‘9 limit cut’ บาร์เบอร์สุดอินดี้
“วันหนึ่งเราจะตัดผมได้แค่ 9 คนเท่านั้น ซึ่งจริงๆ เราตัดได้เยอะกว่านี้ แต่เราคิดว่าตัดพอแล้ว เน้นให้ได้คุณภาพจริงๆ”
โดย...พงศ์ พริบไหว ภาพ : กิจจา อภิชนรจเรข
“วันหนึ่งเราจะตัดผมได้แค่ 9 คนเท่านั้น ซึ่งจริงๆ เราตัดได้เยอะกว่านี้ แต่เราคิดว่าตัดพอแล้ว เน้นให้ได้คุณภาพจริงๆ”
บอม-ณัฐพล เพิ่มผล หนุ่มมาดเท่ หนึ่งในเจ้าของร้านบาร์เบอร์สุดอินดี้ “9 limit cut” พูดไว้ถึงปรัชญาการของร้านตัดผมแห่งนี้ ช่างเพียงคนเดียวสามารถตัดผมได้เพียงวันละ 9 หัว และให้เวลาบริการใน 1 ครั้ง เป็นเวลา 1 ชั่วโมงเต็ม ซึ่งวิธีคิดเช่นนี้เกิดมาจากการสะสมประสบการณ์การเป็นช่างตัดผมมาจากร้านดังในถิ่นเด็กแนวที่สยาม ก่อร่างสร้างตัวจากเพื่อนสนิทช่างตัดผม 5 คน ที่มีจุดมุ่งหมายและทัศนคติเดียวกัน ก่อนพากันมาเริ่มทำความฝันให้เป็นจริง นั่นคือการมีร้านตัดผม ที่ให้ความรู้สึกเหมือนคนในครอบครัวมานั่งตัดกันเอง
“ร้านนี้เราตั้งใจให้ความสบายกับตัวเองก่อน ให้เรามีเวลามากขึ้นในการทำงาน มีเวลาดูแลลูกค้าได้เต็มที่ ไม่เร่งรอบตัดแต่ละหัว คือหัวหนึ่งเราตัด 1 ชั่วโมง เอาให้เต็มที่ที่สุด อย่างที่บอกไปช่าง 1 คน จะรับลูกค้าได้แค่วันละ 9 คน ซึ่งเป็นอะไรที่เหมาะสมที่สุดแล้วเพื่อให้งานออกมามีคุณภาพ แล้วใน 1 ชั่วโมงที่ลูกค้ามาอยู่กับเรา ไม่ใช่มาแล้วก็ตัดเลยนะ เรามานั่งพูดคุยกันก่อนให้รู้สึกได้ว่าเราเป็นครอบครัว ถามสารทุกข์สุกดิบกัน คือเราอยากให้การตัดผมเป็นการรีแลกซ์สำหรับลูกค้าด้วย เราอยากให้รู้สึกว่าเหมือนพี่เหมือนน้องแวะมาหากัน แล้วใน 1 ชั่วโมงเราก็จะตัดผมให้ละเอียดที่สุด ให้ตรงตามลูกค้าชอบมากที่สุด และดีที่สุด”
ร้าน “9 limit cut” ขึ้นชื่อเรื่องการตัดผมแนวดีไซน์ คือลูกค้าอยากได้แบบสไตล์ไหนก็พูดคุยออกแบบลวดลายบนหัวกันได้เลย ทางร้านจัดให้ ซึ่งร้านแห่งนี้ถือว่าเป็นร้านบาร์เบอร์น้องใหม่ที่มาแรงจริงๆ เรียกได้ว่าเปิดมาได้เพียงแค่ 2 เดือน มีลูกค้าทั้งใหม่และเก่าวนเวียนมาให้ทางร้านจัดหล่อกันไม่หวาดไม่ไหว ด้วยเพราะบรรยากาศในการตัดผมที่ดูเป็นกันเอง และสไตล์การตัดที่มุ่งเน้นถึงความละเอียดในงาน ที่สำคัญที่สุดคือพยายามตัดแล้วให้ลูกค้าสามารถกลับไปเซตผมเองที่บ้านได้เหมือนที่เซตกับทางร้าน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ยากมาก
ช่างตัดผมสุดแนวอย่างบอม เล่าทั้งรอยยิ้มให้ฟังว่า ถ้าลูกค้าเดินออกจากร้านไปแล้วชอบงานเรา นั่นยังไม่ถือว่าประสบความสำเร็จ ลูกค้าต้องกลับบ้านไปเซตผมเองได้ด้วย แน่นอนนั่นคือความยากที่สุดในการทำร้านบาร์เบอร์ในยุคนี้ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม เพราะมีรูปแบบของทรงผมที่ดูไม่ซ้ำเดิม ทั้งดูดีมีสไตล์ในแบบเฉพาะตัว ซึ่งก็ถือเป็นเสน่ห์ของร้านแห่งนี้ ทำให้ลูกค้าที่จะพาตัวเองมาตัดผมที่ “9 limit cut” ต้องนัดก่อนล่วงหน้าเพื่อให้ได้เป็น 1 ใน 9 คน
