posttoday

คุณพ่อลูกดก ความสุขล้นบ้าน

04 ธันวาคม 2557

ยุคนี้บางครอบครัวอาจคิดว่าการมีลูกคนเดียว หรืออย่างมาก 2 คนก็พอแล้ว แต่ครอบครัวหัวสมัยใหม่อีกหลายครอบครัวกลับมีความคิดที่แตกต่าง

โดย...กองบรรณาธิการ

ยุคนี้บางครอบครัวอาจคิดว่าการมีลูกคนเดียว หรืออย่างมาก 2 คนก็พอแล้ว แต่ครอบครัวหัวสมัยใหม่อีกหลายครอบครัวกลับมีความคิดที่แตกต่าง โดยเฉพาะคุณพ่อลูกดก 3 ครอบครัว ได้แก่ “บ๊อบ-ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์” “เต้-สุผจญ กลิ่นสุวรรณ” และ “แจ๊ค-ปริญญา รุ่นประพันธ์” พิสูจน์แล้วว่า การมีลูกๆ หลายคนเป็นสิ่งที่พิเศษที่สุด เพราะนอกจากลูกๆ จะมาช่วยเติมสีสันและช่องว่างในบ้านแล้ว ยังนำพาเสียงหัวเราะและรอยยิ้มมาสู่ครอบครัวอีกด้วย

คุณพ่อลูกดก ความสุขล้นบ้าน

4 แก้วตาดวงใจของพ่อบ๊อบ

พี่สาวคนโต “ณัชชา-ณัชชาวีณ์” น้องชายฝาแฝด “พุฒิ-ณติวัชร์” “พร้อม-ณัติวิชญ์” และน้องชายคนเล็ก “เภา-ณัฐดรุตม์” ทั้ง 4 คน เป็นลูกๆ ของพ่อ “บ๊อบ-ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์”

ลูกๆ ยังจัดว่าเป็นเด็กเล็กกันอยู่เลย ทว่าลูกสาวคนโตในวัย 6 ขวบ “น้องณัชชา” ก็น่ารักฉลาด เป็นถึงพิธีกรเด็กในรายการ “เอเชีย คอนเน็ค” ทางช่อง 3 สร้างความภูมิใจให้กับพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก ส่วนสามหนุ่มน้อยๆ ก็มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง และซนบ้างตามประสาเด็ก แต่ก็รับมือไหว สบายมาก

“เยอะครับ 4 คนถือว่าเยอะ ผมกับภรรยานั่งมองดูลูก 4 คน หันมามองหน้ากัน นี่ลูกเราหมดเลยใช่ไหม (หัวเราะ) การดูแลเลี้ยงลูก มีการบริหารจัดการ วุ่นวายพอควร ในยุคที่เราต้องทำงาน แต่เมื่อเรามีลูกเยอะเราก็มีการวางแผน มีคุณตาคุณยายลงมาช่วยเราดูแลลูกน้อยด้วย ถ้าเลี้ยงคนเดียวไม่มีตายายเข้ามาช่วย ผมว่ามีลูก 4 คน มากเกินไปด้วยซ้ำ แต่การที่เรามีคนช่วยเลี้ยงทำให้การมีลูก 4 คน ไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ผมว่าถ้าเราอยู่กันสองคนจะมีความเครียดเกิดขึ้น”

การมีลูกมากทำให้บ๊อบได้ย้ายกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่ ทำให้ครอบครัวโกศลพิศิษฐ์กลายมาเป็นครอบครัวใหญ่ และมีผู้ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนช่วยดูแลลูกๆ 

