บ๊อบ ณัฐธีร์ กับเคล็ดลับค้นหาพรสวรรค์น้องณัชชา

เมื่อก่อนเวลาใครเจอ “บ๊อบ-ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์” ต้องเดินเข้ามาขอถ่ายรูปและลายเซ็น เพราะยังเป็นที่จดจำได้ในบทบาทของนักแสดง พิธีกร แต่ตอนนี้เขาเนื้อหอมกว่าเดิม แม้จะไม่ได้เล่นละครแล้วก็ตาม ชื่อของ “บ๊อบ” กลับมาเป็นที่จดจำได้อีกครั้ง ซ้ำยังถูกเรียกขานอีกว่า
“พี่บ๊อบ พ่อน้องณัชชา” และตอนนี้คนที่เดินเข้ามาหาหลายคนชื่นชมลูกสาว น้องณัชชา และถามถึงวิธีเลี้ยงดูลูก

“ทำอย่างไรให้ลูกฉลาด” “เลี้ยงลูกแบบไหนถึงน่ารักจัง” “ทำไมน้องณัชชาถึงเป็นเด็กมีความมั่นใจ กล้าแสดงออก” “อยากให้ลูกพูดได้หลายภาษาแบบนี้บ้าง” หลากคำถามที่ถาโถมเข้ามาพร้อมๆ กับความนิยมของ “น้องณัชชา” หรือ “น้องณัชชา ลูกสาวพี่บ๊อบ” ที่เป็นพิธีกรเด็กในรายการ “เอเชีย คอนเน็ค” (Asia Connect) ทางช่อง 3

ถามมาก็ตอบไป แต่ได้สั้นๆ เพราะกว่าเขาจะเลี้ยงดูน้องณัชชาให้โตมาเป็นเด็กฉลาด มีความมั่นใจ กล้าแสดงออก มีรายละเอียดเยอะมาก นี้จึงเป็นที่มาของหนังสือ “คู่มือค้นหาพรสวรรค์ลูก” ที่มีคำโปรยว่า “แล้วลูกคุณจะเก่งไม่แพ้ณัชชาลูกสาวพี่บ๊อบ”

“ตอนนี้ผมเซ็นสัญญาทำงานกับช่อง 3 เป็นผู้ประกาศข่าวรายการท็อปนิวส์ ทางช่อง 3 เอสดี เป็นการกลับมาร่วมงานกันอย่าง
เต็มตัวอีกครั้ง เพราะตอนเข้าวงการบันเทิงใหม่ๆ ผมก็เริ่มต้นกับช่อง 3 แต่พอมีงานพิธีกร ก็ไปทางนั้นเพราะชอบมากกว่า ตอนเป็นนักแสดงคนก็จำได้ในชื่อ บ๊อบ บดินทร์ พอเปลี่ยนชื่อเป็น บ๊อบ ณัฐธีร์ คนก็จะจำได้ในภาพพิธีกร ผู้ประกาศข่าว บางคนอาจจะจำเราไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ แต่พอลูกสาวทำรายการบอกว่า น้องณัชชาลูกสาวพี่บ๊อบ คนก็เริ่มไปหาว่าบ๊อบไหน (หัวเราะ) พอลูกดังทำให้พ่อกลับมาดังอีก

งานอีเวนต์ติดต่อให้ไปด้วยกัน รายการต่างๆ ก็เชิญไปออก ซึ่งส่วนมากก็จะถามถึงการเลี้ยงดูน้องณัชชา ผมก็ตอบไปในบางส่วน แต่ละรายการก็ตอบคนละหัวข้อ แต่มันก็ยังได้ไม่ครบ เพราะเราบอกได้แค่สั้นๆ เพราะเวลาจำกัด ผู้ชมก็ถามเข้ามาเยอะมาก การที่เราเลี้ยงดูเขาได้แบบนี้ เรามีรายละเอียดเยอะมาก ตั้งแต่เตรียมตัวมีเขา เขาอยู่ในท้อง อาหารการกิน กิจกรรมที่เลือกเฟ้นให้เขา จนเราได้ข้อสรุปว่า ทำเป็นหนังสือขึ้นมาดีกว่า”

ที่ผ่านมา บ๊อบเคยถูกทาบทามจากสำนักพิมพ์อมรินทร์ ให้เขียนหนังสือเกี่ยวกับชีวิตการงานของ
ตัวเอง แต่จังหวะเวลาไม่ลงตัว เมื่อต้องลงมือเขียนหนังสือจริงๆ กลับเป็นเรื่องราวการเลี้ยงลูก ทว่าเนื้อหาในเล่มยังมีข้อมูล ทิปส์การเลี้ยงลูกจาก “คุณแม่เฮี้ยง - ณัฐสินี” ร่วมด้วย

“อย่างที่ผมบอกว่ามีรายละเอียดเยอะมาก แต่ละวัยเขาก็เล่นของเล่นแตกต่างกันไป กิจกรรมที่สนใจก็ต่าง ไปเที่ยวไหนกันบ้าง บางอย่างเราก็ลืมๆ ไปบ้าง เราไม่ได้จดบันทึกไว้ แต่เรา
ถ่ายรูปไว้ตลอด ก็ได้รูปถ่ายนี้แหละช่วยเตือนว่าในแต่ละช่วงวัยของณัชชาเขาเล่นอะไรบ้าง และเราได้วางโครงเรื่องไว้ดี ทำให้ขั้นตอนการเขียนง่ายขึ้น เริ่มตั้งแต่เราจะมีณัชชา จนถึงณัชชา 5 ขวบ เริ่มมาทำรายการ

