‘คลื่นลูกใหม่’

โดย...ปอย & เดอะ แก๊ง

คนรุ่นใหม่น่าจับตาปีแพะทองคำ ทั้งภาคนักธุรกิจหนุ่มสาวยังบลัด ดารานักแสดง พระเอก-นางเอกน้องใหม่หน้าแฉล้มที่คาดว่าน่าจะมีงานชุกเป็นขวัญใจคอละครครองหน้าจอในปีนี้ และที่ขาดไม่ได้สำหรับวินาทีนี้ก็คือนักฟุตบอลทีมช้างศึกที่กำลังเป็นที่คลั่งไคล้ของพี่น้องชาวไทย ใครๆ ก็อยากรู้จัก “เมสซีเจ” มี 10 คำถามที่สาวเอฟซีทีมชาติไทยฝากคำถามมาถึงเขา

มาทำความรู้จักกับคลื่นลูกใหม่มาแรงของปี 2558 พวกเขาและเธอมีแผนที่ชีวิตจะสร้างปรากฏการณ์อะไรกันบ้างในปีนี้

‘พายหมูแดงร้อยล้าน’

จากแม่ค้าตลาดนัดขายเบเกอรี่ชิ้นละ 10 บาท วันนี้ ณธนพร เอื้อวันทนาคูณ คือเจ้าของพายหมูแดงสูตรฮ่องกง April’s Bakery กว่าจะได้มาอยู่ในจุดขายดิบขายดี ชีวิตนักธุรกิจมีจุดผกผัน เริ่มจากตามความฝันตามประสาหญิงสาวหน้าตาดีไปเป็นแอร์โฮสเตสอยู่ 2 ปีเต็ม ผันตัวลาออกมาเปิดร้านกาแฟเจ๊งไม่เป็นท่า ก่อนจะตามฝันครั้งใหม่กับธุรกิจเบเกอรี่สูตรพายหมูแดงชื่อดังจากโรงแรมแชงกรี-ลา ฮ่องกง นำมาปรุงสูตรใหม่ให้ได้รสชาติพายหมูแดงชื่อแบรนด์ “เอพริล เบเกอรี่” กระจายไปตามตู้ขนม 50 สาขา

“ตอนนี้พายมี 19 ไส้ค่ะ เทรนด์คลีนฟู้ดก็เพิ่มไส้มันม่วง-ฟักทองญี่ปุ่น พุทราจีน ขนมทุกชิ้นดิฉันคิดสูตรเองค่ะ อย่างไส้มันม่วงไม่ใส่น้ำตาลเลยเพราะรสชาติมีความหวานอยู่ในตัวแล้ว ก็ชื่นใจลูกค้าต่อแถวยาวมากๆ ซื้อขนมเราที่พารากอน แต่ก่อนขายตลาดนัดวันละ 2,000-3,000 บาทก็น้ำตาไหลแล้ว ไม่เคยคิดค่ะว่ายอดขายปีที่ผ่านมาจะวิ่งไปกว่า 100 ล้านบาท”

ก้าวต่อไปคือวางแผนธุรกิจไปเปิดเออีซี เริ่มที่สิงคโปร์ เอพริล เบเกอรี่ เคยไปเปิดตัวที่งานฟู้ดแฟร์ซึ่งผลตอบรับดีมาก มี.ค.นี้ ไปเปิดตัวฟู้ดแฟร์ที่ฮ่องกงเพื่อดูตลาด จีนเป็นประเทศต่อไป ส่วนในเมืองไทยกระจายตัวไปตามจังหวัดใหญ่ๆ ก่อน

ในวัย 31 ปี ณธนพร บอกว่า กว่าจะมาถึงจุดนี้ก็ล้มและลุกมาหลายครั้ง เจออุปสรรคใหญ่ทั้งผิดหวังกับอาชีพแอร์โฮสเตสที่ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด ทำร้านกาแฟเจ๊ง ตอนเปิดร้านขนมพายใหม่ๆ ไม่ได้ดูบัญชีเองก็โดนโกงไปกว่า 2 ล้านบาท จนทุกวันนี้คุมธุรกิจและพนักงานกว่าร้อยคนด้วยตัวเอง เพียงขอให้มีกำลังใจฮึดสู้ว่าจะต้องผ่านช่วงเวลาที่ย่ำแย่ให้ได้ ความสำเร็จก็รอตรงหน้าไม่ยาก และปีใหม่นี้มีการคืนกำไรให้ลูกค้ากับขนมตัวใหม่ พายสับปะรดสูตรไต้หวัน ในแบรนด์ใหม่ ชื่อ มณี พายไส้ชาเขียว ชื่อมรกต จากต้นทุนชิ้นละ 129 บาท ณธนพรบอกช่วงนี้ทดลองตลาดให้ลูกค้าได้ชิมชิ้นละ 59 บาทนำร่องไปก่อน

ก้าวข้ามดีไซเนอร์หน้าใหม่

“น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ ปกปิดแต่เปิดเผย” คือนิยามของหญิงสาวคาแรกเตอร์สาวเออร์บันมาดโก้หรูหรา สวมเสื้อผ้าแบรนด์ Patinya ของดีไซเนอร์ “กีตาร์” ปฏิญญา เกี่ยวข้อง ที่สามารถก้าวข้ามจากดีไซเนอร์หน้าใหม่ ได้รับเสียงปรบมือยอมรับอย่างงดงาม ในงาน ELLE Fashion Week 2014 Autumn/Winter ซึ่งเปิดรันเวย์ขึ้นที่เซ็นทรัลเวิลด์เมื่อปลายปีที่ผ่านมา

โชว์แอล แฟชั่น วีก ได้รับคำชมมาก ปฏิญญาบอกได้รับการตอบรับดีมากๆ ทำให้ตอนนี้มีลูกค้านอกจากกลุ่มคนไทยแล้วยังมีกลุ่มต่างชาติด้วย

“มีทั้งสิงคโปร์ อินโดนีเชีย ฮ่องกง เรียกว่าเวทีแอล แฟชั่น วีก เป็นการเปิดตลาดเอเชียให้กับตัวเองเลยค่ะ และปีนี้ 2015 กำลังจะส่งเสื้อผ้าไปขายที่สาขาอินโดนีเซีย ในห้าง Grand Indonesia อีกประเทศน่าจะที่สิงคโปร์เป็นลำดับต่อไปค่ะ สำหรับคอลเลกชั่นที่กำลังออก คือ Pre Spring 2015 ใช้ชื่อว่า Underneath the Calm ถือเป็นการมีลายพิมพ์ผ้าครั้งแรกของแบรนด์ปฏิญญา ที่มาของแรงบันดาลใจมาจากภาพถ่ายของคนพิเศษที่เขาถ่ายรูปภาพภูเขา Bromo ที่ประเทศอินโดนีเซีย เป็นภูเขาไฟที่ยังแอ็กทีฟ หลายคนเรียกภูเขาไฟนี้ว่า Sea of Sand ต้าร์เปรียบผู้หญิงเหมือนภูเขาไฟ ภายนอกที่ดูสงบนิ่งเงียบ แต่ในใจลึกๆ อาจจะมีอะไรเซอร์ไพรส์ได้ตลอดเวลา”

อาชีพดีไซเนอร์เมืองไทยอนาคตสดใส ปฏิญญาบอกถ้าทุ่มเท ตั้งใจ และใส่ใจทุกๆ รายละเอียด

“ธุรกิจแบรนด์ปฏิญญา ดูแลและรับผิดชอบปากท้องลูกน้องหลายสิบชีวิต สิ่งที่คุณต้องมีนอกจากรักการทำเสื้อผ้าอย่างที่ต้าร์รักมากๆ แล้ว ความใส่ใจทุกขั้นตอน การมีมุมมองบริหารจัดการแบรนด์คุณก็ห้ามมองข้ามเด็ดขาด เพราะเป็นการขับเคลื่อนแบรนด์ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต ไม่ใช่แค่คุณออกแบบสวย การตัดเย็บดีเท่านั้นนะคะ แต่การทำแบรนดิ้ง การบริหารจัดการดี การทำรายละเอียดออร์เดอร์และสต๊อกแมนเนจเมนต์ ทุกอย่างต้องไปด้วยกันทั้งหมดค่ะ”

