ถ่ายเอกสารดิจิทัล ประหยัดปลอดภัย

โดย...ปากกาด้ามเดียว

เราเคยได้ยินกันมาตลอดว่าเครื่องถ่ายเอกสารนั้นมีอันตรายต่อผู้ใช้งานในระยะยาว แต่ข้อเท็จจริงก็คือ แม้จะมีผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ที่ใช้งานเป็นเวลานานๆ แต่ปัญหาดังกล่าวมักจะเกิดจากเครื่องถ่ายเอกสารรุ่นเก่าที่ใช้ระบบอะนาล็อก แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในปัจจุบัน บรรดาผู้ผลิตเครื่องถ่ายเอกสารทั้งหลายได้หันมาพัฒนาเครื่องถ่ายเอกสารเป็นระบบดิจิทัลกันหมดและมีการยกเลิกการผลิตในระบบอะนาล็อกเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานนั่นเอง

เรามารู้จักความแตกต่างระหว่างเครื่องถ่ายเอกสารระบบอะนาล็อก กับระบบดิจิทัลกันดีกว่า

1.หลอดไฟสำหรับสแกนต้นฉบับในเครื่องถ่ายเอกสารระบบอะนาล็อกใช้หลอดไฟฟ้าพลังงานสูง หรือหลอดฮาโลเจน ทำให้เกิดความร้อนสูง แต่ในปัจจุบันเครื่องถ่ายเอกสารระบบดิจิทัลนั้น หันมาใช้หลอด Fluorescent (CCFL) และหลอด LED ที่ใช้พลังงานต่ำ จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายเท่าหลอดฮาโลเจนที่อาจทำให้ระคายเคืองต่อตา จมูก คอ วิงเวียนและปวดศีรษะ

2.ผงหมึกที่ใช้สำหรับเครื่องถ่ายเอกสารที่เป็นคาร์บอน 100% ผสมกับพลาสติกเรซิ่นนั้น ปัจจุบันมีใช้งานกันอยู่ไม่กี่ยี่ห้อ การใช้งานเครื่องถ่ายเอกสารแน่นอนว่าอาจมีกลิ่นออกมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย แต่ก็ไม่เกินค่ามาตรฐานที่ทั่วโลกกำหนดเป็นมาตรฐานในการผลิต ดังนั้นตำแหน่งการวางเครื่องถ่ายเอกสารให้เป็นสัดส่วนรวมทั้งมีระบบระบายอากาศที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจ

3.สารเคมีอื่นๆ เช่น ซีลีเนียม แคดเมียมซัลไฟด์ ซิงค์ออกไซด์ และโพลีเมอร์ที่เคลือบไว้ที่ลูกกลิ้งในเครื่องถ่ายเอกสาร หรือที่เรียกว่าดรัม ซึ่งจะระเหยออกมาในระหว่างการใช้งาน แม้จะมีปริมาณที่น้อยมากแต่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ ตา ซึ่งดรัมชนิดนี้ไม่มีการผลิตออกมาใช้งานแล้ว ในขณะที่เครื่องถ่ายเอกสารระบบดิจิทัลใช้ดรัมชนิด OPC (Organic Photo Conductor) และชนิด Amorphous Silicon ซึ่งไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่ว่า จึงไม่มีอันตรายจากสารเคมีดังกล่าว

สรุปได้ว่าเครื่องถ่ายเอกสารระบบดิจิทัลสมัยใหม่ไม่ได้เป็นอันตรายอย่างที่คิด ผสานกับลักษณะการใช้งานในปัจจุบันได้เปลี่ยนไปจากเดิมเป็นการสั่งพิมพ์ผ่านระบบเครือข่าย และในปัจจุบันเครื่องถ่ายเอกสารระบบอะนาล็อกได้เลิกผลิตและเลิกใช้งานไปแล้ว