posttoday

ลายเส้นแบบอินดี้ อาร์ต จีโน

25 มิถุนายน 2558

โดย...แจนยูอารี  ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

โดย...แจนยูอารี  ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

ตามหาตัวอยู่นาน ใครกันนะ “อาร์ต จีโน” วันนี้ก็ได้เจอตัวเป็นๆ เขาเสียที

เหลือบมองไปมองชายตัวสูง หน้าตี๋ สวมแว่นสายตา ที่เพิ่งเดินเข้ามาในร้านชา เขานั่นเอง ไม่ผิดฝาผิดตัวแน่นอน

แนะนำตัวว่าใช่คนที่กำลังตามหา อาร์ต จีโน ก็เริ่มตอบข้อสงสัยแรก เป็นคนไทย หรือลูกครึ่ง นามสกุล จีโน เขาว่าสืบเชื้อสายมาจากต้นตระกูลภาคเหนือ มิใช่ชาติอื่นใดเลย

อาร์ต จีโน หรือ “ปิยพัชร์ จีโน” ชื่อนี้เข้าไปอยู่ในใจคอการ์ตูนนับแต่ผลงานเล่มแรก “กลับหลังหัน” และ “กลับหลังหัน ๒” นำเสนอสู่สาธารณะ จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ครบ 4 ปีพอดิบพอดีกับการแจ้งเกิดบนถนนสายการ์ตูน 

ทว่า นั่นก็ยังเปรี้ยงไม่เท่าตอนที่เขาคว้า รางวัลบรอนซ์ อวอร์ด เวทีอินเตอร์เนชั่นแนล มังงะ ณ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนักวาดการ์ตูนไทยครองความความยอดเยี่ยม 2 ปีซ้อน จากผลงาน D DAY (2013) และ Juice #1 (2014)

“งานผมจะเป็นการเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ ความเป็นสากลผมก็ไม่คิดถึงเลยนะครับ แต่ผมจะพยายามสะท้อนความเป็นไทยลงไปในงานด้วย ความเป็นไทยนี่ก็คงไม่ใช่ไทยจ๋า น่าจะเป็นความเป็นคนไทยมากกว่า ใช้บรรยากาศ ใช้เรื่องราวใกล้ตัวและสิ่งรอบข้างที่อยู่ในประเทศไทยมานำเสนอ ถ้าเป็นลายเส้นผมว่ามันน่าจะสากลนะ แต่ถ้าเรื่องที่เล่าผมว่ามันมีความเป็นไทย

สิ่งหนึ่งที่ผมได้รับรางวัล ผมว่าเพราะทางกรรมการมองเห็นว่าการ์ตูนผมมีความเป็นไทย เขาคงอยากดูอะไรที่แตกต่างไปจากการ์ตูนชาติอื่นๆ หรือแม้แต่การ์ตูนญี่ปุ่นเอง เขาคงมาเห็นความเป็นไทยและความเป็นคนไทยจากงานที่ผมวาด ชีวิตนักเรียนไทยเป็นอย่างนี้ ซึ่งก็ไม่เหมือนชีวิตนักเรียนที่อื่นๆ มันก็เลยเหมือนเป็นการเปิดโลกอีกโลกที่เขาอาจยังไม่เคยเห็นมาก่อน”

จากเล่มแรกต่อเนื่องมาเรื่อยๆ Now (2013) Hormones The Series ฉบับ Act-Art (2014) Out Line (2014) จนถึงเล่มล่าสุด Juice #2 ที่อยู่ในขั้นตอนการทำงานอย่างมุ่งมั่นและเข้มข้น เห็นชัดว่าพัฒนาการด้านฝีมือและไอเดียเจิดๆ ที่ปรากฏในการ์ตูนมีความเปลี่ยนแปลงเป็นลำดับ เหตุปัจจัยก็เพราะวัยที่มากขึ้น ประสบการณ์ที่สูงขึ้น บวกกับมุมมองที่กว้างไกลและทักษะที่เชี่ยวชาญ นั่นจึงหลอมรวมให้เกิดเป็นผลงานการ์ตูนอินดี้อันน่าสนใจ

