posttoday

ดูไบ เมืองสองขั้ว

28 กุมภาพันธ์ 2558

หลังจากปี 1971 ดูไบได้เข้าไปเป็น 1 ใน 7ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (The United Arab Emirates - UAE)

โดย... กาญจน์ อายุ

หลังจากปี 1971 ดูไบได้เข้าไปเป็น 1 ใน 7ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (The United Arab Emirates - UAE) แม้ไม่ได้อยู่ในฐานะเมืองหลวงอย่างอาบู ดาบี แต่ก็เป็นเมืองเศรษฐกิจและเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 10 ล้านคน ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวซาอุดิอาระเบีย รองลงมาเป็นชาวอินเดีย อังกฤษ อเมริกา และรัสเซีย สำหรับคนไทยไม่ติดอันดับซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะถ้าถาม
ว่าอยากไปเที่ยวดูไบไหม คงได้คำตอบว่า “ดูไบมีอะไร”กลับมาแทน

เมื่อกล่าวถึงดูไบ คนไทยจะคิดถึง...ทอง น้ำมัน ตึกเรือใบ ทะเลทราย และหลายคนเคยไปเพราะเป็นเมืองต่อเครื่องบินไปยังยุโรป แต่ดูไบมีมากกว่านั้น ที่น่าสนใจคือแต่ละแห่งต่างกันสุดขั้ว

ดูไบ เมืองสองขั้ว

หิมะ-ทะเลทราย-ชายทะเล

ดูไบมีพื้นที่ติดทะเลแต่ส่วนที่เป็นแผ่นดินคือทะเลทราย ทะเลทรายจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ถือว่าเป็นจุดขาย เรียกมันว่า Desert Safari

นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องซื้อโปรแกรมทัวร์แบบครึ่งวันช่วงเย็น เวลาประมาณ 15.30 น. จะมีรถโฟว์วีลมารอรับหน้าโรงแรม ขับออกจากเมืองไปยังทะเลทราย45 นาที รถของทุกบริษัทจะพาทัวร์ทะเลทรายในเขตที่กำหนดไว้แล้วซึ่งมันกว้างใหญ่มาก หากวันนั้นมีทัวร์ 100 คัน ก็ยังเหลือพื้นที่ว่างมหาศาล

การขับรถบนทะเลทรายไม่ใช่เรื่องง่ายและคนขับก็ตั้งใจทำให้มันยากขึ้น ด้วยการเลี้ยวดริฟต์ ขึ้นยอดทรายแล้วทิ้งดิ่ง หรือเร่งสปีดจนรถลอย ยิ่งคนในรถตื่นเต้นมากเท่าไร คนขับก็ยิ่งผาดโผนมากเท่านั้น หลังจากนั่งตัวเกร็งราว 25 นาที รถจะพาไปส่งที่แคมป์ไซต์ซึ่งทำเลียนแบบที่พักของชนเผ่าเบดูอิน (Bedouin) คนพื้นเมืองที่ใช้ชีวิตอยู่กลางทะเลทรายอาหรับเบียนในแคมป์จะมีเวทีตรงกลาง ล้อมด้วยโต๊ะเตี้ยๆ และเบาะนั่ง ร้านค้า บุฟเฟ่ต์ไลน์ ส่วนด้านนอกมีอูฐให้ลองขี่ รถเอทีวีให้เช่า และเหยี่ยวให้ถ่ายรูป

ดูไบ เมืองสองขั้ว

อาหารและการแสดงจะเริ่มหลังพระอาทิตย์ตกดินประมาณ 18.30 น. สิ้นสุดที่ 19.30 น. ทั้งนี้ต้องหมายเหตุตัวโตๆ ว่า คุณภาพอาหาร บรรยากาศ และการบริการ จะแล้วแต่ราคาทัวร์ที่เสียไป เพราะหากซื้อทัวร์แบบแชร์กับบริษัทอื่นก็ต้องทำใจกับปริมาณคนในแคมป์ การต่อคิวรับอาหาร และรสชาติอาหารที่อาจไม่ประทับใจ แต่หากซื้อทัวร์แบบไพรเวต แน่นอนว่าทุกอย่างต้องดีกว่าตามราคาที่สูงขึ้น

