posttoday

ครูพี่แนน อริสรา ธนาปกิจ 'เพราะภาษาอังกฤษ อยู่รอบตัว'

16 พฤษภาคม 2558

ด้วยความรักในภาษาต่างประเทศ พร้อมกับความฝันในวัยเด็กที่อยากเป็นล่าม คือแรงบันดาลใจสำคัญที่ผลักดันให้ “ครูพี่แนน”

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล ภาพ... กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร

ด้วยความรักในภาษาต่างประเทศ พร้อมกับความฝันในวัยเด็กที่อยากเป็นล่าม คือแรงบันดาลใจสำคัญที่ผลักดันให้ “ครูพี่แนน” อริสรา ธนาปกิจ กลายมาเป็นผู้บริหารสาวสวยคนเก่ง ในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียนกวดวิชาและสอนภาษาเอ็นคอนเส็ปท์ ที่มีลูกศิษย์มากมายกว่า 9 หมื่นคนจากสาขา 35 แห่งที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ

ครูพี่แนน เล่าว่า จากความฝันข้างต้นนี่เอง ที่เป็นแรงส่งสำคัญที่ทำให้สนใจเข้าไปศึกษาที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้มีโอกาสเข้าไปเป็นล่ามที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้รู้ว่าการเป็นล่าม ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเอง

ตอนอยู่ชั้นปีที่ 2 โดยบังเอิญที่อาจารย์ผู้สอนในห้องเรียนเกิดเห็นแววในความช่างซัก ช่างถาม และการยกมือตอบคำถามในชั้นเรียนบ่อยๆ เลยทาบทามให้ครูพี่แนนไปเป็นติวเตอร์ ให้กับลูกของอาจารย์ ที่กำลังเรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และถือเป็นลูกศิษย์คนแรกของครูพี่แนนเลยก็ว่าได้

“อาจารย์ได้แจ้งผลการติวให้ฟังว่า ลูกของอาจารย์มีพัฒนาการด้านภาษาดีขึ้น ทำให้เกิดการแนะนำต่อๆ กันไป ทำให้ได้เข้าสู่วงการติวเตอร์อย่างจริงจังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา” ครูพี่แนน กล่าว

กระทั่งจบการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง และได้เจอ ธเนศ เอื้ออภิธรรุ่นพี่คณะเศรษฐศาสตร์ จากรั้วจามจุรีเหมือนกัน ที่เกิดแนวคิดตรงกันว่าอยากจะตั้งเป็น “คลับ” ขึ้นมาพร้อมจัดทีม Enconcept ขึ้นเป็นครั้งแรก ได้จิตอาสาจากหนุ่มสาวไฟแรงสมัยนั้น ออกไปแนะแนวกลยุทธ์ การจัดตารางเวลาในการอ่านหนังสือเตรียมสอบ พร้อมสรุปเนื้อหาการเรียนการสอน ไปยังสถานที่โรงเรียนต่างๆ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อช่วยน้องๆ เตรียมตัวในการสอบ

“ชื่อของเอ็นคอนเส็ปท์ มีที่มาจากคำว่า en หมายถึง ทำให้ ส่วน concept เป็นการรวบออกมา หรือรวบยอด ที่ให้ความหมายรวมถึงทำสรุปรวบยอดมาให้” ครูพี่แนน เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน

จากจุดนี้เองที่ทำให้กลุ่มหนุ่มสาวจุฬาฯ ทั้ง 5 คน ซึ่งถือเป็นผู้บุกเบิกเอ็นคอนเส็ปท์ในยุคแรกเมื่อปี 2538 สาขาแรกย่านสะพานควาย แบ่งกันสอนวิชาต่างๆ ตามความถนัด ครูพี่แนน บอกว่าในช่วงนั้นส่วนตัวแล้วชอบทุกภาษา ด้วยสามารถพูดได้ถึง 5 ภาษา คือ สเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาเลียน และอังกฤษ แต่มาถึงปัจจุบันขอโฟกัสหลักที่ภาษาอังกฤษ ด้วยใช้ภาษาที่กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันในฐานะติวเตอร์ของโรงเรียนแห่งนี้

ครูพี่แนน อริสรา ธนาปกิจ 'เพราะภาษาอังกฤษ อยู่รอบตัว'

 

