ในซอกหลืบกรุงเทพฯ
ภายในบ้านหลังสีขาว 2 ชั้น ชั้นล่างถูกดัดแปลง ปรับพื้นที่เป็นแกลเลอรี่แสดงงานศิลปะ ชื่อ “บราวน์สโตน สตูดิโอ” ในพื้นที่จำกัดแต่มีมุมให้จัดวางงานได้ตามไอเดียศิลปิน แกลเลอรี่น้องใหม่ได้ต้อนรับผลงานศิลปะ เทคนิคสื่อผสมบนผ้ายีนส์ของศิลปินรุ่นใหม่ “พงษ์สกุล ชาเหลา” ที่นำผลงานมาจัดแสดงเดี่ยวเป็นครั้งแรก ในชื่อนิทรรศการ “ซับ-สุข” ที่มาจากชื่อเต็มในภาษาอังกฤษ “Sub-Sukhumwit”
ภายในบ้านหลังสีขาว 2 ชั้น ชั้นล่างถูกดัดแปลง ปรับพื้นที่เป็นแกลเลอรี่แสดงงานศิลปะ ชื่อ “บราวน์สโตน สตูดิโอ” ในพื้นที่จำกัดแต่มีมุมให้จัดวางงานได้ตามไอเดียศิลปิน แกลเลอรี่น้องใหม่ได้ต้อนรับผลงานศิลปะ เทคนิคสื่อผสมบนผ้ายีนส์ของศิลปินรุ่นใหม่ “พงษ์สกุล ชาเหลา” ที่นำผลงานมาจัดแสดงเดี่ยวเป็นครั้งแรก ในชื่อนิทรรศการ “ซับ-สุข” ที่มาจากชื่อเต็มในภาษาอังกฤษ “Sub-Sukhumwit”
“สุขุมวิทกลายเป็นพื้นที่ผสมผสานความหลากหลายกลุ่มทางสังคม เป็นที่รู้จักดีเรื่องการค้า ตลอดจนย่านที่อยู่อาศัยคนมีอันจะกินและชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่จำนวนมาก สำหรับผมบางพื้นที่ในเขตสุขุมวิทมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวชัดเจน จนดูผิดแปลกไปจากความคุ้นชิน ยีนส์อาจกล่าวถึงวัฒนธรรมสำเร็จรูปจากการได้รับมาโดยไม่ปฏิเสธ” พงษ์สกุลให้คำตอบว่าทำไมต้องเลือกพื้นที่สุขุมวิทมาเป็นไอเดียในการทำงาน
ทว่า ในย่านที่ผู้คนขวักไขว่ปนเปไปด้วยชาวต่างชาติ ในมุมหนึ่ง ซอยหนึ่งของสุขุมวิท ก็มีเรื่องราวมากระแทกใจของศิลปิน จนอดใจไม่ไหวที่จะสะท้อนสิ่งที่เป็นใน “ซอยคาวบอย” สู่งานศิลปะ
“ผมเดินเก็บข้อมูล ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ แต่มีชาวต่างชาติเข้ามาถามออกแนวข่มขู่ว่าถ่ายไปทำไม มาทำอะไร ทำให้ผมรู้สึกว่า เฮ้ย! นี่มันประเทศไทย พื้นที่ของคนไทย เราเดินในบ้านเราไม่ได้แล้วเหรอ ในบ้านเราเองไม่มีความปลอดภัยแล้ว และเหมือนคนต่างชาติเป็นเจ้าของตรงนั้นไปแล้ว และเขาถามเรา ทำให้รู้สึกเหมือนมันมีอะไรซ่อนอยู่”
พงษ์สกุลเลือกที่จะเปิดโลกทัศนวิสัยของเขาบนถนนสุขุมวิท ถนนสายหลักสายสำคัญ ถนนที่ไม่เคยหลับใหล เขาเดินทางผ่านไปผ่านมาบนถนนสุขุมวิทหลายครั้งนับไม่ถ้วน
“ผมมีความสนใจในถนนสุขุมวิท เพราะรู้สึกว่าเป็นแหล่งรวมดาราคนดัง เศรษฐี การค้าสำคัญ นักธุรกิจชาวต่างชาติ เป็นที่ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วมุมโลกต้องเดินทางมาถนนสุขุมวิทแห่งนี้สักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่บนถนนเส้นนั้นก็ยังมีภาพที่ย้อนแย้งกัน คือ คนไทยพ่อค้าแม่ขาย คนจนที่ยอมทำงานเพื่อแลกเงิน ในตึกสูงสวยๆ ก็ยังมีบ้านหลังเล็กๆ หรือห้องแถวแทรกอยู่”