“ผมจะเป็นคนประเภทไม่ชอบหยุดนิ่งและไม่ค่อยพอใจกับผลงานตัวเองเท่าไหร่ มันเลยทำให้ผมต้องเปลี่ยนการทำงานตลอดเวลา ถ้าวัดกันตั้งเล่มแรกจนเล่าล่าสุด เปลี่ยนเยอะครับ เฉพาะลายเส้นนี่ก็ค่อนข้างเยอะ เหมือนตอนเริ่มทำงานลายเส้นก็ไม่นิ่ง พอกลับไปอ่าน เออวะ!!! คนใช้กันเกร่อเลย วาดผู้หญิงก็ไม่สวย หลังๆ ก็พัฒนาขึ้น วาดดีและสวยขึ้น เมื่อก่อนจะไม่มีแบ็กกราวด์ ตอนนี้ก็มีละ การวางคอมโพสในแต่ละหน้าก็ดูมีระบบระเบียบ เรื่องสีก็มีการทดลองอยู่พักหนึ่ง แต่สุดท้ายผมก็ชอบการใช้สีน้อยๆ รวมทั้งเนื้อหาก็ยังต้องพัฒนาต่อครับ อย่างตอนนี้ผมกำลังทำ Juice #2 ก็ต่อเนื่องมาจาก Juice #1 คงได้เห็นอะไรใหม่ๆ เพราะผมตั้งเป้าไว้ว่าจะทำเป็นซีรี่ส์ 3 เล่ม ส่วนเรื่องที่อยากทำในอนาคตก็มีในใจหลายเรื่อง เป็นเรื่องแต่งที่รอเข้าคิวทำ รอให้โปรเจกต์ Juice เสร็จสมบูรณ์ก่อนครับ เพราะโปรเจกต์นี้ผมใช้พลังงานกับมันนานมาก โดยเฉพาะการใช้สีเยอะๆ บางอย่างผมยังไม่ค่อยพอใจ ก็ต้องแก้จนกว่าผมจะพอใจนั่นแหละครับ”

ตัวตนอยู่ในผลงาน ความเป็น อาร์ต จีโน ก็ไม่ต่างกัน ตัวตนเขาอยู่ในทุกๆ ผลงาน ความเป็นเด็กต่างจังหวัด ความเกรียน ความเป็นอาร์ติสต์ ความชอบในลายเส้นและตัวการ์ตูน กระทั่งความเป็นคนโลกส่วนตัวสูง ล้วนถูกสะท้อนผ่านตัวละครและเรื่องราวที่ที่เขาสร้างสรรค์ขึ้น

“ถ้าถามว่าอะไรจะอิน อะไรจะเอาต์ อันนี้ผมไม่รู้เลยครับ เพราะผมสนใจแต่ตัวเอง (หัวเราะ) จริงๆ นะครับ ผมรู้แค่ว่าการเขียนการ์ตูนเป็นงานที่หนักมากครับ ท้าทายมากๆ โดยเฉพาะเงิน (หัวเราะ) คิดเรื่องเสร็จ ก็ต้องทำสตอรี่บอร์ด แล้วต้องวาดให้เป็นตัวการ์ตูนจริง สำหรับผมมันนานมากว่าจะเสร็จในแต่ละช่อง ผลตอบแทนเหรอครับ น้อย ซึ่งถ้าเทียบกันกับงานอื่นที่ใช้ทักษะการวาดรูป ยังมีงานอื่นที่ได้ผลตอบแทนเยอะกว่าครับ แต่ที่ผมยังทำมันต่อเพราะผมรักมัน คนที่จะไปรอดกับการ์ตูนในบ้านเราผมว่าน้อยมาก ผมเองก็กึ่งๆ นะครับ คือต้องทำงานอื่นเสริมด้วย ถ้าจะอยู่กับการ์ตูนให้ได้ ต้องประหยัดและยังต้องทำงานอื่นเสริม ว่าไปมันก็เหมือนการเป็นนักเขียนที่มีค่าตอบแทนน้อย แต่ทำงานหนัก อย่างผมตอนเรียนก็ไม่คิดว่าจะมาทำเป็นอาชีพ แค่คิดว่าสนใจและอยากวาดการ์ตูน อยากเป็นคนบุกเบิกการ์ตูนไทย เพราะตอนนั้นการ์ตูนไทยก็มีให้อ่านน้อย การ์ตูนผมอาจจะไม่เหมือนคนอื่น แต่ผมก็คิดว่าทำไมต้องเหมือนคนอื่นด้วยละ ผมก็เริ่มทดลองตามทางตัวเอง นำสีน้ำมาใช้ ซึ่งมันก็ให้อารมณ์ที่ต่างออกไปจากการใช้เทคนิคอื่นๆ”

อาร์ต จีโน เป็นชาวเชียงใหม่ เกิด (9 เม.ย. 2530) และเติบโตที่นั่น แถมยังเรียนต่อที่บ้านเกิด จบปริญญาตรี คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ติดตามผลงานเขาได้ที่ www.facebook.com/artjeeno)

นอกจากจะวาดการ์ตูน เขายังเคยมีงานเขียนสนุกๆ ขำๆ เกรียนๆ “โตเกียวเก้อ” (2014) เล่าเรื่องตอนที่เขาไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่แคร์ผู้อ่าน (ซะงั้น) 

เพราะอยากลองวาดรูปและเล่าเรื่อง โดยอาศัยบล็อกเป็นช่องทางเผยแพร่ พอมีคนติดตามมากขึ้น วันหนึ่งก็ถูกเทียบเชิญให้มาวาดการ์ตูนกับแซลมอนบุ๊คส์ จนคว้ารางวัลและกลายเป็นขวัญใจการ์ตูนอินดี้

ข่าวล่าสุด

โปรแกรมซีเกมส์ 2025 วันนี้ 15 ธ.ค. 68 ลิ้งก์ดูสด ถ่ายทอดสดช่องไหน