posttoday

อาชีพในฝันเจนมี ‘วอนต์ ทู บี เชฟ’

11 พฤษภาคม 2558

สมัยก่อนอาชีพทำอาหารดูเหมือนจะเหมาะกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายคิดเป็น 90% ผู้หญิงจะเรียนเป็นเชฟมากกว่า

โดย...มีนา ภาพ : กิจจา อภิชนรจเรข

สมัยก่อนอาชีพทำอาหารดูเหมือนจะเหมาะกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายคิดเป็น 90% ผู้หญิงจะเรียนเป็นเชฟมากกว่า แต่ด้วยยุคสมัยเปลี่ยนไปในช่วง 10 ปีให้หลังมานี้ เด็กไทยหันมาเรียนเชฟกันมากขึ้น อาจด้วยเหตุผลที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นแหล่งอาหาร ครัวไทยก้าวสู่ครัวโลก อาหารไทยมีรสชาติความอร่อยติดตลาดโลก ทำให้เด็กไทยหรือเด็กเจเนอเรชั่นมีผู้ชายสนใจเปิดรับและได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวให้มาเรียนเชฟกันมากขึ้น ซึ่งผู้ชายได้เปรียบกว่าผู้หญิงตรงที่มีความแข็งแรง สามารถยกเครื่องครัวกระทะเหล็กหนักๆ ได้ดีกว่าผู้หญิง แต่ผู้หญิงก็มีคุณสมบัติที่พิเศษกว่าผู้ชายตรงที่มีความละเอียดอ่อน รอบคอบ และประดิดประดอยมากกว่าผู้ชาย อีกทั้งอาชีพเชฟหากมีพรสวรรค์ด้านการทำอาหารก็อาจทำให้มีรายได้ สำหรับเชฟจบใหม่อยู่ที่หลักครึ่งแสนเมื่อรวมเซอร์วิสชาร์จเลยทีเดียว

“ส่วนใหญ่เชฟผู้หญิงนิยมอยู่ครัวเย็น เช่น ทำสลัดผักผลไม้ เบเกอรี่ งานแกะสลัก ในขณะที่ผู้ชายนิยมอยู่ในครัวร้อน ผัดที่ต้องยกของหนักๆ เช่น หม้อ กระทะ ผู้ชายจะทำงานได้คล่องแคล่วกว่าผู้หญิง ด้วยพฤติกรรมและสรีระและความต่างเพศบังคับให้เป็นเช่นนั้น” ณัฐพงศ์ ธีรนันทพิชิต หัวหน้าฝ่ายอบรมอาหารและเครื่องดื่ม โรงเรียนการอาหารนานาชาติสวนดุสิต สถาบันเก่าแก่ด้านการสอนทำอาหารมานานกว่า 70 ปีบอก และเล่าต่อว่าแต่ปัจจุบันคิดเป็น 40% ที่ผู้ชายเจนมีจะหันมาเรียนเป็นเชฟกันมากขึ้น เพราะค่านิยมที่คิดต่าง อีกทั้งรายการทำอาหารเกิดขึ้นมากมาย ยิ่งเป็นตัวกระตุ้นและเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กรุ่นใหม่อยากเรียนเชฟกันมากขึ้น อีกทั้งความต้องการแรงงานไทยเป็นแรงงานที่มีค่าแรงถูกกว่าเชฟในแคนาดาและสหรัฐอเมริกา และด้วยคุณลักษณะที่พิเศษของพื้นฐานนิสัยคนไทย คือมีน้ำใจ จึงช่วยเหลือผู้อื่นในงานครัวได้ดี แรงงานไทยจึงไม่ค่อยสร้างปัญหาในการทำงาน อีกทั้งเชฟไทยยังมีลิ้นรับรสที่ดีเพราะคนไทยคุ้นชินกับอาหารไทยที่มีรสชาติที่หลากหลาย จึงรู้จักผสมผสานและครีเอทอาหารใหม่ๆ ได้ดีอีกด้วย นี่คือเสน่ห์ของเชฟไทยที่เป็นที่ต้องการไปทั่วโลก

“พูดในแง่ของโอกาส ผู้ชายจะก้าวหน้าเจริญในหน้าที่การงานมากกว่าผู้หญิง และง่ายที่จะก้าวขึ้นสู่หัวหน้าเชฟ เพราะด้วยสรีระ ความอดทน และมีความเป็นผู้นำที่มากกว่า แต่ในเรื่องเบเกอรี่เชฟที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับต้องยกให้เชฟเพศหญิงที่มีรสมือและมีความประณีตในการทำขนมที่มากกว่า” ณัฐพงศ์ กล่าว