“ตอนแรกเราอยู่กันสองคน ตั้งแต่มีณัชชาก็ย้ายกลับไปบ้าน เพราะเราพ่อแม่มือใหม่ เราต้องการคนช่วยแนะนำ และที่บ้านค่อนข้างซีเรียสเรื่องอาหารการกิน ต้องการการดูแลอย่างเต็มที่ ถ้าเรายังเป็นครอบครัวเดี่ยว ต้องมีใครสักคนเลิกทำงานมาดูลูก หรือต้องมีผู้ช่วยคนต่อคน ไม่อย่างนั้นการเลี้ยงลูกก็ไม่ได้คุณภาพอย่างที่เราต้องการ เพราะพี่เลี้ยงถ้าเลือกไม่ดีก็มีผลเสีย มีความเสี่ยง การพัฒนาทางด้านร่างกาย สติปัญญาเราไว้วางใจไม่ได้ ถ้าพี่เลี้ยงหรือแม่บ้านไม่มีพื้นฐานนั้น ตอนนี้ที่บ้านมีพี่เลี้ยง 4 คน และมีภรรยาและแม่ยายเป็นหัวเรือ”

มีลูก 4 คน อายุไล่เลี่ยกัน การเลี้ยงดูต้องมีการวางแผนที่ดี “ตอนนี้ณัชชาเขาโตหน่อย ช่วยเหลือดูแลตัวเองได้ เราถอยห่างออกมาได้พอสมควร ณัชชาห่างจากพุฒิและพร้อม 4 ปี อีกรุ่นห่างกันปีครึ่ง ผมว่าระยะห่างกำลังดี เหมือนเลี้ยงเด็กโตหนึ่ง เราก็ทุ่มเทให้คนเล็กต่อไป

ณ ปัจจุบัน 4 คน 3 แบบ ก็จะวุ่นมาก คนที่เป็นแฝดเวลาเขาอยากได้อะไรเขาอยากได้พร้อมๆ กัน เราไม่สามารถแยกร่างได้ พ่ออยู่ไม่เอาจะเอาแม่อย่างเดียว มีอารมณ์แบบนี้บ่อยๆ วิธีแก้ง่ายที่สุด ให้มีสองอย่างเหมือนกัน อาจจะต่างสี แต่เราไม่เลือกวิธีนั้นบ่อย เพราะเราอยากให้เขารู้จักการแบ่งปัน ก็ซื้อของเพียงชิ้นเดียว ห้ามแย่งกัน เราใช้วิธีแก้ปัญหาแบบนี้เอง บางครั้งมันยากต่อการควบคุมพอสมควร แต่ก็สอนเขาว่าคนหนึ่งเล่นอยู่ก่อน ให้เขาต่อคิว หรือไปเลือกเล่นอย่างอื่น

สำหรับณัชชาเขามีภารกิจหลายอย่าง ไม่เหมือนกับเด็กอื่นๆ เขามีหน้าที่ของเขาด้วย มีความเป็นเด็กของเขา เป็นพี่สาวเล่นไม่เหมือนน้องชาย เขาต้องดูแลตัวเอง ช่วยเหลือตัวเองเกือบทุกอย่าง หน้าที่ในการอ่านหนังสือทำได้ดี เขาอ่านหนังสือให้น้องฟังด้วย เราคอยจัดสรรเวลาว่างจากลูกเล็ก ฝาแฝด ก็มาดูหนังสือเล่นกับณัชชา”

ท้ายสุดพ่อบ๊อบบอกว่า ความสุขของคนเป็นพ่อ อย่างณัชชาเมื่อไหร่ที่เขาทำอะไรประสบความสำเร็จ เขามีความสุข “รอยยิ้มของเขามีความสุข เราก็มีความสุขด้วย ส่วนที่มีคนมาชื่นชมณัชชาเป็นสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาที่เรา ไม่ได้คาดหวังไว้ เป็นของแถมใหญ่ให้ครอบครัวเรา ส่วนพุฒิพร้อมเราได้เล่นกับเขา ดูแลเขาเหนื่อย แต่เหมือนคนทำงานหนักแต่มีความสุขมาก ลูกทุกคนเราได้เห็นพัฒนาการของเขา เราก็หายเหนื่อย มีความสุขโดยที่เขาไม่ต้องทำอะไรให้เราเลย ผมได้เรียนรู้ว่าการเป็นพ่อแม่ การเป็นผู้ให้ มีความสุขมากกว่าการได้รับ”

