ฝึกมวยไทยที่อัจฉรายิม
คิดว่าแฟนๆ ยังคงจำเธอได้ “เอ๋” อัจฉรา ทองเทพ รองมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2535
โดย...แมงโก้หวาน ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี
คิดว่าแฟนๆ ยังคงจำเธอได้ “เอ๋” อัจฉรา ทองเทพ รองมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2535 และเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเล่นละครแนวจักรๆ วงศ์ๆ “จันทโครพ” ในปี 2536 ตามด้วย “ปลาบู่ทอง” ซึ่งเป็นละครที่สร้างชื่อให้เธอตั้งแต่นั้น จากนั้นก็เล่นละครหลายเรื่องหลากหลายแนว รวมทั้งแนวพื้นบ้านมาเรื่อยทางช่อง 7 สี และช่อง 3 จนถึงปี 2543 ก่อนเงียบหายจากวงการไปหลายปี เนื่องจากแต่งงานและหันไปช่วยงานการเมืองของสามี
ทว่าโชคชะตาก็มากลั่นแกล้งชีวิตคู่มีอันเลิกรา ซ้ำเกิดป่วยเป็นโรคเอสแอลอี (SLE) แบบที่ พุ่มพวง ดวงจันทร์ เป็นทำให้ต้องออกจากวงการเพื่อไปรักษาตัวและฟื้นฟูร่างกาย พอสุขภาพเริ่มดีขึ้นก็เข้าสู่วงการอีกคำรบด้วยการเล่นละครประปรายในปี 2553-2557 มีเรื่องสามหัวใจ หมูแดง อำแดงเหมือนกับนายริด รถไฟเรือเมล์ลิเกกองถ่าย ทางช่อง 3 ส่วนผลงานภาพยนตร์ล่าสุดคือ ขรัวโต อมตเถระกรุงรัตนโกสินทร์ ก่อนที่ในกลางปี 2557 จะป่วยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน หากเธอไปหาหมอช้าเพียง 15-20 นาที อาจจะไม่ได้เห็นเธอในวันนี้
ปัจจุบันเธอทุ่มเทให้กับธุรกิจโรงเรียนสอนมวยไทยอัจฉรา (Atchara Muay Thai Gym) หรือ อัจฉรายิม ของตัวเองอย่างเต็มที่ อยู่ที่ซอยนวมินทร์ 74 (แยก 3-7-1) ถนนนวมินทร์ ต้องบอกว่าไปได้สวยทีเดียว มีลูกค้าไปออกกำลังกายด้วยการฝึกมวยไทยจำนวนมาก มีทั้งวัยกลางคน คนรุ่นใหม่ เยาวชน และเด็ก ทั้งคนไทยและต่างชาติทุกวันจนเจ้าตัวยิ้มแก้มปริ
เธอบอกว่า อัจฉรายิมเกิดขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งในการออกกำลังกายของคนยุคใหม่ทั้งหญิงและชาย ทุกเพศทุกวัยที่ชื่นชอบและอยากเรียนรู้กีฬามวยไทย ซึ่งได้รับความนิยมทั้งในหมู่คนไทยและต่างชาติมาหลายปีแล้ว และกีฬามวยไทยนั้นมิได้เป็นแค่การออกกำลังกายที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ทำให้หุ่นเฟิร์ม จิตแจ่มใส สลัดทิ้งซึ่งความจากการที่ได้ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนเท่านั้น แต่ผู้เรียนยังได้เรียนรู้ศิลปะการป้องกันตัวด้วยแม่ไม้มวยไทยเพื่อใช้ป้องกันตัวในยามจำเป็นอีกด้วย
“โรงยิมของเรา มีความกว้างโอ่โถงอากาศถ่ายเทสะดวก ซึ่งถือว่าเหมาะกับการฝึกมวยอย่างมากและบรรยากาศในการฝึกเป็นกันเองระหว่างโค้ชและผู้เรียน”