“หากลูกค้าจะมาตัดกับทางเราต้องนัดล่วงหน้าก่อน 2 วัน เพราะถ้าโทรมาวันต่อวันลูกค้าจะไม่ได้เวลาที่ต้องการ ฉะนั้นการโทรจองก่อน คือการล็อกเวลาที่ลูกค้าต้องการได้ ซึ่งราคาเริ่มต้นในการตัดก็ 400 บาท ซึ่งในความคิดของผม ผมว่าเป็นราคาที่คุ้มค่ากับคุณภาพที่เหมาะสมที่ลูกค้าจะได้รับ ซึ่งบาร์เบอร์สมัยใหม่เราทำงานกันเนี้ยบขึ้นมาก มีรายละเอียดในการทำงานต่างไปจากสมัยก่อนมีการเซตผม การแต่งหนวด กันจอน มีการใช้ปัตตะเลี่ยนตัวเล็กเข้ามาแกะลาย คือเป็นการตัดผมสมัยใหม่ที่มีสีสันในการทำงานขึ้น ซึ่งร้านตัดผมใครๆ ก็สามารถจะทำได้ แต่คุณภาพของตัวช่าง คุณภาพงาน ลูกค้าจะเป็นคนตัดสินใจเอง”
เจ้าของร้านอดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร เล่าถึงเรื่องร้านของเขาให้ฟังพอหอมปากหอมคอ ซึ่งแน่นอนว่ากว่าเจ้าตัวจะมาทำความฝันให้เป็นจริงได้สำเร็จเหมือนทุกวันนี้ได้ คำว่าเริ่มจากศูนย์ยังมากไปสำหรับเขา ซึ่งเจ้าตัวเองอาจโชคดีกว่าช่างตัดผมหลายๆ คนที่ทำงานไม่นานก็เป็นที่รู้จัก อาจด้วยเพราะเรียนศิลปะมา พื้นฐานตรงนั้นจึงทำให้ช่างบอมมาได้ไกลจนถึงวันนี้
“คือผมเริ่มตัดผม 4 ปีมาแล้ว ซึ่งก็ไม่ถือว่านาน ช่างในร้านบางคนตัดกันมาเป็น 10 ปี แล้วพอเราทำงานบนหัว ซึ่งมันสูงนะ มันเหมือนเราก็ชอบสิ่งนี้เรื่อยๆ แล้วด้วยความที่เป็นคนเรียนศิลปะมา เวลาตัดผมก็คิดว่ากำลังทำงานศิลปะอยู่ ก็เริ่มศึกษาหาทางของตัวเอง จากการที่ได้ไปเรียนพื้นฐานและจากการศึกษาเทคนิคผ่านอินเทอร์เน็ต แล้วสิ่งที่ทำให้เราเป็นเร็ว คือการเก็บชั่วโมงบินมาเรื่อยๆ ยิ่งตัดได้เยอะมากเท่าไร เราก็เข้าใจถึงรายละเอียดของการตัดผมมากขึ้น เพราะแต่ละทรงมีรายละเอียดต่างกัน วันหนึ่งอย่างน้อยเมื่อก่อนต้องมีสักวันละ 12 หัว โคตรเหนื่อยเพราะมันยืนทั้งวันไง”
เจ้าตัวพูดแล้วหัวเราะถึงการฝึกฝนทักษะการเป็นช่างตัดผมและการฝึกจนได้สไตล์ของตัวเอง ซึ่งก็ไม่ง่ายดายอย่างที่ใครๆ คิด เพียงแต่ขอแค่ตั้งใจ ซึ่งเจ้าตัวยังบอกอีกว่า การตัดผมไม่มีใครเก่งไปกว่าใคร หรือเก่งที่สุด แต่คนที่จะตัดสินว่าเราเก่งได้คือลูกค้า ซึ่งอยู่ที่การฝึกฝนล้วนๆ ซึ่งใครที่อยากเป็นช่างตัดผมในยุคนี้ หากได้ฟังประโยคถัดไปของช่างบอมคงทำให้ฉุกคิดกันมิใช่น้อย
“สิ่งสำคัญที่สุดคือลูกค้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราไม่สามารถรู้ได้หรอกว่าเขาจะชอบในแบบของเราที่ทำให้ไหม แต่เราเองต้องคิดเสมอว่าต้องทำยังไงก็ได้ให้งานละเอียดที่สุด ให้มันคุ้มกับเงินที่เขาจ่ายมากที่สุด พูดง่ายๆ ก็คือทำงานของเราด้วยความตั้งใจที่สุด ไม่ว่าผลจะออกมายังไงเราก็ได้ทำเต็มที่แล้ว ซึ่งในอาชีพนี้ไม่ได้มีอะไรได้มาง่ายๆ ทุกอย่างต้องใช้ประสบการณ์ ต้องใช้ความอดทน ศึกษาอย่างจริงจัง อย่างพวกเรากว่าจะมีร้าน 9 limit cut ก็ผ่านอะไรกันมาเยอะ พอได้มีร้านเป็นของตัวเองก็ภูมิใจนะ เพราะเราเริ่มกันจากไม่มีอะไรกันมาเลย ร้านแห่งนี้เกิดจากคน 5 คน ที่มีความฝันและทัศนคติตรงกัน ตั้งใจทำร้านตัดผมที่หวังให้ลูกค้าชอบในสไตล์ของเรา ชอบในสิ่งที่เราทำ ชอบในคุณภาพที่เรามี”
หากใครอยากมาพบกับร้านตัดผมที่ดูอบอุ่นกันเอง ตัดได้ทั้งสไตล์วินเทจและแฟชั่น งานนี้ท่านสุภาพบุรุษหรือสุภาพสตรีก่อนเตรียมศีรษะไปให้ช่างไถเกรียน ขอย้ำว่าให้โทรนัดคิวกับทางโอเปอเรเตอร์คนสวยประจำร้านที่ โทร. 09-7265-4114 หรือเข้าไปดูแบบทรงผมได้ที่แฟนเพจ 9 limit cut ร้านตั้งอยู่รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีสุขุมวิท ตรงโซนเมโทรมอลล์