ก่อนลงมือทำงาน ศิลปินได้ใช้เวลาทั้งยามกลางวันและกลางคืน เดินเข้าออกตามซอกซอยสุขุมวิทเพื่อบันทึกภาพ เริ่มจากสุขุมวิทซอย 1 ไปเรื่อยๆ เป็นเวลาร่วมอาทิตย์ เพื่อเก็บข้อมูลและเพื่อมาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะในรูปแบบที่เขาถนัด คือ การเลือกใช้เศษผ้ายีนส์เก่าๆ ที่ไม่สามารถใช้งานในรูปทรงเดิมของมันแล้ว มาแทนการใช้สีและพู่กัน บรรเลงภาพเขียนโดยใช้เข็มและจักรเย็บผ้าสร้างรายละเอียดของงาน
“ผมสนใจการทำงานแบบนี้ตั้งแต่ทำเป็นผลงานตอนเรียน (สาขาจิตรกรรม คณะศิลปวิจิตร สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์) ช่วงแรกๆ ผมก็วาด แต่พอปี 4 เราต้องหาแนวทางของตัวเอง หาสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวมาทำงาน คือผมอยากหนีจากการวาดด้วย ก็เลยลองทำงานใช้ผ้ากับเหล็กผสมกัน เย็บโดยจักรเย็บผ้า ให้ความแข็งกับอ่อนมาเจอกัน ที่บ้านผมเป็นร้านตัดสูททำให้ผมคุ้นเคยกับพวกผ้า เศษผ้า เราอยู่กับมันมานานจนอยากลองเอามาใช้ในงาน แต่เย็บไม่เป็นนะครับ ก็มาลองๆ ตอนทำงาน แล้วงานก็พัฒนามาเรื่อย ใช้ผ้าทุกแบบ แต่งานช่วงหลังๆ จะเลือกใช้แค่ผ้ายีนส์ ผมสนใจในความเป็นมาของมัน อย่างตอนแรกที่หาข้อมูล เหมือนมันถูกผลิตขึ้นมาเพื่อกรรมกร คนใช้แรงงานหนักๆ เป็นผ้าที่ทน แต่ตอนนี้มันเป็นแฟชั่นทั่วโลก ใครๆ ก็ใส่ยีนส์ มันกลายมาเป็นของใช้ทั่วๆ ไป ที่ทุกคนต้องมี”
การเลือกผ้ายีนส์มาทำงานในครั้งนี้ ศิลปินตั้งใจใช้ผ้ายีนส์บอกเป็นนัยถึงวัตถุนิยม ทุนนิยม “ในนี้ผมเอางานชิ้นใหญ่จากการทำงานครั้งก่อนมาแสดงด้วย 1 งาน เป็นงานทำเรื่องสลัม สะท้อนให้เห็นชุมชนที่ดูวิถีชีวิตดูสมบุกสมบัน แล้วงานนี้ผ้ายีนส์ที่ผมเอามาใช้ผมก็ไปซื้อที่วัดสวนแก้วที่ผู้คนบริจาคมา มันเหมือนกับของที่ซื้อมา บริจาคแล้วกลับมาโดนขาย ถูกซื้ออีกที แล้วซื้อเราอาจไม่รู้ว่าตัวไหนแท้ตัวไหนปลอม แต่มันเป็นบริโภคนิยม ประเทศโลกที่สามได้รับบริจาค หรืออีกความหมายคือการรับเอาวัฒนธรรมอะไรมาหรือเปล่า
ในการทำงานผมร่างโครงก่อนแล้วค่อยตัดชิ้นส่วน แต่ว่าที่ยากที่สุดตอนเทียบสี ใช้เวลานานในการคัดผ้า บางทีสนุกช่วงขอบผ้า ที่มีสีเทกซ์เจอร์ ผมให้วัสดุมันแสดงตัวของมันเอง อย่างริมกางเกง ป้ายยี่ห้อตัดมาใส่ แฝงเรื่องของแบรนด์ แต่ตัดมาใส่ไม่เต็มคำ เล่นเรื่องของจริงของปลอม ในซอยคาวบอยก็มีการขายของทั้งจริงปลอมอยู่ด้วย”
ชีวิตที่ดูเป็นคู่ขนานในย่านสุขุมวิท พงษ์สกุลได้แยกย่อยออกมาเป็น ซับสุขุมวิท เจาะลึกสะท้อนเข้าไปในซอกหลืบของความศิวิไลซ์ เสนอแสงสีความงาม ความสนุกครื้นเครงของผู้คน หากแต่พิจารณาในรายละเอียดผลงาน คุณจะได้เห็นมากกว่าที่ตามองผาด
นิทรรศการ “ซับ-สุข” เปิดแสดงถึงวันที่ 7 ธ.ค. ณ บราวน์สโตน สตูดิโอ ถนนสุขุมวิท 77 ซอยอ่อนนุช 23-25 เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ โทร.08-7112- 7774