ในช่วงแรกของโรงเรียนกวดวิชาเอ็นคอนเส็ปท์ ซึ่งผู้ก่อตั้งในยุคนั้นต่างรับรู้ร่วมกันว่าเมื่อเข้าสู่โลกของธุรกิจแล้วมันช่างโหดร้าย ด้วยมีจำนวนเด็กนักเรียนเข้ามาเรียนน้อย จึงทำให้ต้องเร่งปรับปรุงกิจการพร้อมพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนขึ้นมาใหม่ ด้วยการนำเทคนิคการจดจำคำศัพท์ด้วยเสียงดนตรี (เมโลดี้) มาใช้ โดยมีครูพี่ต้อง-กิติชัย ทองสุจริตกุล ผู้คิดค้นแนวเพลงคำศัพท์ภาษาอังกฤษและตัวครูพี่แนนมาช่วยเล่นเปียโน ซึ่งทำให้ชั้นเรียนภาษาอังกฤษของเอ็นคอนเส็ปท์มีความสนุกสนานเพิ่มขึ้น ที่สำคัญช่วยสร้างพัฒนาการด้านการจดจำให้กับเด็กๆ อีกด้วย

“ก่อนหน้านี้ พี่แนนก็ชอบเรียนภาษาอังกฤษจากเพลง จากการดูภาพยนตร์ พอนำมาประยุกต์ทำเป็นหลักสูตรการเรียนภาษาอังกฤษจากดนตรี จากเพลง และได้ผลดี และพอเริ่มจับทางได้ก็หันมาทุ่มเทตรงนี้อย่างจริงจัง ภายใต้หลักการ หรือคีย์ซัคเซส คือ เด็กเป็นศูนย์กลาง เนื้อหาการเรียนการสอนมีความเข้มข้น มีความเข้าใจ ผู้สอนหรือติวเตอร์เข้าใจเด็ก และสิ่งสุดท้ายคือ การเข้าถึง จากการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในสื่อการเรียนการสอน” ครูพี่แนน อธิบายให้เห็นภาพชัดขึ้น

โรงเรียนกวดวิชาเอ็นคอนเส็ปท์ ถือเป็นรายแรกที่นำเทคโนโลยี ระบบคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ มาใช้ร่วมกับการเรียนการสอนในชั้นเรียนสด พร้อมถ่ายทอดสดการเรียนการสอนและกิจกรรมของโรงเรียนผ่านดาวเทียม หรืออย่างในชั้นเรียนแต่ละโต๊ะของนักเรียนจะติดตั้งแท็บเล็ตไว้ พร้อมบรรจุเนื้อหา (คอนเทนต์) เพื่อให้เด็กนักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในการตอบคำถามเพื่อวัดความเข้าใจได้มากที่สุด โดยนักเรียนสามารถเขียน (พิมพ์) คำตอบของตัวเองเพื่อส่งมายังจอภาพขนาดใหญ่หน้าชั้นเรียนได้โดยตรง ส่วนหนึ่งเพื่อแก้ปัญหาเด็กไทยที่ไม่ค่อยกล้าแสดงความเห็นแบบเปิดเผยในชั้นเรียนได้ด้วย

ครูพี่แนน ขยายต่อถึงหลักคิดในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียน ว่าในฐานะที่เป็นครู จะต้องคิดอยู่เสมอว่าจะนำเสนอเนื้อหาการเรียนการสอนให้ไปถึงกลุ่มเด็กนักเรียนให้ได้มากที่สุดได้อย่างไร ได้ทำวิจัยและพบว่าเด็กนักเรียนกว่า 70% มีสมาร์ทโฟน ทีนี้ก็มาช่วยกันพัฒนาการเรียนการสอนใหม่ๆ พร้อมทำแอพพลิเคชั่นเอ็นคอนเส็ปท์ขึ้นมา ที่รองรับทั้งระบบแอนดรอยด์ และไอโอเอส ออกมาเพื่อให้นักเรียนสามารถดาวน์โหลดแอพมาใช้งาน เพื่อฝึกฝนทบทวนในรายวิชาต่างๆ ได้ เช่น การถามตอบ ท่องศัพท์ หรือมายโค้ชกับครูพี่แนน เป็นต้น

นอกจากนี้ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้นำองค์กรโรงเรียนดังกล่าว ครูพี่แนน ยังให้ความสำคัญด้านการศึกษาส่วนตัว โดยไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทบริหารธุรกิจจากศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในโครงการความร่วมมือระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับ University of Pennsylvania & Northwestern University ที่มุ่งไปยังเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล เพื่อนำมาใช้ในการบริหารจัดการด้านต่างๆ และการฝึกอบรม เพื่อดูแลพนักงานได้อย่างทั่วถึง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั้ง 35 สาขาในปัจจุบัน

