posttoday

เสือเขาใหญ่

31 พฤษภาคม 2558

ของล้ำค่าสิ่งหนึ่งของอุทยานฯ เขาใหญ่ที่ผมเสียดายมาก คือการสูญสิ้นไปของเสือโคร่ง (เหลือแค่ซากสตัฟฟ์)

โดย...ปริญญา ผดุงถิ่น

ของล้ำค่าสิ่งหนึ่งของอุทยานฯ เขาใหญ่ที่ผมเสียดายมาก คือการสูญสิ้นไปของเสือโคร่ง (เหลือแค่ซากสตัฟฟ์)

สาเหตุที่เสือโคร่งหมดไปจากเขาใหญ่เกิดจากอะไร? ข้าราชการกรมอุทยานฯ หลายคน ฟันธงตามหลักวิชาว่า ถ้าพื้นที่ปิดแบบเขาใหญ่ ยังมีสัตว์สาบสูญไปล่ะก็ แปลว่ามีการล่า!

ฟังแล้วเห็นด้วยเลย ก็ในเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง เพิ่งมีการจับกุมแก๊งพรานล่าช้างแถบปราจีนบุรี พวกนี้คงจะล่ากันมาแต่รุ่นบรรพบุรุษแล้วละ

เลยถามข้าราชการกรม อุทยานฯ อีก แล้วการจัดการพื้นที่อุทยานฯ เขาใหญ่ มันควรจะเป็นอย่างไรกันแน่ จะเน้นแต่บันเทิงเริงรมย์กลางป่าเพื่อโกยเงินเป็นหลัก (อันนี้ รวมถึงบิ๊กโปรเจกต์ ผุดรีสอร์ทหรือคืนชีพโรงแรมเขาใหญ่ด้วย) หรือต้องอนุรักษ์อย่างเข้มข้น? ได้รับคำตอบน่าสนใจ ดังนี้

อันว่า อุทยานฯ เขาใหญ่นั้น ปัจจุบันกำลังพลผู้พิทักษ์ป่าประมาณ 75% ต้องมายุ่งกับภารกิจรับรองนักท่องเที่ยว เหลือแค่ 25% เท่านั้น ที่ออกลาดตระเวนป่า ทั้งที่ควรลาดตระเวนกันที่ 75%

เมื่อเทียบกับพื้นที่ป่าอันกว้างใหญ่แล้ว การลาดตระเวนของอุทยานฯ เขาใหญ่ เป็นสัดส่วนที่น้อยไปมาก สิ่งที่ควรแก้ไข คือการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ เพราะงบประมาณที่นำมาจ้างเจ้าหน้าที่ ก็เพื่อให้ลาดตระเวนดูแลป่า ไม่ใช่ดูแลนักท่องเที่ยว

ในเมื่อเขาใหญ่สามารถหาเงินได้มหาศาลในแต่ละปี (ระดับท็อปทรีของประเทศ) ก็ควรใช้เงินที่ได้จากการท่องเที่ยวมาจัดการการท่องเที่ยว ด้วยการจ้างคนนอกมารับหน้าที่ต่างๆ ที่เป็นงานด้านการท่องเที่ยวล้วนๆ  เพื่อไม่ให้ต้องเสียกำลังคนลาดตระเวน

ถ้าทำได้เช่นนี้ เท่ากับจัดการท่องเที่ยวและดูแลป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูสีกัน ไม่ใช่แข็งแกร่งด้านการท่องเที่ยว แต่การอนุรักษ์อ่อนแอ

อย่างไรก็ดี ข้าราชการท่านนี้ก็ยอมรับว่า อุปสรรคใหญ่มันคือระบบจากส่วนกลางเอง เพราะส่วนกลางก็ต้องการให้เขาใหญ่ปั๊มเงินให้มากที่สุด!

ขอแนบความเห็นของผมต่อท้าย ผมอยากให้เขาใหญ่ทำโครงการเสือโคร่งคืนถิ่น มากกว่ามัวไปทำรีสอร์ทหาเงิน ท่านควรเร่งเชื่อมป่า (Corridor) ระหว่างเขาใหญ่กับทับลาน ตามเงื่อนไขของยูเนสโกเสียที (จะดีกว่าไหม?) เพื่อเป็นช่องทางให้เสือจากอุทยานฯทับลาน มีโอกาสข้ามฟากกลับมา

หรือแม้แต่คิดใหญ่ทำใหญ่ นำเสือจากพื้นที่อื่นมาปล่อยเขาใหญ่ ดังเช่นประเทศอินเดียก็ใช้วิธีนี้มาแล้ว (นำเสือจากอุทยานฯ รันธัมบอร์ ไปปล่อยที่ซาริสก้า) เพียงแต่มีข้อแม้ ต้องยกระดับการคุ้มครองพื้นที่ ให้มีความปลอดภัยกับเสือและสัตว์อื่นๆ มากกว่านี้เสียก่อน มิฉะนั้นก็เหมือนส่งเสือให้พราน

อยากเห็นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่เขาใหญ่ มีศักดิ์ศรีและมั่นคงไปชั่วลูกชั่วหลานครับ

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา