ดรีมทีม 2...ฝันไกลบอลไทยไปบอลโลก
หากย้อนไปสัก 20 ปี แฟนบอลหลายคนคงจำได้ถึงนักฟุตบอลชุด “ดรีมทีม” ของ “บิ๊กหอย”
โดย...ราชันเบอร์23
หากย้อนไปสัก 20 ปี แฟนบอลหลายคนคงจำได้ถึงนักฟุตบอลชุด “ดรีมทีม” ของ “บิ๊กหอย” วนัสธนา (ธวัชชัย) สัจจกุล เป็นผู้จัดการทีม และมีตัวชูโรงอย่าง “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, ธชตวัน (ตะวัน) ศรีปาน, ดุสิต เฉลิมแสน
เล่นที่ไหนแฟนบอลจะตามเข้าไปชมและเชียร์ชนิดสนามแตกทุกครั้ง เพราะสไตล์การเล่นดุดัน วิ่งสู้ฟัด ทักษะและความเก๋าอาจเป็นรอง แต่ใช้ความสดบวกกับพละกำลังของนักเตะ ไล่บี้บีบ ให้คู่ต่อสู้ต้องเสียบอล ตามคอนเซ็ปต์ “killer bee”
ผลงานไม่ต้องบรรยายสรรพคุณกันมาก แชมป์ซีเกมส์ไม่ต้องพูดถึง ส่วนรอบ 10 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลกโซนเอเชีย พวกเขาก็เคยทำได้มาแล้ว!!!
มาถึงบอลไทยยุคนี้ที่ได้ “ซิโก” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ผันตัวเองมาเป็นโค้ชทีมชาติ ก็ทำผลงานได้อย่างเยี่ยมยอด ด้วยการทวงแชมป์ซีเกมส์ 2013 หลังจากห่างหายไป 6 ปีตั้งแต่ปี 2007 เรียกศรัทธากระแสความนิยมของฟุตบอลกลับมาอีกครั้ง จนถึงอันดับ 4 เอเชียนเกมส์ ที่อินชอน, เกาหลีใต้ ทำให้หลายคนยกนิ้วหรือเรียกนักเตะชุดนี้เป็น “ดรีมทีม 2” เพราะมีสไตล์การเล่นวิ่งสู้ฟัดเหมือนอย่างอดีตรุ่นพี่ดรีมทีม
วันนี้จะพาไปรู้จักนักเตะยังเติร์กบางส่วนที่รวมตัวกันมาตั้งแต่ชุดซีเกมส์ จนถึงเอเชียนเกมส์ และล่าสุดพาทีมชาติไทยเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลซูซูกิ คัพ 2014 เรียบร้อยแล้ว พวกเขาคิดว่าฟุตบอลไทยจะสร้างประวัติศาสตร์ไปเล่นฟุตบอลโลกในชาตินี้ได้หรือไม่?
พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา
อายุ : 21 ปี
ตำแหน่ง : แบ็กซ้าย
สโมสร : บีอีซี เทโรศาสน
หลายคนมองว่าเขาจะเข้ามาเป็นทายาท “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายรุ่นพี่ เนื่องจากมีสไตล์การเล่นที่คล้ายกัน มีความเร็วและเติมเกมรุกดี
“ผมไม่เอาตัวเองไปเทียบกับใคร ขอทำวันนี้ให้ดีที่สุด ผมต้องพัฒนาฝีเท้าไปอีกหลายอย่าง ทั้งความเร็วและพละกำลัง รวมถึงประสบการณ์ยังไม่มากพอ ที่สำคัญต้องรักษามาตรฐานของตัวเองให้ได้ อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง”
ตอนนี้ฟุตบอลไทยกระแสกำลังดี บาสอยากพาทีมคว้าแชมป์ซูซูกิ คัพ ให้ได้ ถ้ามีโอกาสอนาคตอยากจะไปเล่นในลีกยุโรป ส่วนความฝันอยากให้ทีมชาติไทยได้ไปฟุตบอลโลก ทุกคนมีสิทธิฝัน ซึ่งเขาอาจจะทันหรือไม่ ก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เชื่อว่าสักวันทีมไทยจะทำได้แน่นอน
“หากเราเอาชนะทีมยักษ์ใหญ่ในเอเชีย เกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้ มาตรฐานลีกของเรากับของเขาก็ใกล้เคียงกันแล้ว บอกได้เลยว่านักเตะทุกคนไม่มีใครกลัวเกาหลีใต้หรือญี่ปุ่น พวกผมคิดว่าสู้ได้” แบ็กซ้ายทีมชาติ กล่าว
นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม
อายุ : 20 ปี
ตำแหน่ง : แบ็กขวา
สโมสร : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ต้นถือว่าเป็นแบ็กขวาดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดของวงการลูกหนังเมืองไทย ณ เวลานี้ ด้วยลีลาการเติมเกมบุกที่เร้าใจ แถมยังมีความรวดเร็วและอดทน ตามสไตล์ฟูลแบ็กที่ดี นอกจากผลงานในสนามที่โดดเด่นแล้ว หนุ่มหน้าตี๋รายนี้ยังเป็นขวัญใจสาวๆ อีกด้วย
“ติดทีมชาติมาตั้งแต่ 12 ปีครับ ตอนเด็กๆ พ่ออยากให้เล่นกอล์ฟ แต่พอไปลองแล้วมันไม่ใช่สไตล์ผม ชอบฟุตบอลมากกว่า ผมคิดว่าเรื่องความเร็วผมยังเร็วได้อีก ต้องพัฒนาไปอีกขั้น โดยเฉพาะเกมรุกจังหวะสุดท้ายยังไม่ชัวร์ ทีมชาติชุดนี้เล่นกันมานาน เข้าขากันดี โดยเฉพาะแผงกองหลัง แบ็ก 4 ทำให้มองหน้าก็รู้ใจกันหมด ฟุตบอลไทยตอนนี้พัฒนาขึ้นมาก ผมว่าได้ ‘พี่โก้’ มาเป็นโค้ช น้องทุกคนเกรงใจ รักและเคารพ ทำให้นักเตะมีวินัย เหมือนพี่ดูแลน้องมากกว่า ไม่ดุเลย”
สำหรับเป้าหมาย ก็ไม่ต่างจากแฟนบอลทั้งประเทศ คือ อยากให้ฟุตบอลไทยได้ไปฟุตบอลโลก และคิดว่ามันไม่ใช่ความฝัน แต่มันเป็นจริงได้ ขึ้นอยู่กับโอกาสและจังหวะ หากเรามีการจัดการที่ดี นักเตะมีวินัย ลีกแข็งแกร่ง ก็มีลุ้น
ชนาธิป สรงกระสินธ์
อายุ : 21 ปี
ตำแหน่ง : มิดฟิลด์
สโมสร : บีอีซี เทโรศาสน
คนเล็กหัวใจใหญ่ “เมสซีเจ” เกือบอดเล่นฟุตบอลเพราะคุณพ่อบอกว่า “ตัวเล็กอย่างเอ็งอย่าเล่นฟุตบอลเลย โดนกระแทกก็ล้มแล้ว”
คำพูดนั้นฝังอยู่ในหัวเขามาตลอด หลังจากวันนั้นเขาได้พิสูจน์ให้ทุกคนยอมรับว่าตัวเล็กก็ไม่ใช่อุปสรรค เพราะเขามีทักษะฟุตบอลและความเร็วอันยอดเยี่ยม จนเป็นดาวจรัสแสงและตัวหลักในทีมชาติไทยในเวลาต่อมา
“ผมไม่เคยดูบอลนอกเลย ไม่รู้จัก ลิโอเนล เมสซี ด้วยซ้ำ ผมดูแต่ฟุตบอลไทย จนเพื่อนๆ มาบอกว่า ผมเล่นบอลเหมือนเมสซี กับฉายา ‘เมสซี่เจ’ ผมว่ามันเกินจริงไปหน่อย ไม่ค่อยชอบ แต่ถ้าพี่ๆ สื่อเรียกผมก็เลยตามเลยนะ ผมว่าฝีเท้าผมไม่ขนาดนั้น เมสซีเขาระดับโลก ผมว่าอย่าเอาไปเทียบเลย”
ส่วนเรื่องฟุตบอลไทยมีโอกาสจะไปบอลโลกหรือไม่ เจ้าของส่วนสูง 158 ซม.มองว่าไม่ไกลเกินจริง