อาชีพในฝันเจนมี ‘วอนต์ ทู บี เชฟ’

Gen Me อยากเป็นเชฟกันมากขึ้น

เชฟบอส-สุชาครีย์ แก้วลาย วัย 21 ปี ผู้ช่วยเชฟแห่งร้านอาหารญี่ปุ่น Gion Mikaku ย่านทองหล่อ เขาศึกษาจบปริญญาตรีด้านอาหารจากวิทยาลัยดุสิตธานี และไปศึกษาหลักสูตรด้านอาหารที่เลอกอร์ดองเบลอ หลักสูตรอาหารฝรั่งเศส 1 ปี แม้เป็นผู้ชายแต่เขาสนใจอาชีพเชฟ เพราะรักการทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก และคิดว่าการทำอาหารเป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้ งานครัวยังเหมาะกับผู้ชาย เพราะงานครัวเป็นงานที่หนัก ดังนั้นแรงผู้ชายจึงดีกว่า และยังหยิบจับได้คล่อง กล้าตัดสินใจที่จะใส่เครื่องปรุงรสให้อาหารมีรสชาติออกมาอร่อย

“ตอนนี้รู้สึกว่าเด็กรุ่นใหม่หันมาเป็นเชฟกันมากขึ้น และเรียนด้านนี้กันเยอะ ผมมองว่ามาจากปัจจัยวงการอาหารไทยเริ่มเปิดกว้าง คนไทยเริ่มกินอาหารและรู้จักรสชาติอาหารที่หลากหลาย แม้ผมชอบอาหารฝรั่งเศสแต่การมาเป็นผู้ช่วยเชฟร้านอาหารญี่ปุ่นก็ช่วยทำให้ผมเรียนรู้เพิ่ม เพราะการเป็นเชฟไม่สามารถหยุดนิ่งอยู่กับที่ เพราะชนิดและรสชาติของอาหารก็ไม่หยุดนิ่ง คนกินก็กินอาหารที่หลากหลายแนวมากขึ้น”

อีกทั้งในเมืองนอกมีรายการทีวีเกี่ยวกับอาหารกันมาก และนำมาเผยแพร่ในเมืองไทย ถือเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้คนไทยได้ดูรายการพบกับอาหารที่หลากหลาย น้องๆ ที่สนใจเรียนทำอาหารก็มาเรียนเชฟ ทุกอย่างเกื้อหนุนและสอดคล้องกัน นอกจากนี้เชฟบอสยังคิดว่ารายได้ที่ดึงดูดก็ส่วนหนึ่ง เพราะนอกจากเงินเดือนที่ได้ในแต่ละเดือนแล้ว ยังมีค่าเซอร์วิสชาร์จติดกระเป๋าไปอีก ถือเป็นรายได้ที่ดี ยิ่งมีตำแหน่งงานที่สูงเงินเดือนยิ่งขยับขึ้นเป็นทวี

“ตอนนี้อาชีพเชฟเป็นที่ต้องการในตลาดเพราะผู้คนมีไลฟ์สไตล์ชอบกินข้าวนอกบ้านกันมากขึ้น ยิ่งหากเรามีฝีมือในการทำอาหาร รายได้ยิ่งมากขึ้นก็ยิ่งดึงดูด อีกทั้งการก้าวขึ้นสู่เชฟเมืองนอก มันเปิดกว้างมากขึ้น ถ้าเราเรียนรู้เยอะเราสามารถไปเป็นเชฟเมืองนอกได้อย่างสบาย เพราะเมืองนอกเปิดรับอาหารไทย งานเชฟไม่ได้ใช้แรงงานอีกต่อไป แต่เป็นอาชีพที่สำคัญอันดับหนึ่ง เพราะอยู่ในปัจจัยสี่ของมนุษย์”

ความคิดนี้สอดคล้องกับ ณัฐพงศ์ หัวหน้าฝ่ายอบรมอาหารนานาชาติสวนดุสิต กล่าวว่า ในต่างประเทศอย่างฝรั่งเศส มีเชฟบางคนได้รับการคัดเลือกให้เป็นทูตทางวัฒนธรรมและถือพาสปอร์ตของรัฐบาลฝรั่งเศสเพื่อไปเผยแพร่อาหารฝรั่งเศสไปทั่วโลกอีกด้วย หรืออย่างอาชีพเชฟที่สหรัฐอเมริกายังได้รับการยอมรับมีศักดิ์ศรีเทียบเท่าอาชีพแพทย์เลยทีเดียว

อาชีพในฝันเจนมี ‘วอนต์ ทู บี เชฟ’

 