สำหรับรูปแบบการเรียนมวยไทยของอัจฉรายิมเป็นไปตามโปรแกรมการออกแบบของครูมวยหรือเทรนเนอร์ระดับเหรียญทองแดงโอลิมปิกของไทยที่มาช่วยออกแบบและควบคุมดูแลการสอนทุกอย่างเกี่ยวกับคอร์สมวยไทย นอกจากนี้ยังมีเทรนเนอร์ที่เป็นนักมวยไทยชื่อดังในยุคที่ผ่านมา และนักวิทยาศาสตร์การกีฬาที่มาเทรนให้อย่างใกล้ชิด
“หัวหน้าโค้ชที่ดูแลคอร์สมวยไทยของอัจฉรายิมในปัจจุบันคือ ครูผจญ มูลสัน อดีตเหรียญทองแดงโอลิมปิก ปี 1988 ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ จะเป็นคนออกแบบและวางโปรแกรมการเรียนมวยไทยให้ทั้งหมดในตอนนี้ นอกจากนี้เทรนเนอร์ท่านอื่นๆ อีก 8 คน นักวิทยาศาสตร์การกีฬาอีก 2 คน ซึ่งเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยาเด็กด้วย รับรองว่าเด็กๆ เยาวชนที่มาเรียนที่นี่จะได้รับการดูแลและการถ่ายทอดอย่างถูกวิธีและเป็นที่ชอบใจของเด็กๆ แน่นอน”
ครูผจญอธิบายถึงโปรแกรมการเรียนมวยไทยให้ฟังว่า ก่อนเข้าสู่การเรียนมวยไทยในรูปแบบของอัจฉรายิมนั้นจะให้นักเรียนเริ่มต้นจากการทำกายบริหาร หรือวอร์มอัพร่างกายประมาณ 15-20 นาทีก่อน เพื่อเป็นการเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนการเข้าสู่สเต็ปถัดไปคือการเรียนรู้เกี่ยวกับศาสตร์และศิลป์ของมวยไทย
“หลังวอร์มร่างกายแล้วก็จะสอนพื้นฐานที่ทุกคนต้องรู้เกี่ยวกับมวยไทยตามด้วยเทคนิคต่างๆ อาทิ การยืนมวย การกำหมัด การออกหมัด การเตะ การตีเข่า การใช้ศอก ออกอาวุธอย่างไรไม่ให้เสียเปรียบคู่ต่อสู้ รวมถึงการอ่านใจ อ่านอาวุธคู่ต่อสู้ เป็นต้น เพื่อตอนไปฝึกเข้าเป้ากับครูและการเตะกระสอบซึ่งเป็นสเต็ปถัดไปจะง่ายขึ้น
ทว่าในการถ่ายทอดศิลปะมวยไทยก็ต้องดูนักเรียนเพราะแต่ละคนมีจุดประสงค์การเรียนที่ต่างกัน และจะเห็นว่าผู้มาเรียนที่นี่ส่วนใหญ่เน้นการออกกำลังกายมากกว่า แต่ด้วยศิลปะมวยไทย ดังนั้นโปรแกรมจึงจัดให้เหมาะสมกับความต้องการของนักเรียน แต่ความพิเศษของที่นี่คือบรรยากาศในการเรียนสนุกสนานมาก ไม่เครียด ยิ่งเรียนเป็นกลุ่มยิ่งสนุก”
ว่าแต่ช่วงเดือน มิ.ย.นี้ ยังอยู่ในโปรโมชั่นใหม่ของอัจฉรายิม เรียน 30 ชั่วโมง ราคา 5,000 บาท แถมนวมให้ 1 คู่ ยิมเปิดเวลา 09.00-21.00 น. ทุกวัน สนใจเวลาไหนก็กริ๊งกร๊างไปได้ที่ 08-1555-4446 เบอร์เจ้าของยิมโดยตรง อ้อ! เกือบลืมที่นี่ยังเปิดสอน TRX หรือ Total body Resistance eXercise ซึ่งเป็นอุปกรณ์การฝึกออกกำลังกายกะทัดรัดพกพาง่ายแต่คุณสมบัติน่าทึ่งลองแล้วจะติดใจ