คุณพ่อลูกดก ความสุขล้นบ้าน

ฃเต้-สุผจญ ลูก 4 เติมสีสันให้ชีวิต

“เต้-สุผจญ กลิ่นสุวรรณ” ผู้ประกาศข่าวและพิธีกรชื่อดังทางช่อง 3 และไทยพีบีเอส ใครที่ได้ดูเขาทำหน้าที่พิธีกรหรือผู้ประกาศข่าวเป็นต้องออกปากชมในความสามารถเหลือล้นของเขา แถมหน้าตาดี อัธยาศัยงาม ดูมีเสน่ห์อีกด้วยต่างหาก แต่ใครจะคิดว่าหนุ่มเต้จะเป็นคุณพ่อลูกดกทั้งที่วัยแค่ 30 นิดๆ แต่ผลิตทายาทกลิ่นสุวรรณถึง 4 คน ได้แก่ น้องแองเคอร์ น้องแองเจิ้ลไนน์ น้องเอ็มซี และน้องแอเรียล  

“ผมเป็นลูกคนเดียวมา 12 ปี จึงมีน้องชายคือตั้ม ในระหว่างนั้นเห็นคนอื่นมีพี่มีน้องสองคนสามคนก็อิจฉา อยากมีเหมือนเขา พอ 4 ขวบคุณพ่อได้ทุนจากการไฟฟ้าฯ 2 ปี ไปสหรัฐ ที่บ้านก็ตามไปด้วย อยู่ที่โน่นยาวจนผมอายุ 10 ปี จึงกลับไทย แต่ช่วงอยู่ที่นู่นค่าใช้จ่ายเยอะ ท่านเลยไม่มีน้อง พอกลับมาท่านบอกจะมีน้องให้ก็คือตั้มนี่แหละ แต่ห่างผม 12 ปี ถึงคราวผมจะมีลูกบ้าง ก็ตั้งใจว่าไม่มีคนเดียวแน่ๆ ปรากฏมา 4 คนเลย ชาย 2 หญิง 2 สนุกดี ชีวิตมีสีสันสดใสมาก” พิธีกรดังเผยที่มาของการมีลูกดก

ต่างจากคนรุ่นใหม่สมัยนี้หลายคนกลัวการมีลูก เพราะกังวลในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องเงินที่จะใช้ในการเลี้ยงดู สำหรับเต้แล้วเขาเชื่อลึกๆ ว่า เด็กเหล่านี้ถ้ามีบุญก็จะมาพร้อมกับสมบัติของเขาเองแล้วมาผ่านคนที่เป็นพ่อแม่ของเขา

“ผมสังเกตตอนลูกคนแรกเกิดคือแองเคอร์ เป็นช่วงที่ไอทีวีเจ๊งพอดี แต่ผมไม่เดือดร้อนเพราะมีงานเข้ามาเยอะ เช่น งานแปล งานลงเสียง งานของบริษัทโฆษณา เข้างานอาทิตย์ละครั้ง ที่เหลือทำงานทางอินเทอร์เน็ต เงินเดือนเยอะกว่าที่ไอทีวี พอคนที่ 2 ผู้หญิง น้องแองเจิ้ลไนน์ (เกิดวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009) เช้าวันที่คลอดน้องผมยังจัดรายการวิทยุในห้องคลอดทางโทรศัพท์ งานเยอะจนไม่มีเวลาดูแลภรรยาตอนท้อง พอคนที่ 3 เอ็มซี (ผู้ชาย) ก็ตั้งบริษัท
แองเจิ้ลโชว์ขึ้นมา ใช้รูปของลูกทั้งสามเป็นโลโก้ เริ่มรับงานทีวีมากขึ้น ทำงานไม่หนักแต่รายได้เยอะ”

