองค์พระประธานในวิหารพระเจ้าเขียวโขง

กู่ช้างกู่ม้า หรือที่บรรจุซากช้างศึก-ม้าศึก คู่บารมีของพระนางจามเทวี ดูจากหัวหมูและรูปปั้นช้าง-ม้าที่คนนำมาถวายแล้วคาดได้ว่าน่าจะศักดิ์สิทธิ์มาก ด้านข้างกู่มีหมอดูมาเปิดโต๊ะให้ดูดวงหลายเจ้าซึ่งมีคนมาใช้บริการแทบทุกโต๊ะ

และวัดสำคัญที่สุดใน จ.ลำพูน คือ วัดพระธาตุหริภุญชัยพระธาตุประจำปีระกา ลักษณะเป็นเจดีย์แบบล้านนาแท้ ภายในบรรจุพระเกศบรมธาตุในโกศทองคำ มีจุดให้สักการะหลายแห่ง เช่น วิหารพระเจ้าทันใจ วิหารพระเจ้าองค์แดง รอยพระพุทธบาทสี่ดวง และวิหารพระนอน นอกจากนี้ในเดือน ก.ย.ของทุกปีทางวัดจะมีงานประเพณีสลากย้อม ที่พุทธศาสนิกชนจะนำของใช้และปัจจัยต่างๆ มาถวายโดยแขวนไว้บนต้นสลาก ถือเป็นงานบุญใหญ่และเป็นประเพณีท้องถิ่นที่มีแห่งเดียวในโลก

3 เส้นทางเมืองเหนือ เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน น่าจะเป็นตัวเลือกให้เหล่านักปั่นได้ค้นหาเรื่องราวใหม่ๆ ในสถานที่เดิมๆ แนะนำอย่างยิ่งให้เลือกปั่นวันธรรมดา (ถ้าจะไปพิพิธภัณฑ์ให้หลีกเลี่ยงวันจันทร์ เพราะมันจะปิด) เพราะเป็นวันที่คนไม่เที่ยว รถยนต์น้อย ค่าที่พักถูก ค่าเครื่องบินถูก ค่ารถทัวร์ถูก ส่วนค่าเดินทางระหว่างวัน ถ้าปั่นจักรยานก็เท่ากับศูนย์ แต่หากใช้รถโดยสารสาธารณะ ก็มีรถสองแถวท้องถิ่นให้บริการทั้งรถแดงที่เชียงใหม่ รถฟ้าที่ลำปาง และรถเหลืองที่ลำพูน

คราวนี้การเดินทางและเส้นทางไม่ใช่ปัญหาแล้ว เหลือแค่ “เวลา” ที่ต้องหามาให้ได้เสียที

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และสายการบินไทยสมายล์ ชวนเที่ยวภาคเหนือโดยการจัดเส้นทางทัวร์ “แอ่วเหนือม่วนกั๋น ชวนปั่นวันธรรมดา” เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวภาคเหนือในวันธรรมดาและรู้จักเมืองรองอย่างลำปางและลำพูนมากขึ้น สอบถามโทร. 02-642-4426-8 ตั้งแต่วันนี้ - 30 ก.ย. 2558

ข่าวล่าสุด

ขนส่ง เตือน! รถติดถุงลมนิรภัยทาคาตะ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เช็ก-เปลี่ยนฟรี