นอกจากอูฐ ดูไบยังมีเพนกวิน ความแตกต่างกันสุดขั้วนี้อยู่ที่ สกี ดูไบ (Ski Dubai) หิมะในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในห้างมอลล์ ออฟ เดอะ เอมิเรตส์ (Mall of the Emirates) สถานที่ที่จะได้สัมผัสความหนาว -4 องศาเซลเซียส ใกล้ชิดกับเพนกวินสายพันธุ์คิงและเจนทู และได้เล่นสกีหิมะบนแผ่นดินทะเลทราย กิจกรรมใน สกี ดูไบ มีทั้งการสอนเล่นสกี นั่งกระเช้ากอดจูบเพนกวิน สไลเดอร์น้ำแข็ง และเล่นหิมะที่จะโปรยลงมาทุกเย็น ดูเป็นความต่างที่น่าเหลือเชื่อแต่มนุษย์สามารถสร้างขึ้นมาได้

ดูไบ เมืองสองขั้ว

แต่สำหรับคนที่ชอบกีฬากลางแจ้งอย่างกิจกรรมทางน้ำดูไบมี 6 หาด แต่มี 2 หาดที่เปิดเป็นหาดสาธารณะคือ ซันเซตบีช และ ไคท์บีช ทะเลมีลมดีที่เหมาะกับกีฬาไคท์เซิร์ฟวิ่ง และมีคลื่นไม่แรงเหมาะแก่การพายคายัคและเล่นแพดเดิลบอร์ดดิ้ง (paddleboarding) อีกทั้งมีสวนน้ำขนาดใหญ่ที่ อะควาเวนเจอร์ (Aquaventure) ในแอตแลนติสเดอะ ปาล์ม หรือ วายด์ วาดิ (Wild Wadi) ที่จูเมราห์ บีช เป็น2 อาณาจักรยิ่งใหญ่ที่ทำให้ลืมไปว่าดูไบเป็นเมืองร้อน

ห้าง-ตลาด

ฤดูร้อนที่ดูไบอุณหภูมิพุ่งถึง 50 องศาเซลเซียส (ก.ค.-ก.ย.) ช่วงนั้นไม่มีใครอยากอยู่นอกอาคาร นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมดูไบถึงมีห้างสรรพสินค้ามากถึง 95 แห่ง

หนึ่งในนั้นมีห้างที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือ ดูไบ มอลล์ ห้างที่เป็นมากกว่าห้างสรรพสินค้า เพราะมีทั้งอะควอเรียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก น้ำตก น้ำพุ ดูไบไดโนหรือโครงกระดูกไดโนเสาร์ของจริงที่ซื้อมาจัดแสดง คิดซาเนีย ร้านอาหารมากกว่า 200 ร้าน สินค้าแบรนด์เนม โรงหนังมากกว่า 20 โรงและมีทางเชื่อมไปยังตึกเบิร์จ คาลิฟา (Burj Khalifa) ที่ครองแชมป์ตึงที่สูงที่สุดในโลกขณะนี้

ดูไบ เมืองสองขั้ว

ดูไบ มอลล์ เป็นห้างที่มีคนไปเยือนมากที่สุดในโลกถึง 75 ล้านคน/ปี (จำนวนนี้นับทุกคนรวมคนไปซ้ำ) มากกว่าประชากรไทยทั้งประเทศ ลักษณะของห้างทุกแห่งไม่ได้จะขายของอย่างเดียว แต่ยังทำเป็นสถานที่พักผ่อนคล้ายเป็นสวนสาธารณะติดแอร์ให้เหมาะกับสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยด้านนอก

แต่ไม่ใช่ว่าจะเร่งสร้างห้างสรรพสินค้าอย่างเดียว ดูไบยังอนุรักษ์ตลาดเก่าหรือซูก (souk) ไว้ ทั้งตลาดเครื่องเทศและตลาดทองคำ สองย่านนี้อยู่ติดกันโดยตลาดเครื่องเทศจะเป็นซอยยิบย่อยเหมือนตลาดนัดจตุจักร ขายเครื่องเทศ ไม้หอม ผงกะหรี่ ทั้งย่านขายของเหมือนกันส่งกลิ่นความเป็นอาหรับอบอวล ห่างไปไม่กี่ก้าวเป็นตรอกขายทอง มีทองหลายเกรดหลายเค เปิดร้านขายแบบไม่กลัวโจร มีให้เลือกตั้งแต่สร้อย แหวน กำไล มงกุฎ ไปจนถึงเสื้อชั้นใน เหลืองอร่ามเต็มตู้โชว์สมกับเป็นเมืองทองคำของโลก

