ญี่ปุ่นรสชาติไทยๆ สไปซี่ฮอกไกโด

โดย...คาเอรุ

ฮอกไกโด เกาะทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ที่เรียกว่านอกจากมีที่เที่ยวน่าตื่นตาตื่นใจแล้ว สำหรับนักชิมยังเป็นแหล่งที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เนื่องเพราะมีวัตถุดิบสดใหม่ประจำท้องถิ่นให้สร้างสรรค์เป็นอาหารจานเด็ดมากมาย

จานเด่นที่พลาดไม่ได้ถ้ามาเยือนฮอกไกโด ได้แก่ อาหารทะเลต่างๆ ซึ่งแตกต่างจากอาหารทะเลทั่วไป เนื่องเพราะเป็นผลผลิตจากทะเลที่อุณหภูมิต่ำอยู่ตลอดเวลา ที่เด็ดๆ ก็อย่างเช่น อูนิ หรือไข่หอยเม่น คานิ หรือปูฮอกไกโดตัวยักษ์ อิกูระไข่ปลาแซลมอน รวมไปถึง โฮตาเตะ หรือหอยเชลล์ฮอกไกโดตัวโตเป้งนั่นเอง

ส่วนใหญ่ถ้าไปฮอกไกโดแล้วอยากกินอาหารทะเลสดๆ อร่อยๆ วิธีที่ดีที่สุด คือ ไปที่ตลาดปลา แล้วหาดงบุริ หรือข้าวหน้าอาหารทะเลต่างๆ รับประทาน ไม่ว่าจะเป็นหน้าไข่หอยเม่น หน้าไข่ปลาแซลมอน หน้าปลาหมึกสด ฯลฯ

จานเด็ดของฮอกไกโดอีกอย่าง คือ อาหารประเภทนมเนย ที่ฮอกไกโดเป็นแหล่งผลิตผลิตภัณฑ์แดรี่ถึง 60% ของประเทศญี่ปุ่น นอกจากนมสดๆ สำหรับการดื่มแล้ว ยังผลิตเนย เนยแข็ง โยเกิร์ต และไอศกรีมอีกด้วย

 

แม้จะเป็นพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็นอยู่แทบจะตลอดเวลา ทว่าที่นี่ก็มีผลผลิตทางการเกษตรที่น่ารับประทานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นมันฝรั่ง ข้าวโพด หัวหอม และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมล่อน

ราเม็ง ก็เป็นอีกหนึ่งจานเด็ดของฮอกไกโด แม้ว่าอาหารเส้นจะได้รับอิทธิพลมาจากจีนในสมัยเมจิ (ปี 1868-1912) ก็ตาม ทว่าญี่ปุ่นก็ได้โมดิฟายด์ให้เป็นอาหารประจำชาติของตัวเองได้อย่างเนียนๆ ไปแล้ว ราเม็งแต่ละแห่งในประเทศญี่ปุ่นล้วนมีเอกลักษณ์ประจำถิ่น ซึ่งราเม็งที่ฮอกไกโด ถ้าเป็นในซัปโปโรจะโดดเด่นด้วยน้ำซุปมิโสะ ขณะที่น้ำซุปเกลือเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายในฮาโกดาเตะ ส่วนอาซาฮีคาวะจะเน้นซุปซอสถั่วเหลือง

 

ในฮอกไกโดยังมีอาหารปิ้งย่างที่ได้รับอิทธิพลมาจากสมัยเจงกิสข่านนู่นแน่ะ ซึ่งคนท้องถิ่นนิยมรับประทานแกล้มเบียร์เลื่องชื่อของที่นี่เช่นเดียวกัน

ช่วงนี้คนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นกับบ๊อยบ่อย อาจจะได้ชิมอาหารฮอกไกโดแบบที่ว่ามาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบกันแล้ว แต่ถ้าเป็นวัตถดิบจากแดนเหนือของอาทิตย์อุทัย มาใส่รสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ จะเป็นยังไงนะ ล่าสุด บัตรเครดิตซิตี้แบงก์ และเกรฮาวด์ คาเฟ่ ร่วมฉลองการก้าวสู่ปีที่ 18 แห่งความร่วมมือทางธุรกิจและมิตรภาพอันแน่นแฟ้น รังสรรค์แคมเปญสุดพิเศษ “สไปซี่ ฮอกไกโด” (Spicy Hokkaido) เพื่อขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุนด้วยดีมาโดยตลอด

