‘แคท เลิฟเวอร์’ เทรนด์รักแมวกำลังฟีเวอร์!
เพื่อขานรับ พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีที่แล้ว สหพันธ์แมวระดับโลก
โดย...มีนา
เพื่อขานรับ พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีที่แล้ว สหพันธ์แมวระดับโลก ร่วมมือกับ 2 ชมรมแมวในเมืองไทยช่วยกันยกระดับคุณภาพชีวิตแมวและการผสมพันธุ์แมวให้มีมาตรฐานมากขึ้น เพื่อรองรับกระแสคนรักแมวจากเพจทูนหัวของบ่าว ทำให้คนหันมาเลี้ยงแมวกันมากขึ้น
โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีหลังมานี้ปริมาณแมวทั้งนำเข้ามากกว่า 100 ตัว/เดือน และเพาะพันธุ์ในไทยทวีขึ้นเป็นจำนวนมาก อีกทั้งไลฟ์สไตล์คนส่วนใหญ่อยู่กันเป็นครอบครัวเดี่ยว แต่งงานแล้วไม่มีลูกจึงหันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงกันมากขึ้น ประกอบกับยอดขายอาหารสัตว์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตปีละ 10% เป็นตัวชี้วัดให้เห็นพฤติกรรมของคนในยุคปัจจุบันว่าหันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงกันมากขึ้น ส่งผลให้มีการสร้างอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้คนนำแมวหรือสุนัขเข้าไปอยู่ได้ในคอนโดมิเนียมด้วย
เมื่อคนนิยมเลี้ยงแมวกันมากขึ้นในไทย หากไม่มีการควบคุมด้านคุณภาพสัตว์เลี้ยงให้ดี ก็จะทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย 2 ชมรมของคนรักแมว ได้แก่ The British cat Society of Thailand (BCT) และชมรมแมวสวยงามทุกสายพันธุ์ (AGC) จึงถูกจัดตั้งขึ้น และเสนอตัวเข้าร่วมกับ WCF หรือสหพันธ์แมวโลก Word Cat Federation เพื่อควบคุมการผสมพันธุ์ให้ความรู้ เพื่อทำให้การเป็นอยู่ของแมวไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นนับต่อจากนี้ไป
บทบาทของสหพันธ์แมวโลกในไทย
สหพันธ์แมวโลก World Cat Federation (WCF) ถือเป็น 1 ใน 9 สหพันธ์ที่ควบคุมมาตรฐานเรื่องแมวที่ได้รับความเชื่อถือไปทั่วโลก สามารถออกใบเพดดีกรีหรือใบประวัติให้แมวได้อย่างถูกต้อง เพราะใบเพดดีกรีจะใช้สืบสายพันธุ์ว่าแมวแต่ละตัวมีพ่อแม่ ปู่ย่า ตายายขึ้นไปได้ถึง 5 เจเนอเรชั่น ซึ่งมีความสำคัญมาก
บทบาทสหพันธ์แมวโลกจะเข้ามาช่วยควบคุมดูแลมาตรฐานแมวในเมืองไทยผ่าน 2 ชมรมแมวของไทย ได้แก่ ชมรมแมวบริติช ในประเทศไทย และชมรมแมวสวยงามทุกสายพันธุ์ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นเครือข่ายการทำงานของ WCF เมื่อเดือน ก.พ. 2558 วัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็นเกี่ยวกับแมวสายพันธุ์บริติช อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการเลี้ยงดูและเพาะพันธุ์แมวสายพันธุ์บริติชให้ได้มาตรฐานสากล เพื่อบริหารการขึ้นทะเบียนผู้เพาะพันธุ์และควบคุมจรรยาบรรณการขยายพันธุ์แมว อีกทั้งบริหารการขึ้นทะเบียนแมวสายพันธุ์บริติชในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยเหลือสังคมลดปัญหาเกี่ยวกับแมวทุกสายพันธุ์
