เมื่อสาวใหญ่ปิ๊งรักหนุ่มวัยเอ๊าะ
สถานการณ์ : ฉันว่าสมัยนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้าสาวใหญ่วัย 40 กะรัตนิดๆ อย่างฉันจะชอบหนุ่มวัยเอ๊าะที่อายุน้อยกว่ายี่สิบปี ทีหนุ่มใหญ่หลายคนยังคบกับสาวๆ ที่อายุรุ่นราวคราวลูกได้เลย แล้วทำไมสาวใหญ่อย่างฉันจะไม่มีสิทธิชอบพอกับหนุ่มที่อายุน้อยกว่าบ้างล่ะ
สถานการณ์ : ฉันว่าสมัยนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้าสาวใหญ่วัย 40 กะรัตนิดๆ อย่างฉันจะชอบหนุ่มวัยเอ๊าะที่อายุน้อยกว่ายี่สิบปี ทีหนุ่มใหญ่หลายคนยังคบกับสาวๆ ที่อายุรุ่นราวคราวลูกได้เลย แล้วทำไมสาวใหญ่อย่างฉันจะไม่มีสิทธิชอบพอกับหนุ่มที่อายุน้อยกว่าบ้างล่ะ
ดูเหมือนว่าฉันจะเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงก็จริง แต่บางครั้งฉันก็อดหวั่นไหวไปกับคำติฉินนินทาที่ลอยมาเข้าหูไม่ได้ว่า "ไก่แก่แม่ปลาช่อน" บ้าง "โค (สาว) แก่กินหญ้าอ่อน" บ้าง และอีกสารพัดคำเปรียบเปรยในเชิงเสียดสีที่ฉันมักได้ยินอยู่บ่อยๆ นั่นก็เพราะฉันไปปิ๊งรักกับหนุ่มรุ่นน้องในบริษัทที่อายุน้อยกว่าฉันถึงยี่สิบปีนั่นเอง
เขาชื่อ "เคน" เป็นหนุ่มหน้าตาดี มีความเป็นผู้ใหญ่สูง ถึงเราจะทำงานอยู่คนละแผนก แต่เราก็มักจะนัดไปกินข้าวกลางวันตามร้านใกล้ๆ ที่ทำงานอยู่เรื่อยๆ ตอนแรกก็ไม่มีใครรู้เรื่องของเราหรอก แต่พอมีเพื่อนร่วมงานหญิงคนหนึ่งเห็นเข้าก็พูดกันปากต่อปาก จนเรื่องของฉันกับเคนกลายเป็นเรื่องสาธารณะที่ทุกคนรู้กันทั่วออฟฟิศแล้วตอนนี้
แม้เราสองคนจะคบหากันด้วยความเข้าใจ เคนเองก็บอกว่าอย่าไปสนใจคำพูดของใครเลย แต่ฉันก็อดคิดมากไม่ได้เวลาที่ได้ยินเพื่อนร่วมงานหญิงจับกลุ่มซุบซิบว่าคู่เราคงคบกันได้ไม่นานหรอก หรือพากันเมาท์ ว่าฉันเป็นฝ่ายถูกผู้ชายรุ่นน้องคนนี้หลอก และอีกหลายประเด็นที่จะพูดกันไป เมื่อได้ยินบ่อยๆ เข้าฉันก็รู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลย ฉันควรจะมีวิธีรับมือกับเรื่องติฉินนินทาหรือความขี้อิจฉาจากเพื่อนร่วมงานหญิงขี้เมาท์เหล่านี้ยังไงดีนะ ฉันถึงจะมีภูมิต้านทานคำครหาที่จะทำให้ชีวิตมีความสุขมากกว่านี้
ทางออก : ในสังคมบ้านเรา การที่สาวใหญ่ไปชอบหนุ่มอายุน้อยกว่านั้นมีจำนวนน้อยกว่าหนุ่มใหญ่ไปชอบสาวเอ๊าะๆ ซึ่งจะพบเห็นได้มากกว่า กรณีของคุณจึงกลายเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ในสายตาของคนทั่วไปเป็นเรื่องธรรมดา อาจเป็นเพราะว่าสาวใหญ่บางคนที่อยากจะจีบหนุ่มรุ่นน้องที่อายุน้อยกว่าคนที่อยากจะจีบหนุ่มรุ่นน้องที่อายุน้อยกว่าเกิดความรู้สึกไม่กล้า กลัวจะอกหัก กลัวจะรักเขาข้างเดียว หรือกลัวเขาจะมาหลอกเอาเงินทอง และอีกร้อยแปดเหตุผลที่พวกเธอนำมาอ้างเพื่อป้องกันตัวเอง หลายคนก็เลยต้องครองตัวเป็นโสดกันต่อไปเพราะความกลัวและความไม่กล้า
แต่ในเมื่อคุณเป็นคนหนึ่งที่บังเอิญมี
ความรักกับหนุ่มรุ่นน้องซึ่งเป็นคนดี และความรักของคุณทั้งคู่ก็กำลังไปได้สวย ก็ให้คิดซะว่าคุณโชคดีมากๆ แล้วล่ะ วิธีรับมือกับคำครหาต่างๆ ก็คือการปล่อยวาง ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่สามารถทำได้เลย ไม่ว่าใครจะนินทาว่าร้ายหรือเมาท์คุณลับหลังเสียๆ หายๆ ยังไงก็ตาม ให้คุณทำใจให้หนักแน่นไว้ก่อน เวลาเดินไปไหนด้วยกันกับแฟน ถ้าใครมองแล้วซุบซิบว่าชายหนุ่มของคุณมากับน้าหรือแม่กันแน่ ก็อย่าไปใส่ใจ จะมองก็มองไป อย่าได้แคร์ ถ้าปล่อยวางได้แบบนี้คุณก็น่าจะสบายใจขึ้นแล้วล่ะ
อันที่จริงแล้วสายตาคนภายนอกน่ะไม่สำคัญเท่ากับคนในครอบครัวหรอกนะ ที่คุณควรกังวลมากกว่าก็คือความรู้สึกของคนในครอบครัวคุณนี่สิ เพราะถ้าพวกเขาเกิดไม่ชอบขี้หน้าหนุ่มน้อยของคุณขึ้นมา หรือครอบครัวฝ่ายชายเกิดไม่ประทับใจคุณ มันก็อาจจะกระทบกระเทือนต่อจิตใจของคุณได้ยิ่งกว่า แต่หากคนในครอบครัวของคุณและครอบครัวฝ่ายชายไม่ได้ต่อต้านหรือแสดงความคิดเห็นใดกับเรื่องที่คุณทั้งคู่คบกัน หรือถ้าโชคดียิ่งกว่านั้นที่พวกเขาเห็นด้วยกับความรักของพวกคุณก็โล่งอกMไป.เพราะไม่งั้นคงเรื่องยาวแน่นอน!


