เดวิด ชริกลีย์ ชีวิตและงาน
ครั้งแรกของชาวออสซี่ที่จะได้ศึกษาเจาะลึกผลงานศิลปะที่เข้ารอบสุดท้ายรางวัลเทอร์เนอร์ของ เดวิด ชริกลีย์ ในเมลเบิร์น ณ หอศิลป์แห่งชาติวิกตอเรีย กับนิทรรศการ David Shrigley: Life and Life Drawing ที่รวบรวมผลงานล่าสุดของศิลปินชาวอังกฤษ อันเต็มไปด้วยความเรียบง่าย มากมายอารมณ์ขันแบบเสียดสี โดยเฉพาะการเล่นกับร่างกายคน และความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์
ครั้งแรกของชาวออสซี่ที่จะได้ศึกษาเจาะลึกผลงานศิลปะที่เข้ารอบสุดท้ายรางวัลเทอร์เนอร์ของ เดวิด ชริกลีย์ ในเมลเบิร์น ณ หอศิลป์แห่งชาติวิกตอเรีย กับนิทรรศการ David Shrigley: Life and Life Drawing ที่รวบรวมผลงานล่าสุดของศิลปินชาวอังกฤษ อันเต็มไปด้วยความเรียบง่าย มากมายอารมณ์ขันแบบเสียดสี โดยเฉพาะการเล่นกับร่างกายคน และความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์
นิทรรศการ David Shrigley: Life and Life Drawing เพิ่งเปิดไปเมื่อวันศุกร์ที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา (จัดไปจนถึง 1 มี.ค. 2015) ประกอบไปด้วยภาพดรออิ้ง เพนติ้ง ประติมากรรม ศิลปะจัดวาง แอนิเมชั่นวิดีโอ หนังสือของศิลปิน และอื่นๆ อีกมาก รวมทั้งผลงานประติมากรรมชิ้นใหม่ ที่เขาสร้างสรรค์เพื่อประดับน้ำตกหน้าหอศิลป์แห่งชาติวิกตอเรียในครั้งนี้โดยเฉพาะ ชื่อว่า General Store
อารมณ์ขันแบบที่เรียกว่าเป็นตลกแบบเสียดสี นับว่าเป็นหัวใจในผลงานของเดวิด ชริกลีย์ ก็ว่าได้ เขาถ่ายทอดออกมาเป็นตัวการ์ตูนที่น่าเศร้า แปลกประหลาด บิดเบี้ยว (หรือบางคนอาจเห็นว่าน่ารังเกียจเล็กๆ) รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันที่ดูเหนือจริงแบบเหลวไหลไร้สาระ
"เดวิด ชริกลีย์ นับเป็นศิลปินร่วมสมัยที่มีความโดดเด่นเป็นตัวของตัวเองอย่างยิ่ง" โทนี เอลล์วูด ผู้อำนวยการหอศิลป์แห่งชาติวิกตอเรีย บอก "ผลงานของเขานอกจากเป็นที่รู้จักกันว่ามากมายอารมณ์ขันแล้ว แม้ว่าจะนิยมภาพลายเส้นในสไตล์ขาวดำ เหมือนภาพวาดการ์ตูนง่ายๆ หากแต่ละภาพก็ถ่ายทอดมิติของเรื่องราวประสบการณ์ในชีวิตของมนุษย์ในมุมมองของเขาออกมาได้เป็นอย่างดี"
สำหรับ เดวิด ชริกลีย์ เมื่อปี 2013 ที่ผ่านมา ผลงานของเขาผ่านเข้ารอบสุดท้ายของการตัดสินรางวัลโทนีของอังกฤษ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย สำหรับนิทรรศการ Brain Activity ซึ่งจัดในเฮย์เวิร์ด แกลเลอรี่ กรุงลอนดอน เมื่อปี 2012 ที่ได้รับเลือก แม้ว่าก่อนหน้านั้นเขาเป็นศิลปินที่ได้รับคัดเลือกให้มาจัดแสดงผลงานใน Fourth Plinth Commission อันทรงเกียรติ ณ จัตุรัสทราฟัลการ์ ในปี 2016 ที่จะถึงนี้ก็ตาม
อาจด้วยเพราะผลงานนิทรรศการ Brain Activity ในปี 2012 ที่เข้ารอบสุดท้ายรางวัลโทนีนั้น มีผลงานชิ้นสำคัญ เป็นศิลปะจัดวาง (Sculptural Installation) รูปชายหน้าตาประหลาดขนาดใหญ่กว่าคนจริง ยืนเปลือยกายปัสสาวะลงถังน้ำทุกๆ 2 นาที กลางห้องสอนวาดรูป โดยรอบๆ มีเก้าอี้เรียงรายพร้อมกระดาษ กระดานสเกตช์ ดินสอ และสี ให้ผู้มาเยือนได้ลองวาดภาพหุ่นชายประหลาด หลังจากนั้นก็จะได้โชว์ผลงานแต่ละคนเอาไว้ ณ ผนังห้องแห่งนั้น