ความสุขจากการเป็นเชฟ

เชฟวุดด-ชัชวาล เรืองกิตติวิลาศ วัย 26 ปี ศึกษาจบด้านเชฟจากวิทยาลัยดุสิต เคยผ่านการฝึกงาน ณ Verona, New York นาน 1 ปี ปัจจุบันเขาแพลนจะเปิดร้านอาหารพาสต้าที่ย่านอ่อนนุช เขาบอกว่าอาชีพเชฟเป็นงานที่ทำให้เขาได้เป็นนายตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย และได้ทำตามอิสระทางความคิดมากกว่าอาชีพอื่นๆ อีกทั้งขณะที่เรียนทำอาหารประสบการณ์ที่ได้จากการไปเข้าร่วมประกวดทำอาหาร ยังทำให้เขาได้แข่งขันกับตัวเอง ได้แข่งขันกับเพื่อนๆ ต่างสถาบันจึงเกิดเป็นความท้าทาย และเกิดความสุขในการได้เปิดแนวคิด มุมมองใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ของตัวเอง

“การเรียนเชฟทำให้ผมได้ฝึกความอดทนเวลาไปแข่งขันในเวทีระดับประเทศก็ทำให้ผมได้ฝึกฝนสมาธิ อดทนต่อแรงกดดันเพราะมีคนมามุงดูเป็นร้อยเป็นพันคน เป็นการเรียนรู้ที่น่าตื่นเต้น เป็นการศึกษานอกห้องเรียน เชฟเป็นอาชีพที่ดูดีในสายตาคนอื่น แต่มากกว่านั้นงานเชฟมีความสุขตรงเป็นความตั้งใจของคนทำอาหารที่คนกินต้องมีความสุขกับอาหารที่ผมทำออกไป แขกกินอาหารที่ผมเอาไปเสิร์ฟแล้วชอบ กินแล้วอร่อย นั่นแหละคือความภูมิใจในอาชีพคนทำอาหาร

อย่างผมไปฝึกงานที่สหรัฐอเมริกานานหนึ่งปี ผมได้ค่าแรง 10 เหรียญ/ชั่วโมง วันหนึ่งทำงานราว 8-12 ชั่วโมง นอกจากทำให้ผมเก็บเงินได้เป็นกอบเป็นกำแล้ว ยังทำให้ผมได้ประสบการณ์ที่สามารถนำมาต่อยอดในอาชีพเชฟของผมต่อไป และได้ประสบการณ์การทำงานในครัวทั้งครัวจีน ครัวอิตาเลียนมากมาย”

อาชีพในฝันเจนมี ‘วอนต์ ทู บี เชฟ’

 

เชฟ อาชีพเทรนดี้ของเด็กรุ่นใหม่

2 นักเรียนสาวด้านทำอาหารจากโรงเรียนการอาหารนานาชาติสวนดุสิต ภัณฑิรา มาลาพิเชฐ วัย 21 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 หลักสูตรเทคโนโลยีการประกอบอาหารและการบริการ และรัญชิดา ตัญญะวังรัตน์ วัย 19 ปี นักเรียนชั้นปีที่ 1 หลักสูตรโภชนาการและการประกอบอาหาร ทั้งคู่เล่าแรงบันดาลใจในการเป็นเจเนอเรชั่นมีที่สนใจการทำอาหารมาจากการชอบช่วยคุณแม่เข้าครัวทำอาหารตั้งแต่ยังเด็ก ส่วนรัญชิดามีความพิเศษที่เพิ่มมากขึ้นคือ เมื่อครั้งได้ไปเป็นนักเรียนโครงการแลกเปลี่ยนที่นอร์เวย์ทำให้เธอได้พบกับอาหารประจำชาติอื่นๆ ที่น่าสนใจ และได้ลองทำอาหารรับประทานเองจากที่รักใน ทำอาหารอยู่แล้ว ก็ทำให้เธอสัมผัส&O5532;การทำอาหารมากขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นแรงดึงดูดให้เธอเลือกเรียนที่สถาบันแห่งนี้เพราะมีชื่อเสียงด้านการทำอาหารมานานกว่า 70 ปี และมีบุคลากรและอุปกรณ์ด้านอาหารที่ครบถ้วน