ในการร่วมมือกันนี้ จึงมีการจัดงานประกวดแมวได้มาตรฐานระดับโลกเป็นครั้งแรก ในชื่องานว่า 1st WCF Thailand National Show ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
อันเดรส โมไบอัส เลขาธิการของ WCF บินตรงจากเยอรมนีมาเยือนเมืองไทยในโอกาสนี้ และร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินคัดเลือกแมวสวยงามในเมืองไทยด้วย เขาเล่าว่า สหพันธ์แมวโลกก่อตั้งมา 27 ปีแล้ว ที่ประเทศบราซิล ตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลแมวทั่วโลก เพื่อทำให้ชีวิตการเป็นอยู่แมวดีขึ้น
ปัจจุบันมี 374 คลับทั่วโลกที่เป็นสมาชิก WCF สมาพันธ์ตั้งขึ้นมาเพื่อให้ความรู้การผสมพันธุ์แมวที่ได้มาตรฐาน ดูแลสุขภาพแมว เพราะไม่ต้องการให้ผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านการผสมพันธุ์แมวมาผสมพันธุ์แมวขึ้นมาสำหรับเมืองไทย เขายังไม่เร่งในการจัดการประกวดมากนัก แต่จะเข้ามาช่วยให้ความรู้เพื่อทำให้แมวในเมืองไทยมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ข้อดีของการมีสหพันธ์แมวโลกในไทย
ปัจจุบันคนไทยนิยมเลี้ยงแมวสายพันธุ์ต่างประเทศกันมากขึ้น เพราะเสน่ห์ที่นิสัยน่ารัก นิ่งสงบ สวยงาม โดยเฉพาะแมวสายพันธุ์เปอร์เซีย บริติช และสก็อตติช โฟลด์ ทั้งหูตั้งและหูพับนิยมเลี้ยงกันมาก ชยพล ภู่เจริญยศ ประธานชมรมแมวบริติชแห่งประเทศไทย หนึ่งในคลับคนไทยที่เป็นสมาชิกของ WCF ที่ปัจจุบันมีสมาชิกที่เป็นฟาร์มแมวต่างๆ มากถึง 10 ฟาร์ม และผู้ที่เลี้ยงแมวไว้เป็นเพื่อนเล่นอีก 100 ราย กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของชมรมแมวบริติชแห่งประเทศไทย ว่าเกิดขึ้นหลังจากเขาวางมือจากตลาดทุน และเกิดความคิดอยากเลี้ยงแมวสายพันธุ์บริติช จึงเริ่มศึกษาหาข้อมูลและพบว่าข้อมูลเรื่องแมวที่เมืองไทยค่อนข้างไม่ชัดเจน และไม่มีใครสามารถตอบคำถามเรื่องแมวได้อย่างละเอียด
เขาจึงขวนขวายหาข้อมูลในเมืองนอก จึงไปติดต่อสหพันธ์แมวโลก หรือ WCF ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เยอรมนี และมีเครือข่ายการทำงานด้านแมวกว่า 6 ทวีปทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นสถาบันควบคุมคุณภาพแมวสายพันธุ์ต่างๆ โดยกำกับดูแลการขึ้นทะเบียนเกิดแมว หรือใบเพดดีกรี เพื่อสร้างความมั่นใจเรื่องความถูกต้องของสายพันธุ์ให้แก่เจ้าของแมวนั้นๆ นอกจากนี้ WCF ยังควบคุมการขึ้นทะเบียนผู้เพาะพันธุ์แมว หรือบรีเดอร์ เพื่อบริหารจัดการให้การขยายพันธุ์แมวเป็นไปอย่างเหมาะสมไม่ให้เกิดการทารุณกรรมสัตว์เพื่อการค้า
