แคทเทอร์เดย์ แคท คาเฟ่ ให้ทุกวัน เป็นช่วงเวลาของเหมียว

โดย...กั๊ตจัง

ร้านแสนน่ารักที่เต็มไปด้วยเจ้าเหมียวทุกมุมมอง มีจุดเริ่มต้นมาจากแมวหน้าตาหน่ายโลก แต่แสนจะน่ารักน่าหยิกนาม “แคทฉับ” แมวแสนรักของ กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา ผู้กำกับภาพยนตร์ เรื่อง สี่แพร่ง ห้าแพร่ง และรัก 7 ปี ดี 7 หน ความโด่งดังของเจ้าแมวตัวนี้ ดังขนาดดาราต้องเข้ามาขอถ่ายรูปคู่ด้วยคิดดูเอาละกัน ไม่รู้ว่าถูกแมวสะกดจิต หรือใครดลใจ ผู้กำกับชื่อดัง จึงตัดสินใจเปิดร้านแคทเทอร์เดย์ แคท คาเฟ่ ให้เป็นคาเฟ่ของคนรักแมวได้เข้ามารับประทานอาหารเครื่องดี่มและได้อุ้มกอดแมวที่น่ารักไปด้วยในตัว

กอล์ฟ บอกกับเราว่า “ทุกอย่างเริ่มต้นการที่ผมเป็นคนรักแมว แรกๆ ผมมีแมวเลี้ยงอยู่หลายตัว แล้วผมก็โพสต์อัพอินสตาแกรม จนมีคนติดตามอยู่เป็นจำนวนมาก หลายคนก็อยากจะเจอตัวจริงอยากเข้ามาชมใกล้ๆ แรกๆ เราก็คิดว่ามันจะดีเหรอที่เราจะเอาแมวเราไปให้คนอื่นเขาอุ้มเล่น

จนน้องชายบอกว่า ก็เปิดเป็นคาเฟ่แมวดูสิ ให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้ใกล้ชิดกับแมว เราก็เออเห็นด้วย แต่ในใจนี่ดีใจที่สุดไม่ได้เป็นเรื่องเปิดร้าน แต่ดีใจที่จะได้เลี้ยงแมวเพิ่ม (พลางหัวเราะชอบใจ) จึงเปิดเป็นร้านแคทเทอร์เดย์ แคท คาเฟ่ ที่มีจุดเด่นอยู่ที่เจ้าเหมียวกว่า 40 ชีวิตคอยต้อนรับคนรักแมวทั่วทุกมุมเมืองได้มากอดแมวอย่างอบอุ่น”

ลูกค้าทุกคนที่เข้าร้านนี้เป็นประจำก็จะเห็นภาพแมวเซเลบอย่าง “แคทฉับ” เจ้าแมวหน้าตาหน่ายโลก ที่มีแฟนคลับจะต้องเข้าไปพะเน้าพะนอขอถ่ายรูปทุกครั้งที่ไปเยี่ยมเยือน (ทาสแมวชัดๆ) นอกจากนี้ก็มีเหล่าเหมียวที่หน้าตาน่ารักไม่แพ้กันคอยรับแขกอย่างรู้งาน

กอล์ฟ เล่าต่อว่า จากที่เคยไปใช้บริการคาเฟ่แมวในต่างประเทศส่วนใหญ่จะมีแต่กาแฟ เครื่องดื่ม และของว่าง แต่สำหรับเขาแล้วมีความคิดว่า คนที่มาเขาอาจจะอยากอยู่กับแมวนานๆ ก็คงอยากจะรับประทานอาหารที่อยู่ท้องบ้าง ร้านนี้ก็เลยมีอาหารหลักๆ อย่าง ชีสซี่ฟรายส์ เฟรนช์ฟรายส์โรยชีส หอม นุ่ม ตามด้วยสปาเกตตี โบโลเนสหมู และสปาเกตตี คาโบนาร่า ไข่กุ้ง เป็นอาหารหลักของร้าน ของหวานชูโรงจะเป็น เครปเค้กชาไทย และเค้กช็อกโกแลต

ส่วนเครื่องดื่มก็จะเป็นเครื่องดื่มพวกชา กาแฟ ระดับร้านกาแฟ ระดับพรีเมียมร้านหนี่ง ราคาเครื่องดื่มอาหารก็เริ่มตั้งแต่ 80-150 บาทขึ้นไป แล้วแต่เมนู

“ร้านนี้เป็นร้านที่เน้นให้ลูกค้าคนรักแมวเข้ามาใช้บริการ ลูกค้าหลายท่านมาทุกสัปดาห์ บางทีไม่มีอะไรก็แวะมาเล่นกับแมวตัวโปรดก็มี แต่แนะนำว่าไม่ควรพาแมวส่วนตัวเข้ามาในร้าน เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นลูกแมวเล็กที่ยังไม่ซนมากจะเอาเข้าร้านได้ เพราะถ้าเป็นแมวที่โตแล้ว อาจจะมีปัญหากับแมวเจ้าถิ่น เพราะอย่างแมวที่เลี้ยงไว้กว่า 50 ตัว ส่วนมากจะเลี้ยงอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ ดังนั้นเขาจะคุ้นกลิ่นคุ้นหน้ากันดี ไม่มีปัญหาทะเลาะกัน”

ส่วนบรรยากาศภายในร้านจะเป็นโต๊ะเล็กๆ นั่งพื้น เพื่อให้ลูกค้าได้อยู่กับแมวอย่างใกล้ชิด และไม่ว่าจะมองไปทางไหนของร้านเราก็จะเห็นแต่แมวเกือบ 40 ชีวิตเดินสลอนกันเต็มร้าน จนเจ้าของร้านเองยังสงสัยว่า นี่เราเปิดแคท คาเฟ่ หรือเปิดสวนสัตว์กันแน่ แต่ส่วนมากลูกค้าจะชอบกันทุกคน เพราะเจ้าเหมียวน่ารักทุกตัว และก็ไม่ต้องเสียเวลาถามว่าตัวนี้ชื่ออะไร ในเมนูอาหารมีรูปหน้าและชื่อบอกเสร็จสรรพ ส่วนลูกค้าคนไหนสั่งอาหารแมวมาที่โต๊ะ ก็จะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากแก๊งเหมียวมากเป็นพิเศษ งานนี้เหมียวเอ๊ย... ผมพูดเลยว่า คนรักแมวทั้งหลายห้ามพลาดร้านนี้ด้วยประการทั้งปวง...