Chocolate Stout Cake
เปิดศักราชใหม่ ครบรอบ 12 ปีหนังสือพิมพ์ Post Today พร้อมเปิดคอลัมน์ใหม่ไฉไลกว่าเดิม
โดย..สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studio
เปิดศักราชใหม่ ครบรอบ 12 ปีหนังสือพิมพ์ Post Today พร้อมเปิดคอลัมน์ใหม่ไฉไลกว่าเดิมจากโจทย์ที่พี่อุ๋ย บรรณาธิการของเรา อยากให้ผู้เขียนนำเสนออาหารที่ไม่ยากจนท้อใจ บางครั้งสูตรในแต่ละฉบับอาจจะแปลกใจที่ในตู้เย็นเรามีของครบอยู่แล้ว เรียกว่า เปิดตู้ทำกับข้าวตามได้เลย หรือในบางฉบับอาจใช้ “ของเหลือกิน” จากมื้ออื่นๆ มาทำกับข้าวจานใหม่ ประยุกต์จากวัตถุดิบที่มีอยู่แล้ว เรียกว่าถือหนังสือพิมพ์เข้าครัวไปทำกับข้าวได้เลย
ฉบับแรก ผู้เขียนอยากถือโอกาสมอบสูตรเค้กที่ง่ายและอร่อยที่สุดให้คุณผู้อ่านเป็นปฐมฤกษ์ หลายๆ ครั้งที่บ้านมีงานปาร์ตี้แบบผู้ใหญ่ๆ มีเบียร์เหลือก้นขวด ขวดละนิดขวดละหน่อย ถ้าเทรวมๆ กันอาจจะได้เป็นแก้วเล็กๆ จะดื่มเลยก็อาจมึน จะทิ้งก็เสียดาย สำหรับเค้กในฉบับนี้ จึงแนะนำให้เอาเบียร์เหลือๆ ใส่ตู้เย็นไว้ รุ่งขึ้นเก็บไว้ทำเค้กสูตรนี้ได้เลย
เดี๋ยวคุณผู้อ่านจะต่อว่า ขึ้นชื่อว่า “เค้ก” ใครว่าง่าย ปกติเค้กทั่วๆ ไป ขั้นตอนเยอะยุ่งยาก สูตรเค้กนี้ง่ายจริงๆ เพราะแค่มีเตาอบเล็กๆ สักตัว ชามสัก 2 ใบ ส้อม 2 คัน และพิมพ์เค้ก สามารถทำสูตรนี้ได้ไม่ยุ่งยาก ไม่มีเครื่องมือพิเศษอื่นใด
เค้กง่ายๆ อาจกลัวว่าไม่อร่อย กล้ารับประกันว่าความง่ายของสูตรเค้กช็อกโกแลตเบียร์ อร่อยสูสีเค้กร้านดังๆ เนื้อเค้กรสชาติไม่หวานนัก มีกลิ่นหอมๆ ของช็อกโกแลตและเบียร์หน่อยๆ เติมแต่งหน้าด้วยครีมชีส Butter Beer Caramel ที่ผู้เขียนจินตนาการมาจากรสชาติของ Butter Beer ใน Harry Potter พยายามมั่วสูตรขึ้นมาอย่างใช้ความรู้จนได้รสชาติที่สมาชิกชิมแล้วคอนเฟิร์มว่าสามารถตีพิมพ์ได้ ส่วนผสมง่ายมากๆ เพราะเริ่มจากคาราเมลทำเอง เทเป็นสายผสมกับครีมชีสที่คนเร็วๆ ให้นุ่มนิ่มที่อุณหภูมิห้อง
จริงๆ แล้วสูตรเค้กนี้ เป็นสูตร Stout Cake ที่ใช้เบียร์ดำตามต้นตำรับ แน่นอนว่า ถ้าใช้เบียร์ดำจะได้ความหอมที่เรียกว่า “Buttery” แบบหอมหวานกว่าสักหน่อย เพราะกรรมวิธีการทำเริ่มจากการคั่วเมล็ดบาร์เลย์ และข้าวมอลต์ที่งอกเล็กน้อย จึงได้สีสวยและกลิ่นหอมๆ หากเป็นเบียร์ชนิดอื่นๆ แล้ว อาจไม่ได้รสชาติที่หอมอร่อยเท่าต้นตำรับ แต่ถือว่าไม่ได้ทำให้เสียอรรถรสของเค้กช็อกโกแลตไป จึงเป็นที่มาให้ผู้เขียนนำสูตรมาประยุกต์เป็นการใช้เบียร์เหลือๆ จากงานปาร์ตี้ แต่ถ้าใครไม่เหลือเบียร์ไว้ทำขนม แนะนำว่าหาซื้อเบียร์ดำยี่ห้อที่ชอบมาได้เลย จะได้รสเป๊ะ
สูตรเค้กที่มีวิธีทำง่ายๆ มีเคล็ดลับนิดหน่อยตรงที่สัดส่วนของส่วนผสมวัตถุดิบต่างๆ สำคัญมาก อุณหภูมิของวัตถุดิบอย่างไข่ไก่ เนย และซาวครีมต้องพอดีกัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดการเป็นไข แยกตัวและทำให้เค้กเนื้อร่วน ไม่อร่อย