ปัจจุบันชมรม BTC ดำเนินกิจกรรมภายใต้ข้อกำหนดของ WCF และเลือกที่จะดูแลแมวสายพันธุ์บริติชเพียงสายพันธุ์เดียวมีสมาชิกประมาณ 100 ราย ในระยะแรก ทาง WCF ต้องการให้ทางชมรม BTC ก่อตั้งชมรมขึ้นมาอีก 1 ชมรม เพื่อดูแลแมวให้ครบทุกสายพันธุ์ ดังนั้น เราจึงได้สร้างชมรมแมวสวยงามทุกสายพันธุ์ หรือ The All-breedGlamorous Feline Club หรือ AGC ขึ้นมา โดยมี จิรัฎฐ์ ขจีเศวตพันธ์ เป็นประธานชมรมแมวสวยงามทุกสายพันธุ์
สร้างมิติใหม่ให้การเลี้ยงแมว
เมื่อสหพันธ์แมวโลกเข้ามามีบทบาทในเมืองไทย จะช่วยสร้างมติการเลี้ยงแมวในเมืองไทย เนื่องจากการเลี้ยงแมวในเมืองไทยมี 2 ลักษณะ คือ เลี้ยงเพื่อไว้ดูเล่นและกลุ่มคนที่ต้องการเลี้ยงเพาะพันธุ์ เพื่อการลงทุนสร้างรายได้ โดยนโยบายของ WCF นี้จะช่วยป้องกันทั้งคนและแมว ให้แมวมีความเป็นอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม ในขณะเดียวกันก็คุ้มครองเจ้าของแมวไม่ให้ถูกเอาเปรียบ เนื่องจากคนขายหรือผู้เพาะพันธุ์แมวอาจประพฤติไม่เหมาะสมหลอกขายแมว โดยแอบอ้างใบเพดดีกรีที่ไม่เป็นจริง หรือออกใบเพดดีกรีให้ล่าช้า ซึ่งผู้บริโภคที่รักแมวต้องตกเป็นเหยื่อหลายราย
“เลี้ยงเพื่อสวยงามมักถูกหลอก เพราะไม่มีมาตรฐานเป็นเกณฑ์ การตรวจสอบข้อมูลก็ไม่มี คุณสมบัติที่ถูกต้องของแมวเราก็ไม่รู้ ส่วนเลี้ยงเพื่อเพาะพันธุ์บางตัวมาขายแมวตัวละ 5-6 หมื่นบาท ซึ่งราคาจริงๆ ไม่ถึง ผู้ซื้อก็ไม่รู้ จึงเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคและซื้อเพื่อสวยงามได้มาตรฐาน 2 หลักใหญ่ที่เราจะได้คุ้มครอง” อีกทั้งการเพาะพันธุ์แบบมีจรรยาบรรณ ซึ่งเป็นหลักใหญ่ที่ WCF จะเข้ามาดูแลคือ ควบคุมการเพาะพันธุ์แมว สมัยก่อนแมวเป็นสัตว์ที่แพร่พันธุ์เร็วมาก 2-3 เดือนออกลูกครั้งหนึ่ง ซึ่งไม่ดีกับสุขภาพแมว ถือเป็นการทารุณกรรมสัตว์
ใครที่เป็นผู้เพาะพันธุ์ต้องเพาะพันธุ์แมวภายใต้ข้อจำกัดที่ว่า เพาะพันธุ์แมวได้ไม่เกิน 2 ครั้ง/ปี ควบคุมอย่างไร เมื่อแมวเกิดลูกต้องมาออกใบเกิดหรือเพดดีกรี ชมรมก็จะรู้ว่าแมวตัวนี้ให้กำเนิดเกิด 2 ครั้ง/ปี หรือไม่
“อีกทั้งยังเป็นการปกป้องนักลงทุนและผู้บริโภค เพราะแมวตัวหนึ่งราคาเป็นแสนบาท หากสายพันธุ์ไม่ดีดังที่คุย ก็อาจได้ลูกที่ไม่ถูกต้องตามสายพันธุ์ มีสุขภาพที่ไม่ดี แมวที่เกิดถูกต้อง ก็จะมีใบเพดดีกรี ใบเพดดีกรีของแมวจะบอกไปถึง 5 เจเนอเรชั่น มีการผสมข้ามสายพันธุ์หรือเปล่า อีกทั้งผู้ผสมพันธุ์แมวจะต้องเข้าใจพันธุกรรมแมว แมวที่มีปัญหาด้านพันธุกรรมจะต้องไม่เพาะพันธุ์ต่อ เพราะจะสร้างปัญหาให้กับสังคม เช่น สุขภาพไม่ดี ป่วยบ่อย ตายเร็ว เช่น เป็นโรคไตก็ไม่ควรเพาะพันธุ์อีก อีกทั้งเรื่องการทำหมันในแมวไม่ใช่การทรมานสัตว์ เพราะแมวขยายพันธุ์เร็ว หากไม่มีการบริหารจัดการที่ดี แมวเกิดขึ้นเต็มเมืองแล้วคุณภาพการเป็นอยู่ของเขาจะดีหรือไม่ เพราะเราไม่ควบคุม ดังนั้นเราต้องให้ความรู้”
ประกวดแมวช่วยยกระดับมาตรฐานการเลี้ยงแมว
สำหรับการประกวด “1st WCF Thailand National Show” ถือเป็นการอุ่นเครื่องก่อนจะมีการจัดประกวดครั้งใหญ่ในปลายปีนี้ ครั้งนี้ประกวดแมวเพียง 2 สายพันธุ์ ได้แก่ บริติช ชอตแอร์ กับสก็อตติช โฟลด์ ทั้งหูตั้งและหูพับ แบ่งเป็นรางวัลรุ่นเด็ก อายุ 3-6 เดือน Best in Show Kitten ทั้งตัวผู้และตัวเมีย เป็นต้น ครั้งนี้มีแมวถูกส่งเข้าประกวด 30 ตัว ชิง 16 รางวัล อาทิ อายุ 3-6 เดือน 6-10 เดือน Best in Show Junior Best in Show ทั้งตัวผู้และตัวเมีย เป็นต้น
จิรัฎฐ์ ประธานชมรมแมวสวยงามทุกสายพันธ์ุ เล่าถึงเกณฑ์การตัดสินแมวที่ได้รับรางวัลต่างๆ ได้แก่ หลักเกณฑ์ในการให้คะแนน สองสายพันธุ์ ได้แก่ สก็อตติช โฟลด์ หูตั้งกับหูพับและบริติช แข่งกันเป็นอายุ 3-6 เดือน 6-10 เดือน ทั้งสองสายพันธ์ุ แต่ละสายพันธุ์ก็มีการตัดสินที่แตกต่างกัน แต่หลักใหญ่ๆ คือต้องมีใบเพดดิกรีทุกตัวจึงจะส่งประกวดได้ เพื่อเช็กว่ามีการผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์หรือเปล่า สองคือมีสุขภาพที่ดี ฉีดวัคซีนครบหรือไม่ ตาต้องใสกลมโต ไม่มีขี้ตา ลูกตาไม่ขุ่นมัว มีอารมณ์ที่ดี ไม่หวาดกลัว ไม่เครียด ทุกสายพันธุ์ต้องเป็นแบบนี้ ลักษณะขนต้องดีเงางาม พุ่งออกจากตัว ไม่เป็นกระจุก ขี้เล่น ไม่อ้วน มีน้ำหนักตามเกณฑ์ แมวต้องมีกล้ามเนื้อขาหลังที่สวยงาม เจ้าของเลี้ยงดูต้องใส่ใจ มีวิธีการเลี้ยงที่ดีนอกเหนือจากมีสายพันธุ์ที่ดี
ผู้ชนะรางวัล อาทิ รุ่นจูเนียร์ อายุ 6-10 เดือน Best in Show Junior ตัวผู้ พันธุ์สก็อตติช โฟลด์ ชื่อ Pagstti De Leonardo เจ้าของปาณิธี นามประเสริฐ ตัวเมีย พันธุ์บริติช ชื่อ Kapitalina Ellinweiss เจ้าของคือ ชยพล ภู่เจริญยศ ส่วนรางวัลรุ่นเด็ก อายุ 3-6 เดือน Best in Show แมวที่ได้รับรางวัลเป็นแมวตัวผู้ พันธุ์บริติช ชื่อ Yogi Million Reasons*PL เจ้าของคือ สุรณรงค์ ตันตยาคม ส่วนตัวเมีย พันธุ์บริติช ชื่อ Cosetta From Raven City เจ้าของ ชยพล ภู่เจริญยศ เป็นต้น
แมวของ เพ็ญพธู นิลอาธิ ที่ส่งแมวสก็อตติช โฟลด์ หูพับสีขาว เพศผู้ อายุ 10 เดือน เข้าประกวดเพียง 1 ตัว แต่สามารถคว้ามาได้มากถึง 4 รางวัล ได้แก่ Best Supreme คือสวยงามชนะแมวทุกตัวที่ส่งเข้าประกวดถือเป็นรางวัลที่สูงที่สุดของการประกวดในครั้งนี้ รางวัลที่ 2 คือ Best of Best ไม่แบ่งเพศ รางวัลที่ 3 Best in Show และรางวัลสุดท้าย Ring Justment รุ่นอายุไม่เกิน 10 เดือน
“ดิฉันซื้อ Draco มาจากฟาร์มชื่อ Pagatti ที่ จ.ระยอง ซึ่งเป็นแมวที่ขึ้นทะเบียน WCF อยู่แล้ว ดังนั้นจึงสวยงามตามลักษณะสายพันธุ์คือ หู หัว หาง กลมสวยงาม คาดว่าจึงทำให้ได้คะแนนเยอะราว 30 คะแนน ทีแรกไม่ตั้งใจส่งเข้าประกวดเพราะเราเลี้ยงเขาเพื่อเป็นเพื่อน และเพื่อความสวยงาม ที่บ้านเลี้ยงแมว 3 ตัว สก็อตติช โฟลด์ 2 ตัว และแมวไทยวิเชียรมาศ 1 ตัว แต่ก็มาเปลี่ยนใจช่วง 3 อาทิตย์หลัง ตั้งใจนำ Draco ส่งเข้าประกวดแค่ตัวเดียว ปรากฏได้รางวัลจริงๆ”
เพ็ญพธู แนะนำส่งแมวเข้าประกวดอย่างไรให้ได้รางวัล เธอบอกว่า ก่อนส่งเข้าประกวดได้เข้าไปศึกษากฎเกณฑ์การตัดสินแมวของ WCF จึงได้รู้ว่าตัดสินตามรูปลักษณ์ที่ตรงตามลักษณะสายพันธุ์ คือหัวต้องกลม ตากลม หูพับควรพับ ขาต้องใหญ่ หางควรกลมยาวและใหญ่ ซึ่งเจ้า Darco มีลักษณะตรงตามสายพันธุ์ทุกอย่าง เพราะหากสืบประวัติไปแล้วพ่อแม่ของ Darco สืบเชื้อสายมาจากพ่อแม่พันธุ์จากรัสเซียกับยูเครน ซึ่งปู่ย่าตายายของ Darco ได้รับรางวัลการันตีมาแล้วมากมาย
“เรื่องการเลี้ยงดูนอกจากดูพ่อแม่พันธุ์ที่มีลักษณะถูกต้องตามสายพันธุ์แล้ว การเลี้ยงดูก็ต้องเอาใจใส่ เราให้เขากินโปรตีนตามคำแนะนำตั้งแต่เด็ก และให้กินอาหารตามวัยเกรดพรีเมียม น้ำหนักที่เหมาะสมคือ 4.5 กิโลกรัม แต่เขาเคยอ้วนเกือบถึง 6 กิโลกรัม เราจึงต้องลดน้ำหนักตอนเขาอายุ 7 เดือน ให้เหลือ 4.5 ไม่เกิน 6 กิโลกรัม โดยเปลี่ยนมาให้กินอาหารเปียกอย่างเดียว แค่ 1 เดือนน้ำหนักก็ลดตามเกณฑ์ปกติ
การออกกำลังกายก็ปล่อยให้เขาวิ่ง ขาหลังเราอยากได้เนื้อแน่นๆ กว่านี้ ก็ให้เขากระโดดด้วยการเอาไม้ที่เป็นของเล่นแมวตบที่พื้นเพื่อให้เขากระโดดๆ ทำให้ขาหลังมีกล้ามเนื้อแน่น ส่วนการกรูมมิ่งดูแลขน ถ้าเราเป็นฟาร์มเรารู้ว่าเราทำแมวเราให้สวย อาบน้ำใช้ผลิตภัณฑ์แบบไหน แต่เราไม่ใช่ฟาร์มเราไม่รู้ จึงพาเขาไปเข้าร้านสปาแมว 1 ครั้ง/สัปดาห์ รวม 3 สัปดาห์ ขนก็ขาวฟู
วันที่กรรมการตรวจ เขาตรวจหวีย้อนขนแมวถึงสี่รอบ เพื่อเช็กว่าขนแมวต้องแน่น ไม่สลวย ซึ่งแมวเราก็ได้มาถึง 4 รางวัล รู้สึกภูมิใจมาก ตัดสินใจไม่ผิดเลยที่ส่งแมวเข้าประกวด เพราะทำให้เราได้ความรู้เยอะมากๆ เพราะคณะกรรมการจาก WCF จะตรวจบุคลิกภาพของแมว คือ แมวต้องรับแขก เล่น กล้าแสดงออก ทำให้เราได้ความรู้ นำมาปรับปรุงพัฒนาการเลี้ยงดูของเราได้ เวลาตัดสินเขาจะมีใบคอมเมนต์ให้ด้วยว่า แมวเรามีจุดเด่น จุดด้อยตรงไหน เพื่อเอามาปรับปรุงการเลี้ยงดู เช่น เขายกแมวขึ้นมาแล้วขาหลังแบะ เขาแนะนำว่า เทรนได้ ที่แบะเพราะแมววิ่งอยู่ในพื้นที่ลื่น ดังนั้น ควรเปลี่ยนให้แมวมาวิ่งบนที่แข็ง เช่น พื้นดิน พื้นไม้ ดิฉันคิดว่าเมื่อเราเลี้ยงแมวแล้วจำเป็นที่จะต้องนำแมวเข้าประกวดบ้าง ถึงแม้คราวหน้าไม่ได้ส่งเข้าประกวดก็จะไปดู เพื่อเพิ่มความรู้ของเราค่ะ”


