4 สเต็ปเรียนแต่งหน้า แบบมืออาชีพ
ตามคำเขาว่ากันว่า “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” ถ้าคุ้นเคยกับการแต่งคนสวยอยู่แล้วให้สวยขึ้น
โดย...ญิบ ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี
ตามคำเขาว่ากันว่า “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง”
ถ้าคุ้นเคยกับการแต่งคนสวยอยู่แล้วให้สวยขึ้น หรือลบข้อบกพร่องบนใบหน้า คุณจะลืมข้อนี้ไปได้เลย เพราะหนนี้จะพาคุณๆ ไปรู้จักกับการแต่งหน้าอีกหลายๆ แบบ เช่น แต่งคนให้เป็นผี หรือสร้างแผล ชิ้นเนื้อปลอมรุ่งริ่ง ด้วยฝีมือของทีมงานมืออาชีพ ที่โรงเรียนศึกษาศิลปะและเทคนิคการแต่งหน้า (Make Up Arts And Technique School) ซึ่งเป็นสถาบันที่ได้รับการรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการไม่กี่แห่งในกรุงเทพฯ เมื่อจบหลักสูตรจะได้รับประกาศนียบัตรการันตี พร้อมทำงานทันทีอย่างมืออาชีพ
“ก่อนหน้านี้ถ้าพูดถึงอาชีพช่างแต่งหน้า ช่างแต่งหน้าที่มีประสบการณ์หลายคนเกิดจากครูพักลักจำ ซึ่งผมมองว่าน้อยคนที่จะสามารถไปยืนอยู่แถวหน้าของวงการได้ถ้าไม่เจ๋งจริง สิ่งที่ผมและอาจารย์เคน กวิน มองเห็นคือ เราสามารถสร้างเมกอัพอาร์ติสต์มืออาชีพได้ เพราะเราเชื่อว่าอาชีพนี้กำลังเป็นที่ต้องการและมีแนวโน้มจะเติบโตได้ในอนาคต” สุรยศ กาญจนาภา ผู้บริหารโรงเรียนศึกษาศิลปะและเทคนิคการแต่งหน้า บอกเล่าที่มาของโรงเรียนแห่งนี้
หลักสูตรการเรียนของที่นี่จะมีตั้งแต่ระดับแต่งหน้าสวยด้วยตัวเอง เป็นคอร์สสั้นๆ เพียงหนึ่งวัน ทันทีที่หมดชั่วโมงเรียนครูบอกว่านักเรียนจะสามารถแต่งหน้าตัวเองแบบสวยๆ ได้สบายๆ คอร์สนี้จะเหมาะกับวัยนักศึกษาหรือสาวทำงานที่อยากเพิ่มพูนบุคลิกภาพ เพราะใช้เวลาไม่มากและค่าใช้จ่ายไม่แพง
แต่ถ้ารักการแต่งหน้าจนอยากทำเป็นอาชีพแล้ว ก็ต้องจริงจัง มีเวลาและมีทุนในหลักหมื่นเพื่อจะเริ่มเรียนศิลปะการแต่งหน้าขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะเป็นคอร์สแต่งหน้าเบื้องต้น แต่เป็นการเรียนทั้งหมด 90 ชั่วโมง คุณครูจะอัดแน่นความรู้ด้านทฤษฎีจนแม่นยำ ทำความรู้จักอุปกรณ์แต่งหน้าทั้งหมด มีการสอบข้อเขียน จากนั้นนักเรียนก็จะได้เรียนรู้เครื่องแต่งหน้าทีละชิ้น เริ่มจากรูปหน้า คิ้ว ตา จมูก ปาก จุดบกพร่องต่างๆ บนใบหน้าตลอดจนวิธีแก้ไข จากนั้นจะสอบด้วยการลงมือปฏิบัติ เก็บชั่วโมงบิน เรียกว่าถ้าจบหลักสูตรนี้จะแต่งหน้ารับปริญญาจนกระทั่งเจ้าสาวได้เลย