“ผมว่าฟุตบอลไทยตอนนี้พัฒนาขึ้นมาก โดยเฉพาะไทยลีก มีนักเตะต่างชาติมาเล่นเยอะ นั่นหมายถึงลีกเรากำลังเป็นที่นิยม ส่วนทีมชาติกำลังไปได้สวย ไม่แน่สักวันเราอาจจะได้ไปก็ได้ ซึ่งมันไม่ไกลเกินจริง เพราะมาตรฐานฟุตบอลตอนนี้ใกล้เคียงกัน ที่สำคัญแฟนบอลต้องหนุนหลัง”
ชาริล ชัปปุยส์
อายุ : 22 ปี
ตำแหน่ง : มิดฟิลด์
สโมสร : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (สุพรรณบุรี เอฟซี ยืมตัว)
นาทีนี้คงไม่มีนักฟุตบอลคนไหนมาแรงเท่านักเตะลูกครึ่งสุดหล่อรายนี้ ทั้งลีลาในสนามและความหล่อ ทำให้เข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจทั้งสี่ห้องของแม่ยกสาวน้อยสาวใหญ่เรียบร้อย
“ผมอยากให้ดูฝีเท้าหรือชื่นชอบผลงานมากกว่าหน้าตาครับ ผมจะไม่ปลื้มเลย หากบอกว่าผมหน้าตาดี แต่เล่นฟุตบอลไม่เก่ง ผมอยากให้ชมว่าผมเล่นบอลดีมากกว่า” หนุ่มลูกครึ่งไทยสวิส ย้ำชัด
ชัปปุยส์ ยังเผยอีกว่า ตอนนี้ก็กำลังพยายามพูดไทยบ้าง แต่ภาษาไทยยากมาก พยายามแล้วแต่ก็ทำได้ไม่ดี
“ตอนที่ผมเลือกเล่นทีมชาติไทย พ่อแม่ก็ถามว่าคิดดีแล้วเหรอ ผมบอกว่าคิดดีแล้วครับ ยิ่งมาเล่นให้ทีมชาติยิ่งรักครับ คนไทยน่ารักและอบอุ่น ผมอยากให้ทีมชาติไทยไปฟุตบอลโลกเหมือนทีมชาติสวิสบ้าง ซึ่งมันเป็นไปได้ครับ เราต้องคิดว่ามันเป็นไปได้ และมันก็เป็นเป้าหมายของผมในการเล่นฟุตบอล”
อดิศักดิ์ ไกรษร
อายุ : 23 ปี
ตำแหน่ง : กองหน้า
สโมสร : บีอีซี เทโรศาสน
“กอล์ฟ” ผลงานโดดเด่นทั้งเรื่องของการครองบอลและการยิงประตูที่เฉียบขาด ชั่วโมงนี้เขาอาจเป็นกองหน้าเบอร์สองรองจาก ธีรศิลป์ แดงดา แต่ถือเป็นกองหน้าที่มีความเป็นเพชฌฆาตอยู่ในตัว หลังยิงไปแล้ว 2 ประตู ในซูซูกิ คัพ 2014 ก่อนลงสนามนัดสุดท้าย มีลุ้นเป็นดาวซัลโวในรายการนี้ด้วย
“ผมอยากเรียกศรัทธาแฟนบอลกลับมา หลังจากห่างหายไปพักนึง ทุกครั้งที่ทีมไทยเตะอยากให้คนเข้ามาชมเกมเต็มสนาม นักเตะจะได้ขวัญกำลังใจเพียบครับ ผมมีไอดอล คือ ‘พี่มุ้ย’ ธีรศิลป์ ผมอยากไปเล่นฟุตบอลต่างประเทศเหมือนพี่เขาแน่นอน”
อย่างไรก็ตาม กองหน้าบีอีซี เทโรศาสน ยอมรับว่ายังต้องพัฒนาฝีเท้า และมีข้อปรับปรุงอีกหลายอย่าง
“ผมบอกกับตัวเองว่า อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง ไม่เช่นนั้นมันจะหยุดการพัฒนา เราต้องเรียนรู้จากพี่ๆ อีกเยอะ ฟุตบอลไทยต้องพัฒนาทั้งระบบ สัก 10-15 ปี เราอาจจะไปเล่นบอลโลกก็ได้ แต่ลีกไทยต้องแข็งแกร่ง รวมถึงสมาคมฟุตบอลต้องพัฒนาระดับเยาวชนด้วย เพราะมันเป็นรากฐานในอนาคต”
ไม่แน่สักวัน...แฟนบอลไทยอาจจะได้เห็นพวกเขาเหล่านี้สร้างความสุขให้คนไทย ด้วยการพาฟุตบอลไทยไปฟุตบอลโลกก็ได้ ใครจะรู้???