ช่างร้ายเหลือ รัดเกล้า อามระดิษ
ละคร "แรง" นาทีนี้ต้องยกให้ "สุดแค้นแสนรัก" ขณะที่ตัวละคร "ร้าย" ก็คงไม่มีใครเกิน "นังแย้ม" ผู้มีดีกรีความร้ายกาจขั้นเทพ
โดย...แจนยูอารี ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี
ละคร "แรง" นาทีนี้ต้องยกให้ "สุดแค้นแสนรัก" ขณะที่ตัวละคร "ร้าย" ก็คงไม่มีใครเกิน "นังแย้ม" ผู้มีดีกรีความร้ายกาจขั้นเทพ
"รัดเกล้า อามระดิษ" เจ้าของบทบาทนั้น สลัดมาดนางร้าย (ในจอ) มานั่งเปิดใจอย่างสบายอารมณ์ ณ ห้องรับแขก ค่ายเมกเกอร์ กรุ๊ป ย่านเสนานิคม เธอยิ้มหน้าบานมาแต่ไกล แหม!!! ใครหนอช่างกล้าเมาท์ หาว่าเธอร้ายกาจอย่างโน้นอย่างนี้
"ตัวจริงพี่เป็นคนไม่สู้คนนะคะ (หัวเราะ) คือพี่จะไม่ชอบการทะเลาะเบาะแว้ง ไม่ชอบความขัดแย้ง ถ้าถอยได้ก็ถอย คือจะไม่เอาตัวเข้าไปแลก หรือปะทะเด็ดขาด แค่เห็นหมากัดกันพี่ก็ไม่ชอบละ ก็จะรีบห้ามมัน ไม่ก็หาน้ำมาสาด เพื่อให้แยกออกจากกัน เนี่ยคือนิสัยพี่
ส่วนแย้มจะค่อนข้างเป็นคนจริงจัง เรียกว่าสุดๆ ทุกเรื่อง รักก็รักสุด เกลียดก็เกลียดสุด แล้วแย้มก็จะมีความเพียรสูง ถ้าใช้ในทางที่ถูกที่ควรก็จะเป็นประโยชน์ แต่ถ้าใช้ผิดที่ผิดทางก็จะมีแต่ความเดือดร้อนตามมา ซึ่งในความเป็นคนจริงจังของแย้ม มันก็คล้ายๆ กับพี่นะ คือพี่ก็เป็นคนจริงจัง โดยเฉพาะเรื่องงาน กระทั่งงานอดิเรกพี่ก็จริงจัง หรือแม้แต่การออกกำลังกายพี่ก็จริงจัง (หัวเราะ) พี่ก็เลยเป็นพวกประเภทจริงจังในหน้าที่และขอพลีกายสู้ตายในหน้าที่ค่ะ"
ความแรงของละคร ความร้ายของนังแย้ม เริ่มปรากฏนับแต่วันแรกที่ออนแอร์ จากนั้นก็ทวีความแรงทุกองศาจนไม่มีละครเรื่องไหนกล้าแหยม โกยเรตติ้งถล่มทลาย ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง เช่นเดียวกัน ความร้ายกาจที่ฝากฝีมือการแสดงโดยรัดเกล้าก็ดุเดือดเลือดพล่านมากเป็นลำดับ จนถูกหมายหัวเป็นเบอร์หนึ่งตัวละครที่มีคนเกลียดเข้าไส้ อย่าให้เจอตัวเป็นๆ ไม่อย่างนั้นโดนตบแน่นอน
"ฟีดแบ็กเกินคาดค่ะ ดีมากกกก ซึ่งฟีดแบ็กก็จะประมาณแซวใส่อินเนอร์เข้าไปด้วยนะ (เธอแอ็กติ้งให้ดู) หูย!!! ทำไมต้องร้ายขนาดนั้นด้วยละ อย่างไปเดินตลาดก็จะโดนแม่ค้าแซว (เธอแอ็กติ้งให้ดูอีกรอบ) มาทำมั้ย มาทำไม กล้าเดินด้วยเหรอตลาด ไม่ต้องมาหรอก เพราะไม่มีที่ให้ยืน ไปร้านอาหาร หาเมนูไม่เจอ พี่ก็ถามว่าพนักงานว่าเมนูนี้อยู่หน้าไหนคะ เชื่อมั้ยคะ พนักงานเงียบไปพักหนึ่ง แล้วบอกพี่ว่าไม่อยากจะพูดด้วยหรอกนะ เกลียดมากเลยอีแย้มเนี้ย เลว พี่กับเพื่อนก็เงียบ แต่ก็ขำในใจ จนเพื่อนต้องพูดขึ้นว่า อ่อ!!! น้องดูละครด้วยเหรอคะ สถานการณ์ถึงเข้าสู่ภาวะปกติ หรือที่น่ารักๆ ก็มีค่ะ มีหลานตัวเล็กๆ มากับคุณแม่ คุณแม่ก็บอกลูกว่าให้ลูกไปถ่ายรูปกับน้าอีแย้ม พี่ได้ยินพี่ก็อดขำไม่ได้ ได้แต่ค่ะๆ น้าอีแย้ม (หัวเราะร่วน) คือไม่รู้ว่าคุณแม่รีบหรืออะไรสักอย่าง จนตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเรียกว่าอะไรดี มันก็เลยออกมาเป็นน้าอีแย้มนี่แหละ