ผลงานดรออิ้งภาพชายยืนปัสสาวะ ส่วนใหญ่เป็นของคนไร้ชื่อ มือสมัครเล่น หากก็มีบรรดาคนดังและศิลปินมีชื่อเสียงที่มาร่วมสนุกในการวาดเล่น และก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของศิลปะจัดวางชุดนั้นไปโดยปริยาย โดยสำหรับ David Shrigley : Life and Life Drawing ที่หอศิลป์แห่งชาติวิกตอเรียในเมลเบิร์น ก็ได้นำมาจัดแสดงเอาไว้ในรูปแบบเดียวกันด้วย
นอกจากนี้ ยังมีผลงานศิลปะจัดวางจากปี 2009 ในเซต Beginning, Middle and End 2009 กลุ่มผลงานจากปีดังกล่าว อย่างเช่น Together ประติมากรรมรูปไส้กรอก 2 ชิ้น ที่ใช้ดิน 2 ตัน ในการปั้น โดยเริ่มแรกของการสร้างสรรค์ เดวิดทำให้เจ้าดินเหนียวยังคงเปียกเล็กน้อย และสามารถที่จะกลิ้งเจ้าชิ้นงานนี้ไปมาในห้องแสดงงานได้ (ตามไอเดียแปลกประหลาดของเขา) และแล้วเจ้าไส้กรอกดินเหนียวก็จะแห้งและแตกเป็นขุยไปตามกาลเวลา จนกลายเป็นคล้ายลำไส้ที่เสื่อมสภาพ -- นั่นเป็นวิธีคิดที่ขำๆ ของเขาเกี่ยวกับร่างกายของมนุษย์
"ผลงานของเดวิด ชริกลีย์ เป็นแนวคิดแย่มากๆ นะ ผมว่าเป็นสิ่งที่เราเห็นที่ไหนก็ได้ แล้วก็พยายามไปนิดนึง" เอเดรียน เซียร์ นักวิจารณ์ศิลปะชาวอังกฤษ กล่าว "มีศิลปินหลายๆ คนที่พยายามจะให้คุณเชื่อว่านี่คือแนวทางสร้างสรรค์ของพวกเขา แต่ผมว่ามันง่ายไปหน่อย"
เดวิด ชริกลีย์ เกิดที่แมคเคิลส์ฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ในปี 1968 เขาจบการศึกษาจากโรงเรียนศิลปะแห่งกลาสโกลว์ ในสกอตแลนด์ ในปี 1991 ระหว่างปี 2005-2009 ผลงานดรออิ้งของเขาปรากฏทุกๆ สัปดาห์ในนิตยสารสุดสัปดาห์ของหนังสือพิมพ์ The Guardian
นอกจากนี้ เขายังออกหนังสือรวบรวมผลงานศิลปะมากกว่า 40 เล่ม ที่ดังๆ ก็อย่างเช่น What the Hell Are You Doing?: The Essential David Shrigley (2010) How Are You Feeling? (2012) และ Weak Messages Create Bad Situations ซึ่งกำลังจะออกกับสำนักพิมพ์แคนอนเกต บุ๊กส์ ก่อนสิ้นปีนี้ โดยหอศิลป์แห่งชาติวิกตอเรีย ได้แยกส่วนจัดแสดงสิ่งพิมพ์ของเขาออกมาเป็นพิเศษในการนี้ด้วย
ในส่วนนี้ไม่ใช่เป็นการจัดแสดงเพื่อการขายหนังสือของศิลปิน ทว่าจะมีทั้งเนื้อหาของนักวิจารณ์ต่างๆ ทั้งสนับสนุนและคัดค้านในตัวเขา รวมทั้งหนังสือศิลปะของศิลปิน ท่านอื่นๆ ที่ เดวิด ชริกลีย์ เป็นคนเลือกมาเอง ห้องเดียวกันยังจัดโชว์ผลงานมิวสิควิดีโอแอนิเมชั่น ที่เขาเคยทำให้วงเบลอร์ และนักร้อง-นักแต่งเพลง บอนนี่ พรินซ์ บิลลี่ รวมทั้งปกอัลบั้มของวงพังก์ เดียรฮูฟ กับโปสเตอร์ โอเปร่า Pass The Spoon ที่เขาเข้าไปมีส่วนร่วม เช่นเดียวกับการร่วมงานกับเดวิด เบิร์น และอีกมากมาย
งานนี้ ภัณฑารักษ์ อย่าง แมกซ์ เดลานี และเซเรนา เบนท์ลีย์ จัดเต็มให้ทุกคนที่เข้ามาชมนิทรรศการได้รู้ไส้รู้พุง เดวิด ชริกลีย์ กันอย่างMทะลุปรุโปร่งแน่นอน