ครูพี่แนน บอกต่อว่า อาชีพการเป็นครู สำหรับตัวเธอแล้วนั้นถือเป็นอาชีพที่มีความสุขมากที่สุดแล้ว และส่วนตัวยังอยากสร้างประโยชน์ให้กับสังคม ทำให้ไม่ได้มองถึงการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ แต่ทั้งนี้ก็จะไม่ประมาทต่อการใช้ชีวิต โดยเฉพาะการวางแผนการเงินในระยะยาวที่ดี พร้อมเผยเคล็ดลับด้านการเงินของเธอ คือ เริ่มจากการบันทึกค่าใช้จ่ายของตัวเอง รวมถึงรายการใช้จ่ายต่างๆ ที่จะถูกบันทึกไว้หมด พร้อมรวบรวมที่มารายได้จากแหล่งต่างๆ จากนั้นหากมีเหลือเก็บ ก็จะแบ่งส่วนหนึ่งไปลงทุนเพิ่ม เช่น เพื่อการศึกษา กระจายพอร์ตเงินทุนไปยังแหล่งต่างๆ ที่มีความเสี่ยงไม่สูง เช่น ในตลาดเงิน พันธบัตร อสังหาริมทรัพย์ บ้าน คอนโดมิเนียม ที่ดิน เพื่อกระจายความเสี่ยง เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงให้กับอนาคตของตัวเอง

ขณะที่ชีวิตส่วนตัวของครูพี่แนน ที่นอกเหนือจากการเป็นครูผู้สอน หรือติวเตอร์แล้วนั้น จะเลือกการไปปฏิบัติธรรม ที่ทำมานานกว่า 10 ปี ที่เจ้าตัวบอกว่า เพื่อให้ร่างกายได้พัก มีเวลาได้ฝึกใจ ได้ภาวนา ที่ปกติแล้วเชื่อว่าการฝึกสมาธินั้น สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาอิริยาบถ หากระลึกได้ก็จะเจริญสติได้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นพื้นฐานของการฝึกใจ ซึ่งอยากให้จิตมีพลังงาน ก็ต้องฝึกจิต เช่นเดียวกับที่หากอยากให้กายแข็งแรง ก็ต้องมีการเคลื่อนไหว ออกกำลังกาย โดยครูพี่แนนจะจัดสรรเวลาไปปฏิบัติธรรมให้ได้อย่างน้อย 1 ครั้งใน 1 เดือน ที่สถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ และเมื่อครบกำหนดกลับมาเป็นครูตามปกติแล้ว ก็มักจะนำเรื่องราวต่างๆ มาเล่าให้เด็กๆ น้องๆ ฟังเสมอ

พร้อมทิ้งท้ายว่า จากประสบการณ์ ครูผู้สอน หรือติวเตอร์ มาตลอดเกือบ 20 ปีเต็ม ครูพี่แนน เห็นว่าในปัจจุบันนี้แม้เด็กๆ จะมีโอกาสมากกว่ายุคเก่า จากสื่อต่างๆ ที่เข้าถึง แต่ก็พบว่ายังค่อนข้างขาดความอดทนที่จะรอคอยเพื่อความสำเร็จได้ ซึ่งในตอนนี้ควรต้องเร่งปลูกฝังให้เด็กๆ มีภาวะการคิดเป็น อยู่กับความฝันเร็วขึ้น เพราะเด็กบางคนเค้าอาจไม่รู้ว่าเค้าจะทำเพื่ออะไร แล้วก็ไม่พยายามทำเพื่อมัน เพื่อตัวเรา หรือเพื่อคนอื่น

เช่นเดียวกัน หากอยากจะเรียนภาษาอังกฤษให้เก่ง ขอให้เพียงคิดว่าภาษาอังกฤษนั้นอยู่กับตัวเราตลอดเวลาและเรียนรู้อยู่กับมัน ดังคำที่ว่า “live the language Learn the language” เหมือนกับตัวครูพี่แนน ที่ในบางคืนเวลานอนหลับแล้วฝันเป็นภาษาอังกฤษก็มี

ข่าวล่าสุด

พลังงานคุมเข้มแท่นขุดเจาะอ่าวไทย สกัดโดรนป่วน ไม่กระทบการผลิต