ฮิลารี-เดริค โฉมงามกับเจ้าชายบรอดเวย์

โดย...นกขุนทอง ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพาณิช

นานทีปีหนที่เมืองไทยจะได้รับชมการแสดงละครเวทีระดับบรอดเวย์ คราวนี้ถึงเวลาของ “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” (Beauty And The Beast) นับเป็น 2 ทศวรรษ ที่ละครเวทีชื่อดังที่สร้างขึ้นจากภาพยนตร์การ์ตูนดิสนีย์โลดแล่นบนเวทีของละครบรอดเวย์

สำหรับการแสดงที่เมืองไทย เป็นโปรดักชั่นของ “ดิสนีย์ เธียทริคอลโปรดักชั่นส์” “เน็ตเวิร์กส์” “บรอดเวย์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป” โดย “บีอีซี-เทโร” “ซีเนริโอ” และผู้สนับสนุนในประเทศไทย เป็นผู้นำมิวสิเคิลระดับโลกมาเปิดการแสดงเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทย

วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ 2 นักแสดงนำ 
“ฮิลารี ไมเบอเจอร์” ที่สวมบทบาทสาวงาม “เบลล์” เป็นเวลา 2 ปีแล้ว โดยตัวละครนี้เป็นความหลงใหลของเธอมาตั้งแต่ยังเด็ก

“ดีใจที่ได้รับบทนี้ เพราะตั้งใจมาก เป็นบทที่ใฝ่ฝันอยากเล่น เมื่อสมัยอายุ 16 ฉันยังเป็นวัยรุ่นที่หลงทาง ไม่รู้ตัวเองอยากเป็นอะไร ทำอะไรในอนาคต แต่มีแพสชั่นแรงกล้าที่จะทำอะไรสักอย่างหนึ่ง คือ อยากออกไปผจญภัย คือเป็นสิ่งที่มีอยู่ มีความดื้ออยู่นิดๆ ซึ่งใกล้เคียงกับเบลล์ มันทำให้ฉันมีพลังที่จะส่งอารมณ์ออกไป”

อีกหนึ่งนักแสดงคนสำคัญคือ “เดริค พีด” เจ้าของบทบาท “เจ้าชายอสูร” นักแสดงหนุ่มเอานิ้วจิ้มไปที่หน้าของตัวเองพร้อมบอกว่า “ผมไม่เหมือนเลย (หัวเราะ) แต่มีความใกล้เคียงกับตัวละครตรงที่มีประสบการณ์ไม่ดีเกี่ยวกับความรัก เมื่อก่อนผมคงไม่ใช่คนที่น่ารัก ไม่ค่อยถูกรัก รักใครเขาก็ไม่รักตอบ จากนั้นมาผมก็พัฒนาตัวเองขึ้นมา จนมีคนมารัก ได้รับความรัก ทำให้ผมได้รู้จักความรัก และรักคนอื่นเป็น การพัฒนาของตัวเจ้าชายก็เหมือนกับผม ค่อยเข้าใจความรัก ความรักทำให้เขาทำอะไรก็ได้ที่ยิ่งใหญ่ได้ ผมก็เป็นแบบนั้น”

ปกติการจับคู่พระนางจะมีการแคสติ้งเพื่อดูเคมีของนักแสดงว่าเข้ากันไหม แต่การโคจรมาคู่กันของ “ฮิลารี” และ “เดริค” กลับไม่เป็นเช่นนั้น ต่างคนต่างมาแคสติ้ง หากลงตัวกันอย่างเหลือเชื่อ

“ผมมีความมุ่งมั่นอย่างสูงที่จะเข้าสู่การแสดงระดับบรอดเวย์ และโชคดีมากที่ได้รับการคัดเลือก เพียงมาแค่ 2 ครั้ง แน่นอนว่าเรื่องของความ
โชคดีแล้ว เป็นเรื่องของการมาถูกที่ ถูกเวลา จังหวะ ผมทำงานหนัก ฝึกฝนอย่างหนักมานาน ให้ความทุ่มเท จริงๆ แล้วผมผ่านการปฏิเสธมาเยอะ มาถึงตรงนี้ได้ ประหลาดใจเหมือนกัน มันเร็ว เหมือนเป็น
โชคชะตา” เดริค บอก

