posttoday

ผู้หญิงกับการเป็นช้างเท้าหน้า

14 เมษายน 2558

โดย...ชายโย

โดย...ชายโย

ในยุคสมัยที่ผู้หญิงก้าวขึ้นมามีบทบาททางสังคมเทียบเท่าผู้ชาย ก็ทำให้เรารู้ว่าผู้หญิงก็ทำงานเก่งไม่แพ้ผู้ชายเหมือนกัน แต่ในขณะเดียวกันบทบาทของผู้หญิงกับครอบครัวหลายคนก็เรียกได้ว่าแทบจะกลายเป็นกำลังหลักในการหาเลี้ยงสมาชิกครอบครัว หรือขึ้นเป็นผู้นำครอบครัวก็ว่าได้ แล้วผู้ชายยุคใหม่จะคิดเห็นอย่างไรในประเด็นบทบาท
ช้างเท้าหน้าของผู้หญิงเรามาฟังกันดีกว่าครับ

พสธร ทรงถาวรทวี อาชีพนักร้อง นักแสดง

“สำหรับผมมองว่า การที่ผู้หญิงต้องมาเป็นผู้นำครอบครัวหรือช้างเท้าหน้าอาจจะทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยมากกว่าผู้ชายครับ เพราะด้วยความเป็นผู้หญิงจะเป็นคนที่เก็บรายละเอียดในเรื่องต่างๆ เยอะกว่าผู้ชาย ถ้าต้องเป็นผู้นำครอบครัวก็จะต้องทำทั้งงานในบ้านและงานนอกบ้านคงต้องใช้พลังมากๆ

ที่ผ่านมาผมได้เห็นทั้งแม่และพี่สาว ผมว่าผู้หญิง 2 คนในชีวิตของผมก็มีความเป็นผู้นำ แต่อาจจะไม่ถึงขนาดเป็นผู้นำหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว แต่ก็กล้าที่จะตัดสินใจ ให้เหตุผลในเรื่องต่างๆ จนพ่อ น้องชาย และตัวผมเองต้องยอมจำนนในเหตุผลเลยครับ (เอ...หรือเราไม่อยากมีปัญหา เจิ้นเล่าติดตลก) ซึ่งพ่อและแม่ของผมท่านก็แบ่งบทบาทกันชัดเจน พ่อเป็นผู้นำเรื่องเลี้ยงครอบครัว แม่เป็นผู้นำในการอบรมเลี้ยงดูลูกๆ แม่สอนอะไรลูกๆ พ่อไม่เคยมาแย่งบทบาท และแม่ก็ไม่เคยแย่งบทบาทความเป็นผู้นำของพ่อ ผมว่าดีนะทำให้ลูกๆ ไม่สับสน ได้เรียนรู้ด้วยว่าหน้าที่ของผู้ชายคืออะไร หน้าที่ของผู้หญิงคืออะไร

สำหรับผมไม่อยากให้มีคำว่าช้างเท้าหน้า ช้างเท้าหลัง ด้วยความที่ปัจจุบันบทบาทของผู้หญิงและผู้ชายไม่ได้ดูด้อยกว่ากัน มีความสามารถพอๆ กัน ผมอยากให้ทั้งผู้หญิงผู้ชายเดินไปพร้อมๆ กัน แบ่งบทบาทหน้าที่กันให้ชัดเจนตั้งแต่แรกว่าใครรับผิดชอบอะไร ทำอะไรได้แค่ไหน ยอมรับในตัวตนของอีกฝ่ายให้ได้ เพราะธรรมชาติของผู้หญิง ผู้ชาย มีความแตกต่างกันอยู่แล้วก็น่าจะทำให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ไม่มีใครต้องรู้สึกเป็นผู้นำหรือผู้ตาม”

กษิดิศ กลศาสตร์เสนี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท PrimeTime Entertainment

“เคยมีคนกล่าวไว้ว่า ‘เบื้องหลังความสำเร็จของผู้ชายทุกคนคือผู้หญิงที่คอยเคียงข้างเขา’ ซึ่งในชีวิตของผมแล้ว คงจะเป็นภรรยาของผม ที่เป็นกำลังใจสำคัญทั้งในเรื่องการงานและชีวิตครอบครัว ซึ่งผมให้เกียรติเขาในการแสดงความคิดเห็นและพร้อมที่จะเป็นคู่คิดไปด้วยกัน ในยุคปัจจุบันที่ทุกอย่างรอบตัวเราก้าวไปอย่างรวดเร็ว มีทั้งล้มเหลว มีทั้งปรับตัวได้

การให้ความสำคัญกับคุณค่าทางจิตใจและความสนใจของแต่ละคนจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยครอบครัวจะต้องเป็นแรงผลักดันที่สร้างพลังใจให้กันโดยไม่แบ่งแยกเพศเหมือนในอดีต ผมเป็นคนที่โชคดีมากที่มีภรรยาที่มีความสามารถ มีความมุ่งมั่น และยังเป็นคนที่ใส่ใจ พร้อมจะอยู่เคียงข้างผมในทุกๆ เรื่อง เธออยู่เคียงข้างผมทั้งในยามทุกข์และสุข ผมเชื่อว่านี้คือสิ่งที่ทำให้ เราและทุกคนรอบตัวเรามีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น”

นพ.ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ผู้บริหารและแพทย์ประจำมาสเตอร์พีซ คลินิก

“สำหรับยุคใหม่ที่ผู้หญิงก้าวขึ้นมาเป็นช้างเท้าหน้าหรือผู้นำในครอบครัว ผมมองว่าถ้าเมื่อไหร่เราเริ่มชีวิตคู่ตกลงที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ผมคิดว่าเราไม่ควรมีคำว่าช้างเท้าหน้าหรือช้างเท้าหลัง แต่บทบาทของผู้หญิงไทยเป็นที่ยอมรับมากขึ้นเป็นช้างเท้าหน้ามากขึ้น และผมเองก็ยอมรับว่าพวกเธอก็ทำหน้าที่ช้างเท้าหน้าได้ดีเสียด้วยในหลายๆ ครอบครัว

ส่วนตัวผมเองทุกครั้งที่เจอผู้หญิงที่มีการตัดสินใจที่แตกต่างจากผู้หญิงทั่วไป หรือมีความเป็นผู้นำผมจะรู้สึกชื่นชมดูเป็นผู้หญิงที่มีคุณค่า มีความคิด แม้กระทั่งที่คลินิกที่ผมดูแลอยู่ ตำแหน่งหัวหน้าบางตำแหน่งที่น่าจะเป็นผู้ชาย ผมก็ดึงผู้หญิงขึ้นมาเป็นหัวหน้าทำงานให้กับผม เพราะฉะนั้นถ้าผู้หญิงสามารถพิสูจน์ความสามารถให้เป็นที่ยอมรับผมก็พร้อมจะเปิดใจรับพวกเธอ เผลอๆ ผมว่าพวกเธอยังทำงานได้ดีกว่าผู้ชายด้วยซ้ำ

และการที่ผมเปิดใจยอมรับผู้หญิงที่มีความเป็นผู้นำ ก็ทำให้ผมได้เจอกับผลงานดีๆ เจอลูกน้องที่ดี เจอคนที่ดี ถ้าผมปิดใจไม่รับความสามารถในการเป็นผู้นำของผู้หญิง ผมก็คงไม่เจอเรื่องดีๆ ในชีวิตที่เป็นอยู่วันนี้ครับ”

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2