แม่ทัพหญิง ยูนิลีเวอร์ ทำงานด้วยความรัก

“สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์” ถือเป็นผู้หญิงไทยคนแรกที่ก้าวขึ้นเป็นประธานกรรมการบริหาร คนที่ 23 ของกลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ในรอบ 82 ปี และเป็น 1 ใน 4 ของโลกของยูนิลีเวอร์ ร่วมกับ ศรีลังกา สาธารณรัฐซิมบับเว อิสราเอล ที่มีแม่ทัพหญิงบริหารงานมาสัมผัสกับแรงบันดาลใจสำหรับการทำงานของผู้หญิงเก่ง แกร่ง และมีความเป็นกันเองของเธอ

สุพัตรา  เล่าว่า การเข้ามานั่งตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ยูนิลีเวอร์ ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายของการทำงาน คือทำอย่างไรถึงจะสามารถผลิตสินค้าด้วยต้นทุนที่ถูกและมีประสิทธิภาพสูงสุด และทำตลาดอย่างไรเพื่อทำให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคภายใต้ราคายุติธรรม ขณะเดียวกันการผลิตสินค้าต้องสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลดลง

แนวทางของการทำงานแม้ว่าการเข้ามานั่งเก้าอี้สำคัญในครั้งนี้ จะไม่มีวาระว่าจะกี่ปีหรืออยู่นานเท่าไร แต่เธอมองว่าในยามที่ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกผันผวนตลอดเวลา อย่าเอามาเป็นข้ออ้างในการทำงาน สำคัญที่สุดแผนต้องปรับให้เร็ว ปรับให้ทันกับพฤติกรรมผู้บริโภค หากเศรษฐกิจไม่ดีอยู่ในยุคฝืดเคือง ยูนิลีเวอร์กลับมาโฟกัสที่ธุรกิจหลัก มุ่งเน้นสินค้ากลุ่มแมสหรือสินค้าทั่วไป เพราะผู้บริโภคจะระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย

หลังจากได้รับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ต้องทำการบ้านอย่างหนัก เริ่มเดินสายเยี่ยมโรงงาน 2 แห่ง ที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังและนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ รวมทั้งคลังสินค้าและพนักงานทุกๆ คน อย่างเป็นกันเอง เพราะต้องการทำความรู้จักและเรียนรู้ระบบซัพพลายเชนของยูนิลีเวอร์ทั้งหมด

“แรงบันดาลใจของการทำงานจากนี้ คือ ต้องทำงานให้มีเป้าหมายที่ชัดเจน รู้ว่าต้องการทำอะไรเพื่ออะไร สิ่งหนึ่งที่อยากทำคือต้องการจุดประกายการทำงานให้กับคนรุ่นใหม่ที่จะเติบโต ในด้านของการทำงานต้องทำงานด้วยความรัก มีความหมายมากกว่าการแค่หวังในเรื่องของตัวเลขหรือทางด้านยอดขายเพียงอย่างเดียว” สุพัตรากล่าว

เมื่อถามว่าไอดอลที่ประทับใจ คนแรก คือ กรรณิกา ชลิตอาภรณ์ อดีตรองประธานและกรรมการอำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคล ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นแบบอย่าง การตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวและการเปิดรับกับเทคโนโลยีใหม่ได้รวดเร็ว ส่วน วิโรจน์ ภู่ตระกูล เป็นผู้คว้าตำแหน่งประธานกรรมการบริหารคนแรกของไทย และอลัน โจ๊พ หนึ่งในผู้บริหารของยูนิลีเวอร์ชื่นชอบความเป็นผู้นำ

สุพัตรา เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้เริ่มทำงานที่ยูนิลีเวอร์มาเมื่อปี 2535 ในตำแหน่งผู้จัดการวิจัยตลาดผลิตภัณฑ์เส้นผม ศูนย์นวัตกรรมเส้นผม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากนั้นได้รับโอกาสจากยูนิลีเวอร์มากมาย ทั้งในไทยและโดยเฉพาะการได้ไปสัมผัสกับประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศร่วมกว่า 10 ปี อาทิ ตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหาร ผลิตภัณฑ์ครัวเรือนและเครื่องใช้บุคคล มาเลเซีย และประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารภูมิภาคจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ขณะที่ตำแหน่งในไทยก่อนจะนั่งเก้าอี้ประธานกรรมการบริหาร คือ ตำแหน่งรองประธาน กลุ่มธุรกิจอาหารและไอศกรีม ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน อาหาร กระทั่งปัจจุบันทำงานในยูนิลีเวอร์มาร่วม 22 ปี ยังรู้สึกสนุกกับการทำงาน

หากถามถึงผลงานที่โดดเด่นคงหนีไม่พ้น ไอศกรีม “แม็กนั่ม” กับการใช้สื่อ โซเชียลมีเดีย สร้างกระแสก่อนขายสินค้า โดยนำดาราคนดังระดับแถวหน้า 5 คน อาทิ อนันดาเอเวอร์ริ่งแฮม และชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต มาสร้างกระแสความสนใจด้วยการถ่ายทอดความรู้สึกของพวกเขาที่มีต่อไอศกรีมแม็กนั่ม โดยใช้โซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรมกระทั่งแม็กนั่มสร้างยอดขาย 10 ล้านแท่งต่อเดือน โดยได้รับรางวัลต่างๆ หนึ่งในนั้น คือ รางวัลเหรียญทองจาก APPIES สิงคโปร์ ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่สุดยอดแคมเปญการตลาดในทวีปเอเชีย

หลายคนมองว่าการทำงานเป้าหมายที่สำคัญ จะต้องตีกลับมาเป็นตัวเลขหรือด้านยอดขาย แต่ผู้หญิงนัมเบอร์วันแห่งยูนิลีเวอร์ “สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์” กลับมุ่งเน้นการทำงานด้วยความรักให้กับผู้บริโภคคนไทย และนั่นคือพันธกิจที่ผู้หญิงคนนี้ให้ไว้สำหรับการพัฒนาสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อชีวิตของคนไทยให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น