คุณพ่อคนเก่งพูดถึงสไตล์และความน่ารักของลูกทั้ง 4 ว่า ครบรส 4 คน 4 สไตล์ คนโตค่อนข้างมีจินตนาการและมีโลกส่วนตัวสูง มีความเป็นศิลปินเล็กๆ อารมณ์ติสต์นิดๆ ในตัวเองและชอบสังเกต น้องไนน์เป็นคนรักสวยรักงาม มีลูกอ้อนเยอะ ชอบซักถาม จะเรียกว่าจับผิดก็ได้ จริตผู้หญิงสูงแต่กลัวสัตว์ ส่วนเอ็มซี เน้นบู๊ ล้างผลาญ ชอบต่อยมวย ไม่กลัวสัตว์ และมีน้ำใจต่อคนอื่น สำหรับแอเรียลยังเล็กอยู่ ดูไม่ออก แต่ดูท่าจะงอนเก่ง    

ในการเลี้ยงลูก พิธีกรหนุ่มเล่าว่า การอบรมบ่มนิสัยส่วนใหญ่จะยกให้ภรรยาทำหน้าที่ สำหรับเขาในการเลี้ยงดูไม่มีหลักสูตรที่ตายตัว หรือมีเส้นทางที่เป็นแบบฉบับเฉพาะของเด็กคนหนึ่งที่จะนำไปใช้ได้ในเด็กทุกคน 4 คนนี้ชัดเจน 4 สไตล์ 4 แบบ แต่ละคนมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจนไม่สามารถหาขั้นตอนที่ชัดเจนมาเป็นแบบแผนการเลี้ยงลูกได้ ขึ้นอยู่กับการนำมาประยุกต์ใช้ แต่สิ่งสำคัญคือพยายามให้เวลาและทำกิจกรรมกับลูกๆ อยู่เสมอ

“เวลารูทีนผมตื่นตี 3 ตี 4 ถึงออฟฟิศเพื่อแต่งหน้าเข้ารายการ English Breakfast เสร็จก่อน 6 โมง กลับบ้านพาลูกไปโรงเรียนกลับมานอน ลูกตื่นมาเจอพ่อแต่ไม่รู้หรอกว่าพ่อไปทำฟูลไทม์จ๊อบแล้ว ช่วงบ่ายถ้ามีงานที่ไหนก็ไป แต่ 6 เดือนที่ผ่านมามีรายการ Midday Delivery ทางช่อง 3 แฟมิลี่ เสร็จจาก English Breakfast ก็จะรอทำ Midday Delivery ต่อ เสร็จจึงกลับบ้าน มาเจอลูกอีกทีตอนเลิกเรียน ยกเว้นวันพุธต้องไปสอนที่ธรรมศาสตร์ คณะวารสารศาสตร์ อินเตอร์ วันหยุดทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น เล่นดนตรี ตีกลองที่บ้าน เวลามีอีเวนต์ บรรยายเดินสายต่างจังหวัด จะพยายามหาเหตุให้พาลูกๆ ไปได้ด้วย แต่เวลาที่ทุกคนต้องอยู่พร้อมหน้า คือเวลาอ่านหนังสือและเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนเป็นเรื่องที่ผมบังคับ”

ท้ายสุดพิธีกรหนุ่มลูกดกฝากถึงพ่อแม่ทั้งหลายว่า การลงทุนกับลูกๆ เช่น การพาไปเรียนคอร์สศิลปะหรืออะไรก็ตามจะไม่มีวันสูญเปล่าแน่นอน สิ่งเหล่านี้จะถูกบ่มเพาะในตัวลูกจนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อโอกาสมาถึง เชื่อว่าประสบการณ์และทักษะต่างๆ ที่เราได้ป้อนให้จะพรั่งพรูในวันใดวันหนึ่งอย่างแน่นอน