แจ้งเกิดบนจอทีวี

ปีนี้ 2558 ชื่อของ “เต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์” จะแจ้งเกิดอีกครั้งหลังจากที่คนรู้จักเขาในละครคุณชายรัชชานนท์ เมื่อปี 2556 ผู้ชมจะได้เห็นฝีไม้ลายมือการแสดงของเขาชัดขึ้น ในละครฟอร์มยักษ์ของช่อง 3 แค่หน้าโปรแกรมก็ไม่ยากที่ชายหนุ่มคนนี้จะไต่บัลลังก์ซุป’ตาร์ เช่น “บางระจัน” “พันท้ายนรสิงห์” “กำไลมาศ” และ “แผนร้าย กุศโลบายรัก” ส่วนงานหนังก็มี “เลิฟ อีส” จากผลงานที่กำลังจะทยอยลงจอเงินจอแก้วให้ได้เห็น จะเป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่งของพระเอกดาวรุ่ง นอกจากเนื้องานแล้วนิสัยขี้เล่น เป็นกันเองกับแฟนคลับ มีสัมมาคารวะ ตรงต่อเวลา ตั้งใจทำงาน ทำให้เต้ยเป็นที่รักเอ็นดูของเหล่าทีมงาน ผู้กำกับและผู้จัด รวมถึงบรรดาแฟนคลับที่สมัครรักใคร่ตามติดกันมาตั้งแต่มีผลงานเพียงเรื่องเดียว

อีกหนึ่งดาวรุ่งฝ่ายหญิง ต้องยกให้นางเอกแก้มบุ๋ม “แพทริเซีย-ธัญชนก กู๊ด” นักแสดงเลือดใหม่ช่อง 3 ที่มีผลงานมาแล้ว 3 เรื่อง ไต่ระดับความดังเบียดรุ่นพี่ที่ดังพร้อมกันยกแก๊ง อย่าง ญาญ่า คิมเบอร์ลี่ มาร์กี้ มิ้นต์ ชาลิดา ขึ้นมาได้สำเร็จ ปีนี้มีผลงาน “ลมซ่อนรัก” และ “บ่วงอธิฏฐาน” ลงจอคู่กับ “ณเดชน์”  “หมาก ปริญ” ช่องให้ไฟเขียว ทั้งให้ผ่านและผลัก เพราะฝีไม้ลายมือทางการแสดงที่สร้างความนิยมไว้ดีจาก “มาลีเริงระบำ” ความน่ารักสดใส จัดว่าออร่าจับ

และปีนี้คือปีทองของสาวน้อยผิวสีแทน เมญ่า-นนทวรรณ ทองเหล็ง มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2014 และท็อป 11 (พีเพิลส์ ชอยส์ อวอร์ดส) มิสเวิลด์ 2014 มาปีนี้เชื่อว่าเส้นทางของเธอคนนี้ยิ่งไม่ธรรมดาเข้าไปใหญ่ในวงการบันเทิง เธอจะต้องก้าวไปสู่ซูเปอร์โมเดลภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว (จากปีที่แล้ว เธอถ่ายแบบลงนิตยสารชั้นนำมากมายหลายหัว) คาดว่าเมญ่าคงจะตามเก็บนิตยสารเล่มที่เหลือ และคงลุยเดินแบบอีกมากมายหลายแบรนด์ หลายเวที ที่สำคัญที่สุด บีอีซี-เทโร ต้นสังกัด เตรียมผลักดันเธอให้เอาดีทางด้านการร้องเพลง อาจร้องเพลงประกอบละครอีกหลายๆ เรื่อง