สเต็ปต่อมาคือฝึกความคิดสร้างสรรค์ด้วยการเรียนศิลปะการแต่งหน้าเพื่อการแสดง เหมาะกับคนที่มีพื้นฐานการแต่งหน้ามาบ้างแล้ว เรียกว่าต้องผ่านด่านแรกมาก่อน เพราะงานเพื่อการแสดงจะต้องสร้างสรรค์งานศิลปะบนใบหน้าหรือเรือนร่างของนักแสดง ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 90 ชั่วโมงเช่นเดียวกัน เมื่อจบหลักสูตรแล้ว คุณสามารถปั้นแต่งนางแบบบนรันเวย์ได้เลยทีเดียว
แล้วก็มาถึงคอร์สการแต่งหน้าเทคนิคพิเศษสเต็ปขั้นที่สามของการเป็นเมกอัพอาร์ติสต์มืออาชีพ เหมาะกับช่างแต่งหน้าที่อยากเข้ามาต่อยอดการทำงานด้วยเทคนิคพิเศษ ครูจะสอนการตกแต่งบาดแผลทุกประเภท การแต่งแก่ด้วยเทคนิคต่างๆ กระทั่งการแต่งหน้าผีที่กล่าวถึงข้างต้น ซึ่งเหล่านี้จะต้องเรียนและทำความรู้จักกับบาดแผลชนิดต่างๆ ลักษณะอาวุธ รวมทั้งอนาโตมีของมนุษย์ด้วย (ไม่ใช่ง่ายเลยนะเออ...) ซึ่งนอกจากเทคนิคพิเศษนี้แล้วยังมีเทคนิคพิเศษขั้นสูงสำหรับมืออาชีพระดับฮอลลีวู้ด เช่น การหล่อหน้ากากยางหรือหล่อชิ้นเนื้อหรืออวัยวะเพื่อการแต่งหน้า เป็นความยากสเต็ปสุดท้ายของการเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพ
“สิ่งที่ดีของการเรียนกับครูแบบตัวต่อตัว คือ เราได้ความรู้ที่ถูกต้อง การได้ฝึกฝีแปรง ฝึกความคิดสร้างสรรค์ ฝึกทักษะการนำเสนอและพัฒนาบุคลิกภาพ ผมว่าสื่ออย่างยูทูบและการสอนแต่งหน้าบนสื่อต่างๆ ศึกษาเอาไว้อัพเดทเทรนด์ ทำให้เราไม่ตกกระแส แต่การเรียนจะทำให้เราไปไกลกว่ากระแส
“ทุกคนที่ได้เรียนกับเราต้องเป็นมืออาชีพ ส่วนใหญ่คนที่มาเรียนจบไป ส่วนใหญ่เป็นฟรีแลนซ์ มาร์เก็ตติ้ง บล็อกเกอร์ หรือแม้กระทั่งนักแสดง ช่างภาพ ก็มาเรียนเพื่อที่จะไปบอกช่างแต่งหน้าของเขาว่าแต่งแบบไหนนางแบบจะออกมาสวย” ผู้บริหารโรงเรียนศึกษาศิลปะและเทคนิคการแต่งหน้า กล่าว
ยิ่งฟังคุณครูแห่งโรงเรียนศึกษาศิลปะและเทคนิคการแต่งหน้า ทำให้รู้ว่าการแต่งหน้าไม่ใช่ว่าจะเอาสีสันมาแต่งแต้มบนใบหน้าหรือเรือนร่างเพื่อให้เกิดความสวยงามหรือแปะๆ ปัดๆ ไปให้เสร็จเท่านั้น เพราะการแต่งหน้าคือศิลปะ ดังนั้นคนที่ทำงานด้านนี้ก็คือศิลปินมืออาชีพดีๆ นี่เอง สนใจรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติมโทร. 02-148-1127-8 หรือ www.mua.ac.th
เฟซบุ๊ก : MUAATS