เราเลือกเอาช็อตที่สำคัญๆ เช่น ในช่วงวัยแรกเกิดให้ดูสื่อไหนได้บ้าง ให้ฟังเพลง ต้องเลือกเพลงแนวไหน ตอนแรกผมเลือกบีโธเฟน แต่คนที่บ้านไม่มีใครอิน คนที่บ้านฟังแล้วไม่มีความสุข ผมเลยเลือกแนวเพลงตามกระแส คนที่บ้านฟังเพลงร้องตามได้ ตรงนี้เราต้องปรับ เพราะสื่อที่ดีที่สุดคือคนที่บ้านมีความสุข ไม่ใช่คนอื่นว่าดีเราต้องเดินตาม

ช่วงอายุ 3 ขวบ ปั่นจักรยาน ครอบครัวเราไม่แอนตี้การให้เด็กดูทีวี แต่ความเร็วของภาพต้องเหมาะกับเด็ก เพราะภาพเร็วเด็กจะสมาธิสั้น ในทีวีมีของดีอยู่มากมายที่ออกมาในรูปของดีวีดี เราเอามาเป็นไกด์ไลน์ในการสอนลูกได้ แต่เราต้องเรียนรู้ไปกับเขา ไม่ใช่ปล่อยเขาดูคนเดียว พ่อแม่ดูด้วย ทำกิจกรรมกับเขาด้วย ทำให้เขาได้มากกว่าสื่อให้ทางเดียว”

แน่นอนว่า การเลี้ยงดูน้องณัชชาจนถึง 5 ขวบ มีข้อมูลวิธีการต่างๆ มากโข หากแต่การย่อยให้มีเนื้อหา 211 หน้านั้นก็สามารถให้ข้อมูลเป็นไกด์ไลน์ให้กับผู้อ่านได้ครบถ้วน ตามกระบวนการของพ่อบ๊อบ-แม่เฮี้ยง เลี้ยงดูน้องณัชชา 

“ตอนณัชชาเกิดเรามีหนังสือคู่มือเลี้ยงลูกจากคุณหมอ มีหนังสือ ข้อมูลที่เราค้นคว้าอีกมากมาย มีของเล่น กิจกรรมที่เราได้ลอง ซึ่งเราเรียนรู้ทุกช่วงวัยของเขา ปรับใช้จนรู้ว่าอันไหนเหมาะอันไหนดี ดังนั้นข้อมูลที่มีมากมายนั้นเราก็ได้ศึกษามาเยอะระดับหนึ่ง จนคัดออกมาได้ตามที่เราเลี้ยงดูณัชชาตั้งแต่เกิด คือทุกครอบครัวอ่านได้ บางครอบครัวทำตามได้ 100% บางครอบครัวไม่ได้ บางอย่างได้หรือนำเอาไปปรับใช้ ไม่ชอบสื่อนี้ลองเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น เพราะกว่าเราจะมาลงเอยที่ของเล่นนี้ สื่อนี้เราก็ลองแล้วปรับมาเยอะเหมือนกัน”

คุณพ่อน้องณัชชา อยากให้หนังสือเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งในหนังสือคู่มือเลี้ยงลูก  “ในหนังสือเราตอบคำถามของทุกคนที่ถามมาได้ว่า เลี้ยงดู
ณัชชาอย่างไรถึงได้แบบนี้ เพราะเราทำแบบนี้ เราบอกไว้เป็นช่วงๆ หมด

ผมเชื่อว่าเด็กทุกคนมีพรสวรรค์ แต่พ่อแม่จะเห็นไหม ผลักดันไหม ณัชชาเองเราก็ไม่เจอพรสวรรค์เขาตั้งแต่เกิด มันคือกระบวนการ
ที่ติดตามเขาได้เห็นพัฒนาการของชีวิตเขา ส่วนหนึ่งมาจากการสอน สิ่งแวดล้อม สื่อ มันต้องรวมกันทุกอย่าง บางคนอาจจะทำได้ดีกว่าณัชชา แต่ณัชชาเป็นตัวอย่างของการเลี้ยงดูแบบนี้ ผมคิดว่าหนังสือเล่มนี้จะอยู่คู่กับบ้านใดบ้านหนึ่งไปได้ถึง 5 ปี ตามช่วงอายุของณัชชาที่เราเขียนไว้ ถ้าอยากเดินตามกระบวนการณัชชา”

นอกจากต้องการแบ่งปันประสบการณ์การเลี้ยงลูกสู่พ่อแม่ครอบครัวอื่นๆ แล้ว บ๊อบ ณัฐธีร์ ยังคาดหวังไกลว่า หนังสือเล่มนี้อยากให้ณัชชาได้อ่าน ได้รู้ว่าพ่อแม่เลี้ยงดูเขามาอย่างไร และอยากให้เขานำไปปรับใช้เลี้ยงดูลูกของเขาต่อไปในอนาคต