คุณพ่อลูกดก ความสุขล้นบ้าน

ลูกชายแฝด 3 คือ สิ่งมหัศจรรย์ของชีวิต

สามหนุ่ม สามมุม แฝด 3 น้องทริป-น้องเทรย-น้องทรอย ขวัญใจของทุกคนภายในบ้าน โดยเฉพาะ คุณพ่อแจ๊ค-ปริญญา รุ่นประพันธ์ กับ คุณแม่มุก-เพลินจันทร์ วิญญรัตน์ ที่อยู่ในวัย 5 ขวบ กำลังน่ารัก โอบอ้อมอารี ทะเล้นและแสนซน เหมือนเป็นสีสันที่เข้าเติมเต็มชีวิต ทำให้วันพ่อและทุกๆ วันมีความหมายมากขึ้น  ซึ่งก่อนหน้านี้แด็ดดี้แจ๊คไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะมีลูกแฝดเป็นผู้ชายถึง 3 คน

“ตอนแต่งงานก็คิดว่าเราจะมีลูกสักคนสองคนก็พอ แต่ไม่เคยคิดว่าจะมีลูกแฝดถึง 3 คน เมื่อมีลูกแฝดจึงเหมือนสิ่งเซอร์ไพรส์ เพราะตอนที่คุณหมอบอกว่าในท้องของภรรยามีเด็กถึง 3 คน เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยคาดหวังมาก่อน เพราะมีโอกาสสูงที่จะหลุด จนเดือนที่ 4 ของการท้อง จากนั้นเราก็ลุ้นตลอด ลูกจะอยู่ครบไหม เพราะขณะที่ภรรยาคลอดลูกก็มีคุณแม่คนอื่นก็มีแฝด 3 เหมือนกัน แต่เขาต้องเสียลูกไปถึงสอง น่าเสียใจมาก ขณะที่ภรรยาผมคลอดเราก็ลุ้น และตั้งสติตลอด เราพยายามมีความสุขอยู่กับ ณ ช่วงเวลานั้นกับลูกและภรรยา เพราะเราไม่อยากคาดหวังมากเกินไป แต่ปัจจุบันเขาอายุจะ 6 ขวบแล้ว ที่ลูกผมแข็งแรงเหมือนทุกวันนี้ได้ ผมคิดว่าอยู่ที่แม่ มุกเป็นแม่ที่ดีมากในการดูแลลูกและดูแลตัวเองด้วย”

เมื่อลูกแฝด 3  กลายเป็นยิ่งกว่าของขวัญที่มีค่า ในฐานะคุณพ่อจึงพยายามช่วยเลี้ยงลูกแฝดสามให้มากที่สุดเท่าที่คุณพ่อจะทำได้ หลังเลิกงานกลับมาบ้านก็ช่วยมาดูแลลูก และมีทริกในการสอนลูกสไตล์คุณพ่อแจ๊คก็คือ สอนลูกให้เป็นเด็กดี หากลูกๆ ไม่ดื้อไม่ซนก็จะมีซูเปอร์ฮีโร่ ปรากฏกายออกมาให้ลูกเห็น

“ผมสอนลูกเสมอว่า หากลูกไม่ดื้อและเป็นเด็กดี ก็จะได้รางวัลด้วยการเจอกับซูเปอร์ฮีโร่ที่ลูกชอบเป็นพิเศษ ซึ่งตอนนี้เขาโตมากขึ้น เขาก็จะรู้ว่านี่คือพ่อ อย่างคริสต์มาสปีที่แล้วผมแต่งตัวเป็นซานตาคลอส พวกเขาจะมองหน้าสักพักแล้วเขาเริ่มรู้ว่านี่คือพ่อ แล้วก็เข้ามาเล่น เข้ามากอด ความรู้สึกตอนนั้นของผมคือ ดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้ม รู้สึกดีที่ทำให้เขาได้รู้สึกตื่นเต้น เหมือนเป็นกำลังใจให้ลูกว่า ซานต้าไม่ชอบเด็กนิสัยไม่ดี หรือกินข้าวไม่หมด ก็เป็นวิธีที่สอนลูกได้ ที่ไม่ใช่การขู่ แต่เป็นการที่เราพยายามให้รางวัลกับลูกหากเขาทำดี”

ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะได้เป็นคุณพ่อที่มีลูกแฝดถึง 3 คน และในวันที่เขาได้สวมบทบาทเป็นคุณพ่อ ทำให้เขาได้เข้าใจคุณพ่อของเขามากขึ้น “พอผมได้เป็นพ่อ ทำให้เรารู้สึกเลยว่า พ่อเคยรู้สึกอย่างไรกับผม เช่น ตอนผมเป็นวัยรุ่นมีบางช่วงบางตอนคิดว่าพ่อไม่เข้าใจเรา ไม่สนใจว่าเราชอบอะไร ซึ่งเป็นความคิดของเด็กวัยรุ่น แต่พอวันหนึ่งที่เราได้เป็นพ่อ รู้เลยว่าพ่อแม่ครุ่นคิด
ทุกอย่างเกี่ยวกับลูกตลอด เป็นห่วงลูกทุกวินาที ทำให้ผมเข้าใจคุณพ่อมากขึ้นว่า พ่อทำเพื่อครอบครัวของเราขนาดไหน ผมจึงพยายามเอาบทเรียนนี้มาสอนลูกเราด้วย”

บ้านอื่นที่มีลูกเพียงหนึ่งหรือทีละคน บางเวลายังเหมือนจับปูใส่กระด้ง แล้วเมื่อมีลูกแฝดถึง 3 คน คุณพ่อแจ๊คมีวิธีรับมืออย่างไร “การเลี้ยงลูกแฝด 3 ไม่ยาก หากเลี้ยงด้วยความรัก ไม่ใช่งานที่ต้องฝืน เป็นสิ่งที่เต็มใจที่จะทำ เคล็ดลับเลี้ยงลูกแฝด 3 คือการวางแผน ใส่ใจในรายละเอียด โดยให้คุณแม่เป็นหลักในการตัดสินใจ เช่น การเลือกโรงเรียน โดยมีคุณพ่อพยายามช่วยเหลือในทุกด้าน  อีกทั้งคุณพ่อยังควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกๆ เช่น คำพูด ต้องใจเย็น คุยกันด้วยเหตุผล ค่อยๆ สอน และเด็กจะพัฒนาไปตามวัยเอง  แต่โชคดีที่ลูกๆ 3 คนเป็นเด็กดี ไม่ค่อยมีอะไรที่น่าเป็นห่วง

เวลาลูกงอแงเราต้องดูว่าลูกง่วงนอนหรือเปล่า เราก็ต้องใช้เหตุผล ถามเขาว่าทำไมเขาถึงได้เป็นแบบนั้น ผมและภรรยาจะไม่ตีลูก เพราะผมคิดว่าไม่มีผลดี ถ้าเราตีเขาวันหนึ่งเขาจะชิน และเอาสิ่งนี้กลายเป็นนิสัย  เขาก็จะนึกว่า ใช้ความรุนแรงเป็นเรื่องปกติ เราจะไม่ทำแบบนั้น เราดุลูก แต่เราไม่รุนแรง เราใช้เหตุผลมากกว่า”

สามแสบจอมซน คุณพ่อบอกว่ามีบุคลิกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ลักษณะทริปเป็นเด็กขี้อ้อน รักพ่อที่สุด และคิดว่าพ่อเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ในสายตาของคุณครูทริปยังเป็นเด็กดี เลี้ยงง่ายไม่เรื่องมาก โอบอ้อมอารีกับเพื่อนๆ เสมอ ส่วนเทรยเป็นเด็กตลกและแสนซน ส่วนทรอยเป็นเด็กโตเกินวัย มีความรับผิดชอบสูง และเป็นเด็กที่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูกมากที่สุด

สำหรับอนาคตสำหรับลูกๆ แฝด 3 คุณพ่อแจ๊คยังไม่ได้แพลนอะไรไว้เป็นพิเศษ เพียงสอนให้เขาเติบโตไปตามวัย และให้เขาเลือกทางเดินด้วยตัวเองในทางที่พวกเขาจะมีความสุขมากที่สุด

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"