แถมยังมีอีกหลายกระแสจากแฟนนางงามที่อยากให้เมญ่าตัดสินใจลงประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เพื่อช่วงชิงมงกุฎและเป็นตัวแทนไปประกวดมิสยูนิเวิร์สในปลายปีนี้ เพราะด้วยศักยภาพของเมญ่าน่าจะมีสิทธิเข้ารอบลึกๆ ได้ไม่ยาก (อาจถึงรอบห้าคนสุดท้าย) และไม่แน่เมญ่าอาจมีโอกาสโกอินเตอร์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

แอ็กชั่นสตาร์หน้าหล่อ

สำหรับแฟนหนังสายบู๊คงอดทึ่งไม่ได้กับลีลาการต่อสู้ของ วุฒิ-นันทวุฒิ บุญรับทรัพย์ ในฉากบนหลังคารถไฟหรือซีนกระโดดตึก 4 ชั้น และฉากเสี่ยงตายที่เล่นจริงเจ็บจริงตามสไตล์การทำหนังของครูพันนา ปรมาจารย์นักบู๊มามากกว่า 10 ปี ซึ่งหลังจากภาพยนตร์เรื่อง “5 หัวใจฮีโร่” ล่าสุดหนุ่มหน้าหล่อกล้ามเต็มได้ฝากผลงานไว้ในบทบาท ธาร พระเอกนักบู๊ในหนังแอ็กชั่นบ้าระห่ำแห่งปีอย่าง “เร็วทะลุเร็ว” ที่เพิ่งเข้าฉายเมื่อต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา

ในเรื่องนี้ตัวเขาเองเรียกได้ว่าต้องเคี่ยวเข็ญร่างกายและจิตใจอย่างหนัก ฝึกฝนและเตรียมตัวอยู่แรมปี อย่างเช่นที่พระเอกนักบู๊วัย 22 ปี กล่าวไว้ว่า

“พอรู้ว่าจะได้เล่นหนังเรื่องนี้ ก็ต้องมีเตรียมตัวมากขึ้น ต้องมีการซ้อมเป็นหลายชั่วโมงต่อวัน ให้กล้ามเนื้อแข็งแกร่ง ถือว่าต้องซ้อมหนักกว่าตอนเล่นเรื่องที่แล้วมาก เพราะตอนนั้นยังเด็ก แต่เรื่องนี้เราโตขึ้นก็ต้องมีการฝึกเพิ่มการคล่องตัว เพิ่มความแข็งแรง ทั้งฟิตกล้ามเนื้อให้มันเข้าที่ คือร่างกายต้องพร้อมก่อน ถ้าร่างกายไม่พร้อมเวลาถ่ายมันก็จะเหนื่อย คือร่างกายต้องมาก่อน และที่อาพันนาเน้นเราอยู่เสมอคือเรื่องของอารมณ์ในการเล่นแอ็กชั่น เราเล่นแอ็กชั่นไม่ได้เล่นแค่เตะต่อย คือเราต้องใช้อารมณ์ข้างในออกมา เหมือนเราเล่นเป็นตัวละครอะไรเราก็ต้องสื่ออารมณ์ข้างในออกมาให้ดีที่สุด แล้วก็ใช้อารมณ์จากตรงนั้นจริงๆ ออกมาเป็นการต่อสู้ครับ”

เมื่อถูกถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ถูกเปรียบเทียบและคาดหวังให้เป็นแบบนักบู๊รุ่นพี่ก้าวไประดับอินเตอร์ คำตอบถ่อมตัวไม่เคยเอาตัวเองไปเปรียบกับใคร เพียงแต่แค่อยากทำในสิ่งที่รักและทำให้ดีที่สุดในทุกวัน “เป้าหมายข้างหน้าผมไม่ได้วางไว้สูงมาก คือเราอยากทำตรงนี้ให้มันดีมากกว่า เดี๋ยวอนาคตจะเป็นไงก็ช่างมัน” ซึ่งเชื่อแน่ว่าหลังจากที่เจ้าตัวกลับมาจากการลาอุปสมบทตั้งตนอยู่ในศีลในธรรม เราคงได้เห็นผลงานของพ่อหนุ่มคนนี้กันมากขึ้น