 

เมนูใหม่เอี่ยมที่ลงตัวด้วยการผสมผสานระหว่างรสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ และวัตถุดิบชั้นเลิศส่งตรงจากเมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น มีเสิร์ฟให้ชิมกันที่เกรฮาวด์ คาเฟ่ ทุกสาขา รวมทั้งสาขาล่าสุด ลำดับที่ 10 ที่ ชั้น 2 ดิ เอ็มควอเทียร์ ด้วย ตั้งแต่วันนี้-30 มิ.ย.นี้

พรศิริ โรจน์เมธา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกรฮาวด์ คาเฟ่ บอกว่า แคมเปญ “สไปซี่ ฮอกไกโด” คือ เมนูอาหารเจแปนนีสสไตล์ในแบบฉบับของเกรฮาวด์ ที่มีหลากหลายรสชาติให้ลิ้มลอง ด้วยฝีมือการรังสรรค์โดยเชฟมือโปร ซึ่งมีทั้งอาหารเรียกน้ำย่อย สลัด อาหารจานหลัก ของหวาน เครื่องดื่มฯลฯ ให้อิ่มอร่อยกันแบบครบสูตร

“ตั้งแต่หอยเชลล์ฮอกไกโดย่างราดน้ำยำ 2 สัญชาติ, ขาปูยักษ์ทาราบะอบวุ้นเส้น, อุด้งต้มยำเนื้อปูชูไวและหมูสับ เป็นต้น จึงอยากเชิญชวนให้นักชิมทั้งหลายที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นได้มาสัมผัสเมนูพิเศษเหล่านี้ และลุ้นรับรางวัลพิเศษจากแคมเปญ ‘สไปซี่ ฮอกไกโด’ ด้วย”

สำหรับเมนูเด็ดจี๊ด “สไปซี่ ฮอกไกโด” (Spicy Hokkaido) ประกอบด้วย เมนูเรียกน้ำย่อยและสลัด อาทิ ท้องปลาแซลมอนหมักน้ำปลาทอด (Fried Marinated Salmon Toro) เนื้อนุ่มจากส่วนท้องปลาแซลมอนหมักในน้ำปลาไทย ก่อนนำไปทอดกรอบ บีบมะนาวเพิ่มรส เลือกจิ้มกับซอสทงคัตสึแบบเผ็ดหรือแจ่ว มายองเนส กินแทนกากหมูทอดแบบไม่ต้องกลัวอ้วนกันไปเลย

 

หอยเชลล์ฮอกไกโดย่างราดน้ำยำ 2 สัญชาติ (Double Spicy Grilled Hokkaido Scallop) หอยเชลล์ฮอกไกโดตัวอ้วน ย่างสุกกำลังดี ราดน้ำยำแบบไทยผสมวาซาบิ ได้รสเผ็ดจัดจ้านแบบลูกผสม รับประทานแกล้มกับหัวไชเท้าหั่นฝอยกองโต นอกจากนี้ยังมีสลัดฮอกไกโด (Hokkaido Garden) รวมผักสลัดสดๆ ต้นอ่อนทานตะวัน อโวคาโด แตงกวา และรากบัวหั่นบางทอด รับประทานกับแซลมอนรมควันและปลาข้าวสารทอดกรอบ พิเศษด้วยน้ำสลัดโชยุผสมพอนซึ เพื่อความสดชื่นและเติมรสเผ็ดไปอีกนิดให้อร่อยยิ่งขึ้น

