คณิน สแตนลีย์ มีดีมากกว่าหน้าตา

โดย...แจนยูอารี  ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

ลูกครึ่งยังมาแรง!!! พิสูจน์ได้จากลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย รายนี้ “โอม-คณิน สแตนลีย์” ดาวรุ่งที่กำลังจะมีผลงานทางไทยทีวี ช่อง 3 “สี่หล่อขอสืบ” แหม!!! แค่ชื่อก็การันตีว่าสี่คนที่มาเป็นพระเอก  (ต้อง) หล่อเร้าใจสาวๆ แน่นอน

“ละครเรื่องนี้เป็นละครเรื่องแรกที่ผมได้เล่นเต็มตัวครับ ไม่ใช่รับเชิญเหมือนเรื่องก่อนหน้าแล้วละครับ” โอม เล่าอย่างภูมิใจ “ผมเซ็นสัญญากับช่องโดยตรงครับ ไม่ได้สังกัดค่ายละคร”

กว่าจะมาเป็นเด็กช่อง โอมประเดิมเส้นทางบันเทิงด้วยงานโฆษณาเยอะแยะมากมาย ทั้งที่ออนแอร์ในไทย จีน และฟิลิปปินส์ รวมถึงมิวสิควิดีโอเพลงฮิตของสองสาว โฟร์-มด “ไปไม่ได้ หรือเธอไม่ไป” ขาดไม่ได้ก็คือการเป็นนายแบบ

จากนั้นโอมก็มีโอกาสก้าวสู่การเป็นนักแสดง แต่บทที่ได้รับก็ยังไม่โดดเด้งเท่าไร เป็นแค่นักแสดงรับเชิญ ประมาณโผล่มาแบบอะแวบๆ ตอนเดียวจบ เช่นว่า “พ่อเลี้ยงอดุลย์ เจิมศิริ” (วัยหนุ่ม) ละครชุด "สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอนคุณชายรณพีร์ " ฯลฯ แต่ที่รอจ่อคิวออนแอร์ในเร็ววันก็คือละคร "หนึ่งในทรวง" โอมรับบท “พินิจ พนัสพงษ์”

นอกจากนี้ บัณฑิตจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังเคยได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ที่มีซุป’ตาร์ดังนำแสดง “Single Lady เพราะเคยมีแฟน” โดยก่อนที่เขาจะมาแสดงเรื่องนี้ ก็เคยชิมลางงานภาพยนตร์มาแล้ว จากภาพยนตร์วัยรุ่น “รักแรกกระแทกจิ้น”

“เหนื่อยครับเหนื่อย คนนอกอาจจะมองว่าการเป็นนักแสดงมันสวยหรูดูดี เป็นงานสบายๆ พอมาทำจริงแล้วเหนื่อยกว่าที่คิดไว้มากๆ เลยละครับ ที่เห็นเบื้องหน้าว่าสวยหล่อ แต่เบื้องหลังกว่าจะได้ความสวยความหล่อ หรือแม้แต่การแสดงที่ดี มันไม่ง่ายครับ เหนื่อยครับ แต่ก็สนุกครับ เพราะในแต่ละงานแต่ละวันมันจะมีอะไรใหม่ๆ ให้เรียนรู้ตลอดเวลา”

ยังถือว่าใหม่ในวงการ โอมยอมรับอย่างนั้น สิ่งที่เขาทำได้ดีและต้องทำให้ดีกว่าเดิม คือการพัฒนาฝีมือการแสดง เขาถ่อมตัวว่าฝีมือเขายังอ่อนหัด คงอีกนานกว่าจะเทียบชั้นนักแสดงรุ่นพี่

“คนที่เข้าวงการตั้งแต่เด็กๆ เขาจะมีความแกร่งทั้งในเรื่องการใช้ชีวิตและการเป็นนักแสดง ผมว่านี่คือข้อได้เปรียบ ส่วนผมมาช้า (ยิ้ม) ก็ยังใหม่มากสำหรับวงการนี้ ผมก็ต้องเรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนาทุกสิ่งอย่าง เพื่อให้ตัวเองเป็นนักแสดงที่ดีและมีความพร้อมกับบทบาทที่ตัวเองได้รับ คนที่พร้อมผมถือว่าเป็นข้อได้เปรียบคนอื่นนะครับ ซึ่งไม่ใช่แค่พร้อมเรื่องรูปร่างหน้าตา และมันต้องพร้อมในฐานะนักแสดงมืออาชีพ

ผมว่าการเป็นนักแสดงมันต้องใช้ชีวิตง่ายๆ นะครับ สามารถที่จะกินอยู่หลับนอนได้ตามสถานการณ์ แม้ว่าเบื้องหน้าคนอาจจะคิดว่าสวยหรูดูดี แต่ชีวิตเบื้องหลังนักแสดงก็คือคนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องทำตัวเหมือนตอนที่อยู่หน้ากล้องก็ได้ ที่สำคัญ วินัย ไม่เฉพาะการเป็นนักแสดง ทุกอาชีพ ทุกวงการ วินัยคือคีย์ที่จะทำให้งานสำเร็จลุล่วง และในฐานะคนไทย ผมว่าสัมมาคารวะยังคงเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยที่ไม่ควรลืม”

เมื่อถามถึงความคาดหวังในผลงานเรื่องแรกที่ได้รับบทเด่นเต็มตัว โอมยิ้มกว้างก่อนตอบว่าค่อนข้างมั่นใจกับบทบาทชายหนุ่มผู้มีสัมผัสพิเศษที่สามารถมองเห็นอนาคต และเขาก็ย้ำว่าบทนี้น่าจะแจ้งเกิดให้ตัวเขากลายเป็นนักแสดงดาวรุ่งมาแรงแห่งวิกพระราม 4

“เป็นละครเย็นครับ แต่มันจะปฏิวัติละครเย็นไปเลย ที่เคยเห็นมาจะไม่ใช่ละ (ยิ้มกรุ้มกริ่ม) มันเป็นละครวัยรุ่นที่เป็นมากกว่าวัยรุ่น บทสนุกมากครับ ครบทุกรสชาติ ตื่นเต้น ดราม่า มุขฮา การดำเนินเรื่องมันจะมีอะไรให้ต้องลุ้นตลอด มีเหตุการณ์ให้ตัวละครต้องแก้ไขสถานการณ์ทุกตอน ซึ่งผมว่าผมโชคดีนะครับที่รับเล่นเรื่องนี้ เพราะบทนักสืบนี่ไม่ใช่ใครจะมีโอกาสได้เล่นนะครับ มันทำให้เรียนรู้ว่าเป็นนักสืบไม่ง่าย ก็คงเหมือนกับการเป็นนักแสดงที่ดี มันก็ไม่ง่าย”

เอาเป็นว่าแฟนๆ อดใจรอชมฝีมือการแสดงของพระเอกดาวรุ่งรายนี้ได้เลย  ออนแอร์เมื่อไหร่เดี๋ยวได้รู้กันว่า เขา (น่า) จะมีดีมากกว่าหน้าตาและคำตอบที่เขาบอกกับเราหรือไม่