posttoday

ทำอย่างไรให้การศึกษาไทยไปไกลเท่าฟินแลนด์

29 พฤศจิกายน 2557

การได้มีโอกาสเดินทางมาเรียนรู้และทำความเข้าใจระบบการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ทำให้โลก 360

การได้มีโอกาสเดินทางมาเรียนรู้และทำความเข้าใจระบบการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ทำให้โลก 360 องศาเห็นภาพรวมแนวทางพัฒนาการศึกษาของประเทศนี้ว่ามีปัจจัยสำคัญคือ ชาวฟินแลนด์เชื่อมั่นในคุณค่าของครอบครัวสูง สะท้อนได้จากค่านิยมที่เน้นให้เด็กเล็กก่อนวัยเรียน เรียนรู้การใช้ชีวิตกับครอบครัว มากกว่าการส่งเข้าโรงเรียนรัฐบาล

การศึกษาของฟินแลนด์มีหลักการสอนน้อยแต่เน้นการเรียนรู้และสนุกกับกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ที่เน้นทักษะการใช้ชีวิตเป็นหลัก ซึ่งระดับประถมมีชั่วโมงเรียนวันละไม่เกิน 5 ชั่วโมง อีกทั้งยังกำหนดให้มีจำนวนเด็กไม่เกินห้องละ 12–20 คน เพื่อเน้นการพัฒนาศักยภาพให้ทั่วถึงมากไปกว่านั้น ระบบการศึกษาที่นี่ยังเน้นการพัฒนาศักยภาพ ไม่เน้นการแข่งขัน จึงไม่มีการให้เกรดเฉลี่ย

รัฐบาลให้เอกสิทธิ์แต่ละโรงเรียน สามารถกำหนดรูปแบบการเรียนการสอนของตนเองได้ โดยที่โรงเรียนสามารถจ้างนักบริหารมืออาชีพมาบริหารโรงเรียนได้ และให้กรรมการโรงเรียนดูแล โดยไม่จำเป็นต้องเป็นข้าราชการก็ได้ มากไปกว่านั้นนักเรียนหัวกะทิระดับประเทศ ต่างแข่งขันกันเพื่อเป็นครู

ทำอย่างไรให้การศึกษาไทยไปไกลเท่าฟินแลนด์

 

ระบบการศึกษาของฟินแลนด์ ให้ความสำคัญกับจิตวิญญาณความเป็นครูอย่างสูง และมีการจัดสรรครูเช่น ครูประจำวิชา ครูประจำชั้น และครูพิเศษเพื่อช่วยเหลือเด็กที่เรียนไม่ทันเพื่อนๆ เพื่อให้เด็กๆ มีโอกาสเข้าถึงระบบการศึกษาได้อย่างสัมฤทธิ์ผลที่สุดทั้งนี้ระบบการศึกษาในฟินแลนด์จะไม่สามารถก้าวหน้ามาได้ถึงเพียงนี้ หากปราศจากความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน

ประเทศไทยเองก็ตระหนัก และชื่นชมในความสำเร็จของฟินแลนด์ จึงมีความปรารถนาจะพัฒนาการศึกษา โดยการเรียนรู้จากประเทศฟินแลนด์ จึงเริ่มมีการโครงการส่งครูในโรงเรียน สังกัด กทม. ไปฝึกอบรมที่ประเทศฟินแลนด์

ทำอย่างไรให้การศึกษาไทยไปไกลเท่าฟินแลนด์

 

Kirsti Westphalen เอกอัครราชทูตฟินแลนด์ ประจำประเทศไทย ได้กล่าวถึงโครงการนี้ว่า เป็นความร่วมมือระหว่างทีมฟินแลนด์ ประจำสถานเอกอัครราชทูตฟินแลนด์ ประจำประเทศไทย และกรุงเทพมหานคร ในโครงการทดลองส่งอาจารย์ในสังกัดกรุงเทพมหานครจำนวนหนึ่ง ไปแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการฝึกอบรมครู และการบริหารการศึกษาที่ประเทศฟินแลนด์ ทั้งนี้หากได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจ ในอนาคตข้างหน้าจะมีแนวโน้มขยายความร่วมมือไปสู่สถาบันการศึกษาอื่นๆ อีกด้วย

สิ่งหนึ่งที่โลก 360 องศา เรียนรู้จากระบบการศึกษาของฟินแลนด์คือ เด็กนักเรียนที่นี่แม้จะใช้เวลาเรียนน้อยแต่กลับมีความเข้าใจบทเรียนได้ดี เพราะเขาใช้หลักการเรียนรู้ที่ส่งเสริม “ความเข้าใจในหลักการ” มากกว่า “การท่องจำเนื้อหา” หรืออาจกล่าวได้ว่า ฟินแลนด์ใช้หลัก Concept based มากกว่าหลักของ Content based หากประเทศไทยสามารถนำเอาหลักการนี้มาใช้ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ได้จริง ก็จะสามารถสร้างสรรค์ทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพได้ในอนาคต

ศ.ดร.มรกต ตันติเจริญ หนึ่งในผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาวิทยาศาสตร์ของไทยมองว่า ที่ผ่านมาระบบการศึกษาของไทย อาจไม่ได้สังเคราะห์เนื้อหาจากแหล่งข้อมูลที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นเนื้อหาที่มุ่งให้ผู้เรียนท่องจำ มากกว่าการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง แตกต่างจากฟินแลนด์ที่เน้นการออกแบบหลักสูตรที่เน้น Concept base และ Research base ซึ่งมุ่งเน้นให้เด็กคิดเป็นระบบ ตั้งแต่การเริ่มตั้งคำถาม ถ้าตั้งคำถามผิด ผลลัพธ์ก็ย่อมผิด

ทำอย่างไรให้การศึกษาไทยไปไกลเท่าฟินแลนด์

 

ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ชาวฟินแลนด์ทำมักจะประสบผลสำเร็จอยู่เสมอ สังเกตได้ว่านอกจากฟินแลนด์แล้ว ประเทศที่มีแนวทางการพัฒนาการศึกษาใกล้เคียงกัน ประเทศเหล่านั้นมักจะส่งออกนวัตกรรมและเทคโนโลยีจนมีฐานะร่ำรวย เช่น สหรัฐอเมริกาส่งออกเทคโนโลยีไอที และอิสราเอลส่งออกนวัตกรรมทางการเกษตร ทั้งๆ ที่มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย

ประเทศไทยเดิมทีนั้นเรามีจุดขายด้านแรงงาน แต่ตอนนี้แรงงานเพื่อนบ้านเราถูกกว่า เราจึงติดกับกับดักรายได้ปานกลาง ถ้าเราอยากหลุดพ้นตรงนั้น เราคงหนีไม่พ้นการสร้างงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ
เพื่อส่งออก มากกว่าการเป็นผู้รับเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว

อันที่จริงแล้วประเทศไทย ก็ให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพการศึกษา มานานหลายปีแล้ว เพียงแต่องค์ประกอบและวิธีการต่างๆ ที่ยังไม่ลงตัว ประกอบกับเงื่อนไขต่างๆ ไม่เอื้ออำนวย ทำให้ผลลัพธ์ออกมา ยังไม่สร้างการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดเป็นรูปธรรม

ทำอย่างไรให้การศึกษาไทยไปไกลเท่าฟินแลนด์

 

ในความเห็นของ รศ.ประภาภัทร นิยม หนึ่งในผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาทางเลือกของไทย และปัจจุบันท่านยังเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมองว่า ที่ผ่านมาหลายคนอาจมองว่า การศึกษาของไทยยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากเป็นการมองผลที่เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียน แท้จริงแล้ว โครงสร้างรวมไปถึงการบริหารจัดการต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงทุกยุคทุกสมัย

แต่นั่นเป็นการเปลี่ยนแปลงจากบนลงล่าง ซึ่งไม่ก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ของการศึกษามากนัก ในความเห็นของ รศ.ประภาภัทร มองว่า การปฏิรูปครูผู้สอน ดูเหมือนว่าจะเหมาะสมที่สุดกับประเทศไทยในเวลานี้ เพราะครูคือบุคคลที่มีความใกล้ชิดและใช้เวลาอยู่กับนักเรียนมากที่สุดต่อวัน

การทดลองหนึ่งที่ รศ.ประภาภัทร หยิบยกต้นแบบมาจากฟินแลนด์ คือกระบวนการ Teacher Feedback หรือการสะท้อนผลงานครู คือการใช้ทีมครูและผู้บริหาร ลงไปช่วยบริหารจัดการคุณภาพของครูผู้สอน ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงหรือโค้ช เพื่อเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำการเรียนการสอน โดยจะต้องประเมินผลงานครูกับนักเรียนเป็นรายบุคคล ซึ่งเป็นการประเมินวัดผลกับเด็กนักเรียน แต่มาปรับที่ครู

วิธีการนี้ทำให้ครูไม่ต้องแบกภาระแต่เพียงผู้เดียว แต่มีทีมครูและผู้บริหารช่วยอีกแรง แต่สิ่งสำคัญที่จะทำให้วิธีการนี้สัมฤทธิผลได้อย่างเต็มที่ คือการปลดล็อกโครงการต่างๆ ที่ไม่สามารถทำให้ครูทุ่มเทการสอนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งอาจจะต้องจัดการในระดับบนลงล่างหรือในเชิงนโยบายนั่นเอง

เรื่องราวทั้งหมดที่โลก 360 องศาได้มีโอกาสนำเสนอผ่านซีรี่ส์ของฟินแลนด์ ก็เพื่อที่จะให้เห็นว่า ระบบการศึกษาของฟินแลนด์นั้น คือระบบการศึกษาที่ดีที่สุดโมเดลหนึ่งในโลก ถ้าหากว่าประเทศไทยมีการหยิบเอาโมเดลบางอย่างมาปรับประยุกต์ใช้ เรามีความเชื่อเหลือเกินว่า สิ่งที่เรานำเสนอไปนั้นจะสร้างประโยชน์ไม่มากก็น้อยต่อระบบการศึกษาของไทย

ถ้าหากว่าระบบการศึกษาของไทยมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น เราก็จะมีความมั่นใจได้ว่าเยาวชนของเราในอนาคตนั้น ก็จะมีคุณภาพที่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการแข่งขันและพัฒนา ที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มากขึ้นในอนาคต

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2