เที่ยวฟิลิปปินส์

โดย...ทีมงานโลก 360 องศา [email protected]

ประเทศฟิลิปปินส์คืออีกหนึ่งประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนที่ถูกพูดถึงกันมาก เพราะผู้คนของประเทศนี้ใช้ภาษาอังกฤษได้ดีและมีค่าแรงไม่แพงมาก ทำให้คนส่วนใหญ่มองว่า เมื่อเปิด AEC แล้ว คนฟิลิปปินส์จะเข้ามามีบทบาทมากในด้านการบริการ ดังนั้นเราจะพาไปทำความรู้จักกับประเทศนี้ให้มากขึ้น โดยจะขอไปเริ่มต้นยังปลายทางที่ไม่ใช่เมืองหลวง แต่เป็นปลายทางที่เป็นจุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์สำคัญของประเทศนี้ นั่นก็คือ “เกาะเซบู”

เกาะเซบูมีสถานะเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาควิซาย่า 1 ใน 3 ภูมิภาคหลักที่ประกอบไปด้วยภูมิภาคลูซอน และภูมิภาคมินดาเนา ซึ่งเกาะเซบูทำหน้าที่ดูแลปกครองเกาะน้อยใหญ่โดยรอบ อีกกว่า 162 เกาะ ที่นี่จึงเป็นศูนย์กลางทางราชการ เศรษฐกิจ และการคมนาคมขนส่งทางทะเลและทางอากาศ ที่มีความสำคัญที่สุดของภูมิภาคนี้ ดังนั้นไม่ว่าใครจะเข้ามาท่องเที่ยวหรือเข้ามาทำธุรกิจก็จะต้องเริ่มต้นที่เกาะเซบูก่อนเป็นอันดับแรก

“มาเจลลัน ครอส” จุดเริ่มต้นของศาสนาคริสต์บนดินแดนฟิลิปปินส์

 

ในแง่ของประวัติศาสตร์แล้ว เกาะเซบูคือสถานที่ที่นักล่าอาณานิคมชาวตะวันตกเดินทางมาถึง จากบันทึกทางประวัติศาสตร์ระบุว่า เฟอร์ดินานด์ มาเจลลัน ยอดนักเดินเรือชาวโปรตุกีส อาสานำกองเรือแห่งราชอาณาจักรสเปน เดินทางมุ่งหน้าข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก เพื่อออกสำรวจเส้นทางเดินเรือใหม่ ที่จะนำไปสู่หมู่เกาะแห่งเครื่องเทศ แทนที่เส้นทางเก่า ที่ต้องผ่านมหาสมุทรอินเดีย ตลอดการเดินทางข้ามมหาสมุทรกว่า 3 เดือน กองเรือก็เดินทางมาถึงเกาะเซบู ซึ่งมาเจลลันและลูกเรือได้ผูกสัมพันธ์กับชนพื้นเมืองเป็นอย่างดีในครานั้นมาเจลลันอาสานำทัพบุกไปยังเกาะมัคตัน ศัตรูสำคัญของชนพื้นเมืองบนเกาะเซบู ท้ายที่สุดแล้วมาเจลลันก็ถูกสังหารโดยราชาลาปูลาปู โดยที่ไม่ทันได้เห็นความสำเร็จของการเดินเรือที่พิสูจน์ให้เห็นว่า แท้จริงแล้วโลกของเรานั้นมีลักษณะเป็นวงกลม

ปัจจุบันจุดที่มาเจลลันถูกสังหาร ได้มีการก่อสร้างอนุสรณ์สถานที่เรียกว่า “มาเจลลันมาร์กเกอร์” และอนุสาวรีย์ของราชาลาปูลาปู เพื่อระลึกถึงบุคคลทั้งสอง ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของประเทศนี้ นั่นก็คือการตกเป็นอาณานิคมของประเทศสเปนยาวนานกว่า 300 ปี และการมาถึงของมาเจลลัน ยังได้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือการนำศาสนาคริสต์เข้ามาเผยแพร่ยังดินแดนนี้อีกด้วย

เกาะโบราไค อีกหนึ่งปลายทางท่องเที่ยวที่สวยงามของฟิลิปปินส์

 

ซึ่งสถานที่แรกสุด ที่เป็นจุดเริ่มต้นการเข้ารีตศาสนาคริสต์ของชนพื้นเมือง นั่นก็คือที่ “มาเจลลัน ครอส” (Magellan cross) ที่มีการสร้างไม้กางเขนขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์การเริ่มต้นของศาสนาคริสต์บนดินแดนแห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันฟิลิปปินส์คือ ประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาคริสต์มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 92 ซึ่งในจำนวนนี้นับถือนิกายโรมันคาทอลิกมากที่สุด รองลงมาคือนิกายโปรเตสแตนต์