บทนี้ใช้พลังเยอะค่ะ ยิ่งวันไหนต้องเจอฉากหนักๆ ต้องออกแรงปะทะติดต่อกัน ก็มีแอบหมดแรงเหมือนกัน เพราะอายุพี่ด้วยแหละ (หัวเราะ) ให้บู๊ติดต่อกันก็ไม่ไหวเหมือนกัน ตอนเข้าฉากก็พยายามจะให้เทกเดียวผ่าน ก็มีบ้างที่ต้องหลายเทก แต่ฉากบู๊หรือข้าวของเสียหายพยายามจะไม่เกิน 3 เทก เพราะเกรงใจนักแสดงที่เข้าฉากด้วย แล้วก็เกรงใจฝ่ายพร็อพค่ะ ถ้าหลายเทกเดี๋ยวเขาจะว่าเอา"
กับการรับบทร้าย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของรัดเกล้า เคยผ่านตาและเป็นที่ประจักษ์ นั่นก็คือบทบาท "คุณท้าวพิจิตรรักษา" ในภาพยนตร์ "จัน ดารา" (ทั้งสองภาค) ที่มาพร้อมความร้ายกาจครบสูตร หลงอำนาจจนนำไปสู่การกระทำอันเป็นหายนะอย่างน่าสะพรึงกลัวต่อคนรอบข้าง
"คือบทคุณท้าวยายจะร้ายแบบไม่ได้เปิดเผย หรือโฉ่งฉ่างเหมือนแย้ม ความมีชั้นเชิงของความร้ายก็เลยไม่ธรรมดา สำหรับพี่นะพี่ว่าบทคุณท้าวยายร้ายกาจกว่าแย้ม แย้มถ้าเกลียดใครก็จะลงมือทำด้วยตัวเอง จัดการเอง โดยไม่ได้วางแผนให้ลูกหลานเป็นคนลงมือกระทำ แต่คุณท้าวยายจะเป็นคนที่เก็บความร้ายกาจไว้ข้างใน พอจังหวะเหมาะก็จะเสี้ยมให้หลานเป็นคนลงมือกระทำ กระทั่งในวาระสุดท้ายที่ตัวเองจะตายก็ยังไม่ปล่อยวาง แถมยังกระซิบหลานว่าต้องไปแก้แค้นให้ยาย เหมือนคายตะขาบใส่หลานเลยนะ
จริงๆ บทร้ายในละครนี่พี่เคยจะได้เล่นครั้งหนึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เรื่องอาญารักของแม่จิ๋ม (มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช) นี่แหละค่ะ แต่ติดสัญญากับค่ายเพลง บวกกับบทมันทั้งร้ายและแรง ค่ายเพลงก็เลยไม่ให้รับ พี่ก็เลยอด (น้ำเสียงเศร้า) แต่ความรู้สึกตอนนั้นเสียดายนะ เพราะบทดีมาก มาถึงเรื่องนี้พี่ก็รับเล่นเลย ทั้งๆ ที่เพิ่งอ่านบทไปไม่กี่ฉาก รู้แค่ว่าจะต้องเล่นร้าย พอมาเล่นแค่นั้นละก็เริ่มถามตัวเองและบ่นกับผู้จัดการ ทำไมฉันต้องมาตบๆๆ ด่าๆๆ แล้วก็ตบ แล้วก็ด่า ผู้จัดการก็ได้แต่ ค่ะ ค่ะ ค่ะ ไม่ทันแล้วค่ะพี่"
ดูละครย้อนดูตัวฉันใด ความแรงของสุดแค้นแสนรักและความร้ายกาจของนังแย้มก็ย่อมเป็นเสมือนกระจกเงาสะท้อนภาพสังคมไทยในหลายๆ มิติฉันนั้น มากกว่าความบันเทิงหลังข่าว มากกว่าคำด่าทอ หรือฉากตบตี สิ่งที่ปรากฏในละครเนื้อหาแรงๆ กับคาแรกเตอร์ร้ายๆ คงมีแง่งามดีๆ ไม่มากก็น้อย
"แรกๆ ตัวละครแย้มคนอาจจะเกลียดมาก แต่พอดูไปเรื่อยๆ คนจะเริ่มสงสารและเข้าใจแย้มอย่างถ่องแท้ ก็เพราะนางทำแบบนี้ สุดท้ายนางก็เลยได้บทเรียนสรุปแบบนั้น นางทุกข์ก็เพราะนางสร้างแต่ความทุกข์ ซึ่งความทุกข์นั้นก็ไม่ใช่แค่ตัวเอง แต่ยังส่งผลถึงคนรอบข้างด้วย"