สำหรับวิธีเก็บเค้กชนิดนี้ หากเก็บในตู้เย็นจะมีเนื้อแน่นแข็งจากส่วนผสมเนย แต่ครีมชีสด้านบนต้องอาศัยความเย็นในการเก็บรักษา ไม่เช่นนั้นคงจะบูดไปเสียก่อน ดังนั้นต้องเก็บในตู้เย็น แล้วเวลารับประทานควรนำออกมาพักไว้สักหน่อย เพื่อให้คลายความเย็นลง ถ้าก้อนเล็กๆ อาจใช้เวลาสัก 15-20 นาที หากเค้กชิ้นใหญ่ๆ จะใช้เวลานานขึ้นไปกว่านั้น
สำหรับสูตรนี้ ผู้เขียนใช้ผงโกโก้สไตล์ยุโรปที่ผ่านกระบวนการเติมด่างให้เป็นกลางขึ้นมาหน่อย เลือกเป็นชนิดที่มีสีเข้มกว่าสูตรปกติ จึงได้สีดำสนิทแบบในภาพ ซึ่งไม่มีผลนักกับรสชาติของมัน
Cookool Stout Cake
ขนาดพิมพ์ 3 ปอนด์ จำนวน 1 พิมพ์
เบียร์ดำ 250 กรัม
เนยจืด 227 กรัม
ผงโกโก้ 75 กรัม
น้ำตาลทราย 200 กรัม
น้ำตาลทรายแดง 200 กรัม
แป้งอเนกประสงค์ 275 กรัม
เบกกิ้งโซดา 2 1/2 ช้อนชา
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
ซาวครีม 1 กระปุก (150กรัม)
ไข่ไก่ 2 ฟอง
วานิลลา 1 ช้อนชา
• เตรียมพิมพ์ที่ทาเนยจนทั่วและร่อนแป้ง เคาะให้แป้งพอติด
• อุ่นเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 180°C
• อุ่นเบียร์ดำให้ร้อน ไม่ถึงกับเดือด เติมเนยจืดลงไป คนให้ละลาย พักไว้ให้เย็นลงเท่าอุณหภูมิห้อง
• ผสมผงโกโก้ น้ำตาลทั้งสองชนิด แป้งอเนกประสงค์ และผงโซดา ร่อนใส่ชามแล้วพักไว้
• ในชามอีกใบ ตีไข่ไก่ให้เป็นฟอง เติมซาวครีมลงไปทีละน้อยๆ จนเนียนเข้ากัน (ส่วนผสมซาวครีมและไข่ไก่ต้องไม่เย็นเด็ดขาดเลยค่ะ ไม่เช่นนั้นจะทำให้เนยเป็นไขจากความเย็น)
• เทส่วนผสมไข่ไก่ลงในส่วนผสมเนยและเบียร์ดำ คนให้เข้ากัน เติมวานิลลาลงไป
• เทส่วนผสมของเหลว ลงในแป้ง คนให้เนียนเข้ากัน เทส่วนผสมลงพิมพ์ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180°C ที่ตั้งไว้สำหรับพิมพ์ ขนาด 3 ปอนด์ ใช้เวลา 40-45 นาที หรือจนใช้ไม้จิ้มลงไปแล้วไม่มีแป้งเค้กเหลวติดขึ้นมา
• พักไว้บนตะแกรงจนอุ่นๆ แล้วคว่ำพักต่อให้เย็นสนิทก่อนถอดออกจากพิมพ์
Butter Beer Caramel Frosting
น้ำตาลทราย 250 กรัม
น้ำสะอาด 100 กรัม
วิปครีม 150 กรัม
นมข้นหวาน 100 กรัม
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
เนยจืด เย็นจัด 125 กรัม
ครีมชีส 2 ก้อน
• ในหม้อเนื้อหนาๆ แนะนำเป็นหม้อสเตนเลส ผสมน้ำตาลทรายและน้ำสะอาด ตั้งไฟประมาณ 8 นาทีที่ไฟกลาง น้ำตาลจะเริ่มเปลี่ยนสีเป็นคาราเมล หรี่ไฟอ่อนจนน้ำเชื่อมในหม้อกลายเป็นสีน้ำตาลอำพัน
• เติมวิปครีมลงไป พร้อมนมข้นหวานและเกลือป่น เคี่ยวต่อที่ไฟอ่อนประมาณ 5 นาที
• ยกลงจากเตา เติมเนยจืดเย็นจัดๆ ลงไปทีละน้อย คนไปเรื่อยๆ จนหมดส่วนผสมจะเย็นตัวลง คนต่อไปให้เย็นสนิท แบ่งคาราเมลเป็น 3 ส่วน ใช้ 2/3ส่วน สำหรับเติมลงครีมชีส และอีก 1/3 ส่วน สำหรับเผื่อไว้ราดหน้า
• ตีหรือคนครีมชีสให้นุ่ม เติมคาราเมลลงไปผสมจนได้เป็นครีมนุ่มๆ แต่งหน้าเค้กได้เมื่อเค้กเย็นตัวลง