‘เมสซีเจ’ นักฟุตบอลอารมณ์ติสต์

ปี 2557 ที่ผ่านมาที่ว่าเป็นปีทองของนักเตะร่างเล็กแต่แกร่ง “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ เจ้าของส่วนสูง 158 ซม. น้ำหนัก 60 กก. ด้วยตำแหน่งตัวทำเกมหรือเพลย์เมกเกอร์ของทีมชาติไทย และสโมสรบีอีซี เทโรศาสน ทำผลงานทั้งปีได้โดดเด่นเกินหน้าเกินตาใครๆ ทั้งในระดับชาติคือได้แชมป์อาเซียนคัพ ได้ที่ 4 ฟุตบอลชายเอเชียน เกมส์ และเหรียญทองซีเกมส์ ส่วนในระดับสโมสรก็ได้แชมป์โตโยต้า ลีกคัพ รางวัลส่วนตัวก็ได้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมโตโยต้า ลีกคัพ กับผู้เล่นทรงคุณค่าของเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ

โดยมีการประเมินกันว่าเงินรายได้ที่ “เมสซีเจ” ได้รับทั้งเงินเดือนในฐานะนักเตะ เงินอัดฉีดและโบนัส รวมถึงเงินรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมทั้งสองทัวร์นาเมนต์น่าจะรวมกันถึง 5 ล้านบาท

ด้วยฟอร์มการเล่นที่พุ่งกระฉูดทำให้สโมสรชั้นนำของเจลีกในญี่ปุ่น ซึ่งเคยเชิญเมสซีเจไปทดสอบฝีเท้าคือ ชิมิสุ เอสพัลส์ ได้มีความสนใจจะยื่นข้อเสนอซื้อตัว รวมถึงสโมสรอื่นๆ ในเอเชีย ซึ่งทางบีอีซี เทโรศาสน ตั้งค่าตัวในการเซ็นสัญญาของนักเตะอนาคตไกลของอาเซียนคนนี้ไว้ที่ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 32 ล้านบาท หากมีการซื้อตัวเกิดขึ้น

เพราะฉะนั้นในปีหน้า เมสซีเจน่าจะไม่ค้าแข้งอยู่ในไทยพรีเมียร์ลีกค่อนข้างแน่ การออกไปหาประสบการณ์ในลีกต่างแดนน่าจะเป็นไปได้สูง เพราะเขาพิสูจน์ผลงานบรรเลงเพลงแข้งในระดับภูมิภาคอาเซียนและเอเชียให้เป็นที่ประจักษ์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าตลอดอายุการค้าแข้งที่จะมีไปถึงช่วงอายุ 30 ปีกลางๆ เขาน่าจะทำเงินได้ถึง 100 ล้านบาทอย่างแน่นอน ที่น่าสนใจเขายังไม่มีแฟน นิสัยดี ขี้เล่นอารมณ์ดี แม้จะมีหุ่นฉบับกระเป๋าก็ตาม แต่คมเข้มกะทัดรัดอยู่ในใจของสาวไทยใช่น้อย... (กรี๊ดดดดดด)

10 คำถามแฟนคลับ

(สาวๆ น้อยใหญ่) ขอฝากถาม ‘เมสซีเจ’

1.เรื่องแรกต้องคำถามนี้... มีแฟนหรือยัง (คะ????)

“ไม่มี แม่ดุ ผมเป็นลูกชายคนสุดท้องแม่หวงยังไม่อยากให้มีแฟน” เมสซีเจ หนุ่มวัย 21 ปี ตอบด้วยน้ำเสียงเหน่อนครปฐมน่ารักจริงจริ๊ง

2.หลังจากนี้ชีวิตจะเป็นอย่างไร

“ชีวิตต้องเปลี่ยนแปลง แต่นิสัยผมไม่มีทางเปลี่ยน” (ตอบน้ำเสียงมั่นใจ)3.ถ้าได้ไปเล่นลีกยุโรปคุณจะไปไหม“เอาเอเชียให้รอดก่อนเถอะครับ (ตอบน้ำเสียงเรียบๆ เหน่อๆ ตามเคย) ไม่มีใครรู้อนาคตหรอกครับ พี่ (คนถาม) ผมว่านะก็ไม่มีทางรู้หรอก” (อ้าว!!!)

