เวิร์กช็อปหนังสั้น ความท้าทายของเด็กรุ่นใหม่

โดย...พี่โย

ว่ากันว่าเล่าเรื่องยาวจนจบนั้นง่ายกว่าเล่าสั้นๆ แต่ให้ครบ นี่คือโจทย์ความท้าทายสำหรับผู้กำกับหนังสั้นเลือดใหม่ทุกคน ภายในงานเวิร์กช็อปของงานประกวดหนังสั้นโฆษณาของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มี 5 ผู้กำกับมาเป็นวิทยากรพิเศษร่วมถ่ายทอดเทคนิคการทำหนังสั้นโฆษณาให้โดนใจ อย่าง ศิวโรจณ์ คงสกุล, ม.ร.ว.อัมพรพล ยุคล, ราสิเกติ์ สุขกาล, ปรีเทพ บุญเดช และลี ชาตะเมธีกุล

ศิวโรจน์ อธิบายเรื่อง “หนังสั้น” คือหนังที่มีความยาวไม่เกิน 30 นาทีด้วยข้อกำหนดของเรื่องเวลา จึงทำให้ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเนื้อเรื่องหรือการดำเนินเรื่องจึงไม่เน้นที่มีเหตุการณ์ซับซ้อนเพื่อที่จะให้คนดูเข้าใจและให้เหมาะสมกับเวลา จุดเริ่มของหนังสั้นในไทยเริ่มขึ้นมาเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว โดยในขณะนั้นคนที่เรียนทางด้านภาพยนตร์ในปีสุดท้าย จะต้องทำงาน ไฟนอล โปรเจกต์ ส่งเพื่อจะจบการศึกษา ซึ่งงานที่นักศึกษาจะต้องส่งก็คือ หนังสั้น เพราะว่าไม่มีทุนที่จะไปลงทุนทำหนังใหญ่และหนังยาว และพอทำเสร็จก็จะมีการจัดฉายขึ้นภายในสถาบันของตัวเองด้วย

จากนั้นมาไม่นานเมื่อประมาณ 19 ปีที่แล้ว หนังสั้นก็เริ่มเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น จากงานประกวดหนังสั้น จากนั้นมาตลาดของหนังสั้นนั้นก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะด้วยการที่ไม่ต้องใช้ทุนเยอะมีอิสระในการคิดที่จะทำ แค่มีกล้องตัวเดียวเราก็สามารถทำหนังขึ้นมาตามความคิดของคนทำได้แล้ว

ส่วนภาพยนตร์โฆษณา คือ การโฆษณาในโรงภาพยนตร์ เพื่อสื่อถึงสินค้า และเมื่อเราจะนำมาทั้ง 2 มารวมเป็น “หนังสั้นโฆษณา” จึงถือเป็นบันไดอีกขั้นของคนที่ทำหนังสั้น ภาพยนตร์สั้น มาก่อน เพียงแต่ใช้เทคนิคมากขึ้นเพื่อสื่อสารให้กับตัวสินค้ามากขึ้น ซึ่งการสื่อสารนั้นหลีกเลี่ยงที่จะใช้รูปแบบเดิมๆ ทำให้มีมิติมากขึ้น ไม่รู้สึกว่าเป็นการยัดเยียด เป็นการนำเสนอที่ทำให้ผู้รับสารรู้สึกร่วมกันไป โดยท้ายที่สุดเขาต้องรู้สึกดีกับสินค้า ต้องตีโจทย์ให้แตกและรู้สึกดีกับโปรเจกต์นั้นๆ

ม.ร.ว.อัมพรพล เสริมคำว่าเทคนิคนั้นไม่ได้แปลเป็นเรื่องกลไก ภาพ แสง เสียง หรือการตัดต่อ น้ำหนักของหนังสั้นโฆษณาอยู่ที่การนำเสนอมากกว่า ส่วนแนวคิดนั้นต้องคิดให้แตก ให้ตกผลึกเสียก่อน ดูว่าเราจะบอกเรื่องอะไรกับผู้ชม เล่าออกมาอย่างซื่อสัตย์ คิดยังไง เล่าอย่างนั้น

สิ่งที่จะช่วยได้คือการทำสมาธิ ต้องหัดทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้สำเร็จ คิดไปให้ทะลุตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วฝึกพูด เล่า เขียน ให้ออกมากระชับได้ใจความ แค่นั้นพอไม่ต้องคิดไปไกลถึงว่าจะต้องประทับใจคนดูอย่างไร

ศิวโรจน์ ทิ้งท้ายในงานนี้ว่า หนังสั้นโฆษณา ทำง่ายแต่เกิดยาก ด้วยเงื่อนไขของเวลาที่เราจะต้องสื่อสารออกมาให้ชัดที่สุด ตรงที่สุด และกระแทกใจที่สุด เหมือนคุณมีเวลาฮุกแค่หมัดเดียว ถ้าไม่โดน คือไม่เกิด ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดของการทำหนังสั้นโฆษณา คือ แนวคิด ที่ต้องคิดให้ตกผลึกก่อนว่าจะสื่อสารอะไร บอกอะไรกับคนดู และเล่ายังไงให้คม ให้คนรู้สึกไปกับมัน ฉะนั้นจะครั้งไหนๆ ในการอบรมทุกครั้ง สิ่งที่คนเบื้องหลังอยากใส่มากที่สุด ไม่ใช่เรื่องวิชาการ แต่เป็นแนวคิด ซึ่งเป็นของที่อยู่ในตัวแต่ละคน

สำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับหนังสั้นโฆษณาสามารถเข้าเว็บไซต์ชมผลงานตัวอย่างของนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงติดตามความเคลื่อนไหวในปีต่อไปได้ที่ www.thesangsom.com/shortfilm