รุ่นพี่ปี 4 ภัณฑิราที่เคยคว้ารางวัลรองอันดับหนึ่งในงานประกวดอาหารพัทยา ฟู้ด แอนด์ โฮเต็ล มาแล้ว เธอบอกว่าสาเหตุที่เธอเลือกเรียนด้านเทคโนโลยีการประกอบอาหารและการบริการ ที่เรียนลงลึกกว่าการทำอาหารทั่วๆ ไป คือได้เรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ ชีวเคมีที่เกี่ยวข้องกับอาหาร ถือเป็นวิชาสมัยใหม่ที่เป็นวิทยาศาสตร์ในการประกอบอาหาร และเชื่อมโยงกับอาหาร ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ทำให้เธอให้คำตอบได้ว่า ทำไมหั่นตะไคร้ทิ้งไว้แล้วจึงเกิดสีดำ เพื่อจะได้หาวิธีการแก้ไขได้ถูกต้อง ซึ่งความรู้สมัยใหม่ตรงนี้จะทำให้เชฟที่จบด้านอาหารโดยตรงทำงานในครัวได้ดีมากขึ้น

สำหรับรัญชิดา สาขาที่เธอเรียนนอกจากเรียนทำอาหารแล้ว ยังได้เรียนชีวเคมี เคมีวิเคราะห์ด้านโภชนาการ เมื่อจบแล้วนอกจากการเป็นเชฟแล้วเธอยังเพิ่มทางเลือกให้ตนเองสามารถไปทำงานเป็นนักโภชนาการด้านอาหาร หรือเป็นนักกำหนดอาหารให้ผู้ป่วยตามโรงพยาบาลต่างๆ ได้อีกด้วย

“ตอนนี้ธุรกิจโรงแรมบูม กระแสสุขภาพก็ได้รับความนิยมไปทั่วโลก กินแล้วมีการคำนวณจำนวนแคลอรี สามารถจัดอาหารให้คนเฉพาะโรคได้ นอกจากนี้หนูยังได้เรียนการทำอาหาร จบไปก็จะได้ไปเป็นนักโภชนาการที่ทำอาหารอร่อยด้วย ซึ่งถือเป็นอาชีพที่มีความเทรนดี้ เป็นกระแสนิยมจึงดึงดูดให้หนูอยากมาเรียนเป็นเชฟ” รัญชิดา บอก

อาชีพในฝันเจนมี ‘วอนต์ ทู บี เชฟ’

 

ภัณฑิรา ยังกล่าวเสริมอีกว่า การเป็นเชฟนอกจากจะสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพและทำอาหารให้ที่บ้านกินได้แล้ว เธอยังได้ฝึกการมีจมูกดมกลิ่นที่ดี ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่เชฟควรมี

“การเป็นเชฟที่ดีการมีจมูกที่รับกลิ่นที่ดีสำคัญมากๆ อย่างไปกินอาหารนอกบ้านที่บ้านจะมาถามว่า อาหารจานนี้ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ทำไมมีกลิ่นแบบนี้ เพราะเขาผ่านขั้นตอนการทำอะไรบ้าง เราดมแล้วก็จะรู้ สามารถวิเคราะห์ถึงส่วนผสมและขั้นตอนกว่าจะมาเป็นอาหารจานนี้ได้” นอกจากนี้การเรียนด้านการทำอาหารยังทำให้ภัณฑิราสามารถกำหนดเป้าหมายอาชีพของเธอได้ชัดเจนคือ อยากทำงานเป็นเชฟตามโรงแรม 5 ดาวต่างๆ เพื่อเก็บประสบการณ์เปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง แต่การเป็นหัวหน้าเชฟก็เป็นอาชีพที่เธอใฝ่ฝันว่าอยากจะเป็นมากที่สุด แต่โอกาสที่จะเป็นหัวหน้าเชฟเป็นโจทย์ที่หนักต้องใช้ประสบการณ์ในการทำอาหารและชั่วโมงบินค่อนข้างสูง

สำหรับน้องๆ เจเนอเรชั่นมีทั้งหลาย หากอยากเป็นเชฟที่ประสบความสำเร็จ เชฟบอส-สุชาครีย์ แนะว่า มีความสามารถพิเศษด้านการทำอาหารอย่างเดียวไม่พอ ยังต้องขยัน ตั้งใจเรียนรู้ เนื่องจากงานเชฟเป็นงานที่หนัก งานเชฟถือเป็นงานให้บริการจึงต้องใช้ความพยายามเป็นสองเท่ามากกว่าอาชีพอื่นๆ จึงต้องใส่ใจในทุกสิ่งที่ทำ

ด้านเชฟวุดด กล่าวว่า จะเป็นเชฟที่ดีต้องมีใจที่เปิดกว้าง รับฟังความคิดเห็นของคนอื่นทุกคน เช่น หัวหน้างาน เพื่อน ลูกค้า เพื่อนำคำติชมมาพัฒนาฝีมือการทำอาหารที่เป็นที่ชื่นชอบของทุกคนได้มากขึ้น

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ คาราบาวคัพ วันนี้