4.คุณคิดว่าไทยลีกสามารถผลักดัน

ให้นักฟุตบอลไทยได้มีชื่อเสียงมากแค่ไหน“ลีกไทยวันนี้พัฒนาขึ้นได้ชัดที่กล้าใช้เด็กหน้าใหม่ แล้วนักกีฬารุ่นนี้ก็ชอบเรียนรู้จากนักฟุตบอลต่างชาติ ซึ่งผมว่าดีนะ”

5.ถ้าไม่เป็นนักบอลจะทำอาชีพอะไร

“รับราชการ อาจเป็นตำรวจ/ทหารอะไรทำนองนั้น”

6.เป้าหมายในชีวิตคืออะไร

“อยากไปค้าแข้งต่างประเทศ แต่ตอนนี้ไม่รู้หรอกครับว่าประเทศไหน เราไม่ได้ดู สโมสรดู”

7.อะไรที่ทำให้คุณเลือกเล่นฟุตบอล/นักฟุตบอลในดวงใจคุณคือใคร

“ผมมีความสุขที่วันนี้ได้เตะฟุตบอลส่วนนักฟุตบอลในดวงใจ คือ ดิเอโก้มาราโดนา ลิโอเนล เมสซี ซีเนอดีน ซีดานส่วนนักฟุตบอลไทย คือ ดัสกร ทองเหลารุ่นพี่คือแนวทางให้เราเรียนรู้ เราต้องมีรุ่นพี่ครับ”

8.ตัวตนของเมสซีเจเป็นอย่างไรที่

คนอื่นไม่รู้“ขี้หงุดหงิดง่าย ไม่ค่อยชอบความวุ่นวายอินดี้-ติสต์ ก็แล้วแต่สถานการณ์ด้วยนะ แต่ผมก็รู้ตัวรู้อารมณ์นะ ผมแปรปรวนง่ายด้วยแต่ไม่แก้ไขหรอกเพราะผมไม่เคยทำให้ใครเดือนร้อนนี่นา ไม่ได้ไปหงุดหงิดโมโหใส่ใคร โกรธง่ายหายเร็ว ถ้ามาถามว่าผมนิสัยดีอย่างไรตอบเองไม่ได้หรอกครับ แต่คนรอบข้างบอกว่าตรงไปตรงมา เป็นเด็กถ่อมตัวอ่อนน้อม”

9.ถ้าให้เลือกสถานที่เที่ยวในเมืองไทย

คุณอยากไปที่ไหน กับใคร เพราะอะไร“ไปกับครอบครัว ไปกินข้าว ไปวัดไหว้พระ เพิ่งไปเที่ยววัดไร่ขิงกับพ่อแม่ ที่อื่นก็ไม่รู้จะไปเที่ยวไหนนะ คนเยอะโดยเฉพาะช่วงเทศกาล”

10.ชอบกินอะไร/ชอบสีอะไรที่สุด

“ข้าวกะเพราะหมูไข่ดาว ชอบสีชมพู-สีดำ ทำไมล่ะผู้ชายชอบสีชมพูไม่ได้หรือจะได้ไม่เหมือนใครไง (?!!!) ผมไม่ได้คิขุนะแต่แฟนคลับชอบซื้อตุ๊กตาให้ตอนนี้ไม่มีที่เก็บแล้ว ผมจะเอาไปบริจาคเด็กๆ กำพร้าแล้วนะครับ ฝากบอกแฟนๆ ที่เอามาให้ด้วยผมไม่อยากได้ข้าวของอะไรจากใครหรอกอยากได้แค่กำลังใจจากแฟนบอลก็พอแล้ว”

“เมสซีเจ” ชนาธิป ตอบสั้นแต่ชัดเจนตามสไตล์ที่เขาบอกบอกทิ้งท้ายว่า...ไม่ชอบพูดอะไรเยอะนะครับ