ได้...ถ้าใจถึง ผลงานล่าสุดของ ณัฐพบธรรม

“ได้...ถ้าใจถึง” เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสร้างชีวิตในแบบที่ต้องการ แต่ไม่รู้ว่าความล้มเหลวในชีวิตเกิดจากอะไร

เรื่อง พัมพ์กิ้น_พาย / ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช

“สิ่งที่ได้รับจากผู้อ่านผมคงอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ ปลื้มใจ ดีใจที่เราได้แบ่งปันให้คนอื่นๆ ได้เข้าใจในธรรมะ ได้เข้าใจในสิ่งดีๆ ที่เราได้สื่อสารออกไป“

ณัฐพบธรรม ธนันท์เมธากรณ์ เจ้าของหนังสือ “ถ้ารู้ (กู) ทำไปนานแล้ว” เผยความรู้สึกหลังได้การตอบรับจากผู้อ่านเป็นอย่างดี คราวนี้เขากลับมาพร้อมผลงาน “ได้...ถ้าใจถึง”

เดิมที ณัฐพบธรรม ก็เหมือนกับคนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้สนใจธรรมะ เขายอมรับว่าปีหนึ่งจะทำบุญประมาณ 2 ครั้ง ในช่วงวันเกิด หรือช่วงที่รู้สึกว่าชีวิตมีปัญหาเท่านั้น

“อย่างเรื่องใกล้ตัว การทำงานอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้เราได้เงินเยอะขึ้นเราก็ทำ ถ้าไม่ผิดกฎหมาย หรือเรื่องดื่มเหล้าก็ค่อนข้างบ่อย ไปเที่ยวสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เราคิดว่าธรรมะเป็นเรื่องของคนสมถะ คนแก่ นุ่งขาวห่มขาว ไม่น่าจะเหมาะกับเราคนที่ยังทำมาหากิน ยังต้องการความสำเร็จในชีวิต

แต่หลังจากที่เราเริ่มทำงานไปสักพัก ก็เกิดคำถามในใจว่าทำไมคนที่ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน ทำไมถึงประสบความสำเร็จน้อยกว่า แสดงว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้นที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ”

จนวันหนึ่งเขาก็มาค้นพบจากหนังสือว่าธรรมะกับความรวยนั้นไปด้วยกัน สามารถส่งเสริมกันได้ เขาจึงตัดสินใจที่จะเริ่มต้นศึกษาธรรมะอย่างจริงจังด้วยการเริ่มอ่านหนังสือธรรมะ ก่อนที่จะไปอ่านพระไตรปิฎก สวดมนต์ และวิปัสสนาอยู่อย่างสม่ำเสมอ

จากการศึกษาธรรมะอย่างจริงจังประมาณ 2 ปี จึงอยากจะถ่ายทอดเรื่องราวดีๆ ที่เขาได้ประสบพบเจอมา โดยเขียนหนังสือเล่มแรก “ถ้ารู้ (กู) ทำไปนานแล้ว” พิมพ์กับอมรินทร์พริ้นติ้ง

“ลองเขียนหนังสือเป็นเรื่องราวของผมเอง ว่าทำไมเมื่อก่อนผมถึงไม่เชื่อในธรรมะ แล้วผมได้เรียนรู้และเข้าใจอะไร ทำไมผมถึงเชื่อ ผมคิดว่าคนทำมาหากิน หรือมนุษย์ทุกคนควรจะรู้เอาไว้ ผมใช้ภาษาชาวบ้านเหมือนเพื่อนนั่งคุยกัน เล่าให้ฟังว่าเป็นแบบนี้ ไม่ใช่หนังสือธรรมะที่อ่านยาก”

ผลตอบรับไม่ทำให้เขาผิดหวัง จนเกิดเป็นหนังสือเล่มที่ 2 ตามมานั่นก็คือ “ได้...ถ้าใจถึง”

“ได้...ถ้าใจถึง” เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสร้างชีวิตในแบบที่ต้องการ แต่ไม่รู้ว่าความล้มเหลวในชีวิตเกิดจากอะไร ในขณะเดียวกันก็เหมาะกับคนที่ไม่ว่าจะอ่านหนังสือพัฒนาตนเอง อ่านหนังสือเกี่ยวกับความสุข ความสำเร็จในด้านต่างๆ และพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ทำได้ไม่นาน สุดท้ายก็กลับไปเหมือนเดิม

“ตอนนี้ผมก็ยังอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิตอยู่เหมือนเดิมนะ เพียงแต่เราจะมีกรอบของธรรมะ กรอบที่พระพุทธเจ้าตีเอาไว้ว่า ถ้าเราอยากจะประสบความสำเร็จแบบไม่เบียดเบียนใครจะต้องทำอย่างไร แล้วสิ่งที่เราได้รับมาก็จะเป็นความสำเร็จในแบบที่ทำให้เราสุขใจไปพร้อมๆ กัน”

ทุกวันนี้นอกจากจะทำธุรกิจส่วนตัวแล้ว ณัฐพบธรรม ก็ยังเขียนหนังสือธรรมะอย่างต่อเนื่อง