ด้วยเหตุนี้เกาะเซบูจึงมีชื่อเสียงอย่างมาก ในฐานะของจุดเริ่มต้นสำคัญของบันทึกประวัติศาสตร์ของประเทศฟิลิปปินส์ มากไปกว่านั้นความสวยงามของทะเล ยังทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ซึ่งจากสถิติของกระทรวงการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ระบุว่า เกาะเซบูมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามามากที่สุดในประเทศ เฉลี่ยปีละไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีนมากที่สุด เนื่องจากใช้ระยะเวลาในการเดินทางไม่มาก และมีราคาถูก ส่วนนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยยังมีจำนวนไม่มาก

การมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทำให้การท่องเที่ยวสะดวกสบายไร้กังวล

 

นอกจากนั้นแล้ว ฟิลิปปินส์มีสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงอยู่มากมาย ซึ่งเกาะโบราไคก็เป็นที่รู้จักมากที่สุดแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะเซบู การเดินทางไปเกาะแห่งนี้มีเที่ยวบินตรงทั้งจากกรุงมะนิลาและจากเกาะเซบู ซึ่งใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นจะต้องต่อเรือไปอีกประมาณ 45 นาที

เกาะแห่งนี้มีรูปทรงคล้ายกระดูก มีความยาวประมาณ 7 กิโลเมตร และกว้าง 2 กิโลเมตร จึงไม่ลำบากมากนักในการเดินทางท่องเที่ยวให้ทั่วเกาะแห่งนี้ ในอดีตเกาะแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันเพียงในกลุ่มแบ็กแพ็กเกอร์เท่านั้นว่าเป็นสถานที่ที่สวยงามและสงบจนกระทั่งค่อยๆ มีชื่อเสียงขึ้นมา และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกในปัจจุบัน

White beach คือชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาะโบราไค นั่นก็เป็นเพราะว่ามีหาดทรายสีขาวนวลทอดตัวยาวถึง 3 กิโลเมตร ที่ผ่านมาเกาะแห่งนี้ยังได้รับการจัดอันดับจากสื่อท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Tripadvisor.com และนิตยสารทราเวล แอนด์ เลเชอร์ (Travel & Leisure) ให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลอันดับต้นๆ ของโลก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความสวยงามอย่างที่เห็นและอีกปัจจัยหนึ่งก็คือความสะดวกสบายของการท่องเที่ยว เนื่องจากมีระบบสาธารณูปโภคที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง ไฟฟ้าโรงแรมที่พัก ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ทำให้นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินกับกิจกรรมท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบายไร้กังวล นอกจากนั้นแล้วเรื่องของราคาที่พักและอาหารการกินก็มีตัวเลือกที่หลากหลาย มีทั้งราคาถูกไปจนถึงหรูหรา อันเนื่องมาจากเกาะแห่งนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากกลุ่มนักท่องเที่ยวแบ็กแพ็กเกอร์ จนกระทั่งมีชื่อเสียงและเป็นปลายทางของกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นนักเที่ยวประเภทไหน เกาะแห่งนี้ก็สามารถรองรับได้ทุกประเภท

การเข้าสู่ประเทศที่มีประชากรทะลุหลักร้อยล้านคน คืออีกหนึ่งความท้าทายของประเทศฟิลิปปินส์

 

เที่ยวชมบรรยากาศเกาะสวยๆ ทะเลงามๆ ไปกันแล้ว  มาทำความรู้จักกับอีกหนึ่งมุมของฟิลิปปินส์

เราจะพาไปดูความเป็นปัจจุบัน ไปดูการพัฒนาและดูวิถีคนเมืองที่อาศัยอยู่ในกรุงมะนิลา ที่ถึงแม้ทุกวันนี้จะเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า ที่ผุดขึ้นมาเพื่อตอบสนองความเจริญ  และผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาอาศัยมากขึ้น แต่สถาปัตยกรรมเก่าแก่ยุคโคโลเนี่ยลก็ยังสามารถพบเห็นได้ทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งโบสถ์คริสต์ที่ตั้งเรียงรายอยู่ทุกมุมเมือง