ขณะที่ ฮิลารี ผู้ถูกปฏิเสธมาหลายครั้งก็เชื่อเสมอมาว่า “เวลาที่ถูกปฏิเสธจะไม่เก็บมาว่าเราไม่ดีพอ เหมือนบทที่่ไปแคสอาจไม่ใช่บทที่เหมาะสมกับเรา ใช้ความอดทน เข้าใจ ปรับทัศนคติว่าไม่ใช่เรื่องส่วนตัว” เดริคเสริมว่า “เห็นด้วย ใช้เวลานานกว่าจะปรับทัศนคติได้ว่า ทุกคนสำคัญเท่ากัน เราเองก็สำคัญ เก่งเหมือนกันทุกคน เพียงแต่ช่วงเวลานั้นจะใช้เราหรือไม่”

750 รอบการแสดงทั่วโลก ภายในระยะเวลา 2 ปี ทำให้ 2 นักแสดงนำผูกพันกับตัวละครและทีมงานมาก บอกว่า มันคืองานที่วิเศษ แต่ก็ต้องแลกกับอะไรหลายอย่าง เช่นที่ ฮิลารี บอก “เล่นละครเพลงยอมรับว่ายาก นอกจากฝึกเสียงมาถึง 17 ปีแล้วและก็ยังไม่หยุด มีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกตลอดเวลา ไม่ได้คิดว่าตัวเองสมบูรณ์แล้ว การไปทัวร์ที่ต่างๆ ต้องห่างจากครอบครัว เป็นเรื่องที่ยาก คนอาจมองว่าทัวร์ทั่วโลกดี ได้เที่ยว แต่ฉันต้องอดทนที่อยู่ไกลจากครอบครัว เล่นมา 750 รอบ ไม่เคยเบื่อ รู้สึกว่า คืองานที่ดีที่สุดในโลกที่สามารถทำได้ โอกาสแบบนี้ไม่ได้มาบ่อยๆ การสร้างความประทับใจให้คนไม่สามารถทำได้ทุกวัน แต่นี้ฉันสามารถทำได้ทุกวัน เป็นเรื่องที่มีแรงพลังในการแสดงตลอดเวลา”

สำหรับ เดริค เพื่อให้การแสดงออกมาดีที่สุด “ต้องดูแลตัวเอง ร่างกาย จิตใจ พักผ่อน ผมนึกเสมอว่า การขึ้นเวทีนี้มีคนดูโชว์ครั้งแรกต้องทำให้เขาประทับใจที่สุด เขาอาจกลับมาดูอีก หรือบางคนอาจดูโชว์ครั้งสุดท้าย ต้องทำมากที่สุด ต้องมีความรับผิดชอบต่อคนดู เล่นทุ่มเทเต็มที่ และมีการปรับปรุงทุกวัน เมื่อก่อนผมยืนหน้ากระจกร้องเพลงไปเรื่อยๆ ไม่มีใครปรบมือให้ แต่ตอนนี้ร้องไปมีคนปรบมือ มีคนดู ได้เงินอีก ชื่นใจที่ได้ทำในนี้”

ทั้งคู่มาเยือนเมืองไทยเป็นครั้งแรก และตื่นเต้นที่มีโอกาสจะได้ทำการแสดงที่ไทย เพราะอยากสัมผัสบรรยากาศความรู้สึกของคนไทย หลังจากที่ไปแสดงที่อื่นๆ มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นประเทศอิตาลี ที่คนดูนั่งชมกันเงียบกริบอย่างตั้งใจ แต่พอการแสดงเสร็จสิ้นเสียงปรบมือดังยาวต่อเนื่องหลายนาที หรือที่สหรัฐอเมริกาที่ผู้ชมดูไปหัวเราะไป

ฮิลารี-เดริค กำลังรอสัมผัสบรรยากาศจากผู้ชมคนไทยในละครบรอดเวย์ โฉมงามกับเจ้าชายอสูร ที่จะมาเปิดการแสดง ณ โรงละครเมืองไทยรัชดาลัย ระหว่างวันที่ 24 ก.พ.–15 มี.ค.นี้