ต่อด้วยอาหารจานหลักที่มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งขาปูยักษ์ทาราบะอบวุ้นเส้น (Taraba Leg and Glass Noodle Casserole) ลิ้มรสความหวานที่ส่งตรงจากฮอกไกโดด้วยขาปูทาราบะชิ้นโต และเนื้อปูซูไว ผสมกับเส้นนุ่มหนึบของวุ้นเส้นที่ผ่านการปรุงรสมาอย่างครบเครื่อง ด้วยรากผักชี กระเทียม และชวงเจีย ที่มีกลิ่นหอมและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ เสิร์ฟมาในหม้ออบร้อนๆ เพิ่มความแซ่บด้วยน้ำยำรสจัด

 

คนรักอาหารเส้น แนะนำอุด้งต้มยำเนื้อปูซูไวและหมูสับ (Suwai Crabmeat and Minced Pork Udon Tom Yum) เส้นอุด้งนุ่มๆ ในน้ำซุปร้อนๆ ของก๋วยเตี๋ยวต้มยำแบบไทย ใส่พริกป่น น้ำมะนาว น้ำปลาและถั่วลิสงคั่วป่น มากับหมูสับชิ้นใหญ่ เนื้อปูซูไว ไข่ต้มยางมะตูมปรุงรสแบบญี่ปุ่น และหนังปลาทอดกรอบ

ปิดท้ายจานหลักกันด้วย ข้าวแกงกะหรี่โครงแก้วหมูกับหมูก้อนทอดกระเทียมพริกไทย (Young Pork Ribs Curry Rice with Fried Garlic Pepper Pork Ball) ได้รสชาติของแกงกะหรี่แบบต้นตำรับ แต่พิเศษด้วยความกรุบกรับของโครงแก้วหมู กินกับหมูสับก้อนทอดกระเทียมพริกไทย ไข่ต้มยางมะตูมปรุงรสแบบญี่ปุ่น แกล้มด้วยผักดอง

มาที่ของหวาน ก็มีให้ลิ้มลองอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็น ฮอกไกโดจี๊ดจ๊าด (Hokkaido Zesty) เค้กวานิลลาชิฟฟ่อน เนื้อนุ่มเบาสไตล์ญี่ปุ่น แทรกตัวด้วยมาสคาโปเน่ครีม ตัดด้วยรสจี๊ดจ๊าดของยูซุผสมมะนาวเหลืองที่ราดมาด้านบนก่อนเสิร์ฟ

ฮอกไกโดสโนว์ (Hokkaido Snow) สำหรับผู้ชื่นชอบความหอมมันของนมฮอกไกโด ไม่ควรพลาดเมนูนี้ที่มาในรูปแบบพุดดิ้งนุ่มละมุน ราดทับด้วยไอศกรีมเย็นๆ ให้อร่อยกันแบบจุใจ

ปิดท้ายจานหวานๆ ด้วย ชาเขียวอัฟโฟกาโต (Green Tea Affogato) ชาเขียวชงแบบเข้มข้น ราดบนไอศกรีมนม ฮอกไกโดและถั่วแดงญี่ปุ่นกวน ได้รสชาติกลมกล่อมอย่างลงตัว ของความขมผสมความหอมหวาน

 

แคมเปญ “สไปซี่ ฮอกไกโด” ยังมาพร้อมเครื่องดื่มรสละมุนที่มีให้เลือกสรร 3 เมนู ได้แก่ โมโม่ซัมเมอร์ (Momo Summer) สดชื่นด้วยรสหวานอมเปรี้ยวของน้ำพีชผสมน้ำส้มและมะนาว เติมความหวานหอมด้วยน้ำเชื่อมกลิ่นพีช ปิดท้ายด้วยความซ่าของโซดา, ฮอกไกโดเมล่อนมิลก์เชก (Hokkaido Melon Milk Shake) เมนูคุ้นเคยสุดพิเศษจากนมสดและไอศกรีมนมฮอกไกโด เพิ่มความหอมหวานด้วยเมล่อนและน้ำผึ้ง และมัทฉะพิโคโล (Matcha Piccolo) มัทฉะร้อนผสมนมร้อนในสัดส่วนอย่างละครึ่ง ได้รสชาเขียวแบบเข้มข้น เพิ่มความละมุนด้วยฟองนมนุ่มละเอียด

อาหารลูกครึ่งญี่ปุ่นไทย ได้อารมณ์ฟินกันไปอีกแบบ