โบสถ์ที่มีชื่อเสียงและมีความแปลก ที่นักท่องเที่ยวเกือบทุกคนจะต้องมาเยือน นั่นก็คือโบสถ์ที่มีชื่อว่า โบสถ์เซนต์โจเซฟ ซึ่งมีออร์แกนที่ทำมาจากไม้ไผ่ มีอายุเก่าแก่ราว 190 ปี ถูกสร้างขึ้นมาพร้อมๆ กับโบสถ์ โดยบาทหลวงชาวสเปน ผู้มีพรสวรรค์ทั้งทางด้านดนตรีและสถาปนิกในทุกๆ ปี โบสถ์แห่งนี้จะจัดเทศกาลออร์แกนไม้ไผ่นานาชาติขึ้น ซึ่งจะมีนักดนตรีจากทั่วโลก พร้อมใจกันมาร่วมบรรเลงดนตรีร่วมกับคณะนักร้องประสานเสียง เพื่อเฉลิมฉลองให้กับหนึ่งในเครื่องดนตรีที่มีอายุเก่าแก่ของโลก ที่ยังคงสามารถใช้งานได้อยู่

ในเดือน ก.ค. 2557 ที่ผ่านมา ทารกเพศหญิงที่มีชื่อว่า “เจนนาลิน เซนติโน” ได้ถือกำเนิดขึ้น เธอคือประชากรที่ทางการฟิลิปปินส์ระบุว่า เป็นประชากรคนที่ 100 ล้านของประเทศอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่า ประชากรเกิดใหม่ของประเทศนี้ จะยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง สาเหตุสำคัญเป็นเพราะชาวฟิลิปปินส์ส่วนมากเป็นคริสต์ศาสนิกชนผู้เคร่งครัด ซึ่งไม่ยอมรับการคุมกำเนิดทุกรูปแบบ เพราะเชื่อว่าบุตรคือของขวัญจากพระเจ้า ทั้งนี้บางทัศนะวิเคราะห์กันว่าจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น จะส่งผลต่อการควบคุมคุณภาพประชากรในอนาคต ในขณะที่บางทัศนะกลับมองว่า เป็นโอกาสดีในการลงทุนด้านประชากรอย่างเหมาะสม แต่จะต้องมีการเตรียมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษาอย่างจริงจัง

ที่ผ่านมามีชาวฟิลิปปินส์จำนวนมากออกไปทำงานในต่างประเทศ เนื่องจากมีความได้เปรียบทางด้านภาษา และเก่งในด้านการให้บริการ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้สามารถส่งเงินตรากลับเข้าประเทศ คิดเป็นรายได้อันดับต้นๆ ของประเทศเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามภาคการเกษตรก็ยังถือว่าเป็นแหล่งรายได้ของคนส่วนใหญ่ แต่เนื่องจากฟิลิปปินส์เผชิญกับปัญหาภัยธรรมชาติเป็นประจำทุกปี ส่งผลให้ภาคการเกษตรที่นี่สร้างผลผลิตได้ไม่ต่อเนื่องและได้ในปริมาณจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าว ซึ่งเป็นอาหารหลักของผู้คนในประเทศนี้

ฟิลิปปินส์เคยเป็นประเทศผู้นำเข้าข้าวมากที่สุดในโลก ด้วยปริมาณมากกว่า 1 ล้านตัน/ปี จึงถือเป็นตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวหอมมะลิที่เป็นที่ชื่นชอบของชาวฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ตามที ปัญหาการปลอมปนข้าวหอมมะลิ ก็ได้บ่อนทำลายภาพลักษณ์ข้าวหอมมะลิของไทย จึงเป็นเรื่องจะต้องร่วมกันแก้ไขเพื่อให้ฟิลิปปินส์ยังคงเป็นอีกหนึ่งตลาดส่งออกข้าวของไทยในระยะยาว ซึ่งถึงแม้ว่าไทยจะไม่ใช่นักลงทุนรายใหญ่ในฟิลิปปินส์ แต่ประเทศนี้ก็ยังมีโอกาสทางธุรกิจอีกมากหากเข้าใจและเข้าถึงผู้บริโภค

การไม่ได้พรมแดนใกล้ชิดติดกัน อีกทั้งยังตั้งอยู่ห่างไกลระหว่างกัน อาจเคยเป็นอุปสรรคสำคัญในการทำความรู้จักกันระหว่างประเทศไทยและฟิลิปปินส์ แต่บัดนี้ความก้าวไกลของเทคโนโลยีสื่อสาร และความสะดวกสบายในการเดินทาง จะเชื่อมความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้ใกล้ชิดกันมากขึ้นหรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับความร่วมมือกันของทั้งสองประเทศ