ดูไบ เมืองสองขั้ว

ตึกระฟ้า-บ้านยิปซัม

ดูไบโชคดีที่ค้นพบทองคำและน้ำมันซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติสูงค่า จึงทำให้เมืองเติบโตไวทั้งที่มีประวัติศาสตร์แค่ยุค 1800 จากผืนทะเลทรายว่างเปล่า แต่มนุษย์และเทคโนโลยีสามารถสร้างตึกระฟ้าทำลายสถิติของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า จนตอนนี้สามารถทำลายสถิติโลกกับตึกที่สูงที่สุดโลกชื่อ เบิร์จ คาลิฟา (Burj Khalifa) ความสูง 828 ม. เปิดอย่างเป็นทางการปี 2010

นักท่องเที่ยวต้องซื้อตั๋วขึ้นตึกเบิร์จ คาลิฟา ล่วงหน้า โดยจะเปิดให้ขึ้น 3 รอบ คือ เช้า-13.30 น. ราคา 125 AED14.00-17.30 น. ราคา 200 AED และ 18.00-ค่ำ ราคา 125AED ช่วงเวลาที่สวยที่สุดคือ 17.30 น. เพราะเป็นช่วงที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดินซึ่งทั้งเมืองจะอาบด้วยสีส้มนวลจุดชมวิวตั้งอยู่ชั้นที่ 124 ทั้งชั้นเป็นกระจกใสรอบ 360 องศามีส่วนระเบียงกลางแจ้งยื่นออกไปให้ชมวิวด้วยตาจริง และสามารถอยู่บนนั้นได้แบบไม่จำกัดเวลาเรียกว่า ถ่ายรูปให้เต็มอิ่มทุกมุมทุกองศาให้หนำใจแล้วค่อยลงมา

ดูไบ เมืองสองขั้ว

เบิร์จ คาลิฟา คือ ดูไบยุคใหม่ แต่ถ้ายุคบุกเบิกต้องยกให้ตึก เบิร์จ อัล อาหรับ (Burj Al Arab) ตึกทรงเรือใบที่เป็นสัญลักษณ์ตั้งแต่ปี 1999 ตั้งอยู่บนพื้นที่ถมใหม่ เปิดเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวบวก ซึ่งภายในตกแต่งและใช้สีสันฉูดฉาดสะท้อนรสนิยมของชาวอาหรับ หรูหราอร่ามเรืองด้วยสีทอง (สมัยนี้ต้องใช้คำว่า เว่อร์วัง) ซึ่งขณะนี้ถูกทัวร์จีนบุกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่ก่อนที่ดูไบจะนิยมสร้างตึกสูง เดิมทีก็เคยอาศัยอยู่ในบ้านติดดิน มีการสร้างจำลองไว้ที่เขตประวัติศาสตร์ อัล ฟาฮิดี (Al Fahidi) เป็นบ้านสไตล์อาหรับเบียน สร้างขึ้นจากยิปซัม แต่ละหลังสร้างใกล้กันเพื่อให้ร่มเงาแก่กัน และบนหลังคามีช่องลมเพื่อระบายอากาศและทำความเย็นให้ตัวบ้าน ในเขตนี้มีทั้งพิพิธภัณฑ์ แกลเลอรี่ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และเกสต์เฮาส์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวศิลปะและวัฒนธรรมซึ่งเป็นอีกด้านหนึ่งของเมืองดูไบ

ดูไบ เมืองสองขั้ว

ประวัติศาสตร์ของดูไบมีให้ศึกษาอย่างลึกซึ้งที่ ดูไบ มิวเซียม พิพิธภัณฑ์ที่สร้างในป้อมปราการอัล ฟาฮิดี (Al Fahidi Fort) อายุ 228 ปี มีจัดแสดงเรือประมงโบราณสมัยที่ชาวดูไบมีอาชีพจับปลาและหาไข่มุก และห้องนิทรรศการแสดงวิวัฒนาการของดูไบตั้งแต่ยังเป็นเมืองทะเลทรายจนกลายเป็นเมืองเศรษฐกิจของโลก อันที่จริงนักท่องเที่ยวควรเริ่มโปรแกรมที่ดูไบ มิวเซียม เพื่อจะได้เห็นภาพใหญ่ พอได้ไปแหล่งท่องเที่ยวจะได้เข้าใจมากกว่าแค่ไปดู

หิมะ-ทะเลทราย ห้างหรู-ตลาด ความทันสมัย-ดั้งเดิม สิ่งเหล่านี้คือความแตกต่างที่น่าสนใจ ไม่ใช่ว่าไม่เข้ากัน แต่มันคือสองขั้วตรงกันข้าม เติมเต็มอีกส่วนที่ดูไบไม่มี

ดูไบ เมืองสองขั้ว

 

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา