ชีวิต อาหาร คุกกี้ เชฟโจ้ ชัยรัตน์ เขื่อนโพธิ์

คนชอบคุ้กกี้คงรู้จักหรือคุ้นเคยคุกกี้ที่นำเข้าจากสหรัฐ แบรนด์ว่า มิสซิสฟีลด์ (Mrs.fields) เป็นอย่างดี วันนี้ผมมีเชฟหล่อขาวตี๋ ผู้ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ของที่นี่ มาร่วมพูดคุยถึงประสบการณ์ชีวิตและมุมมองความคิดที่น่าสนใจ เขาชื่อ เชฟโจ้-ชัยรัตน์ เขื่อนโพธิ์ ครับ

"ผมเป็นคน จ.นครราชสีมา เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาที่นั่น แล้วไปเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก ด้านการประชาสัมพันธ์ พอเรียนจบก็ถามตัวเองว่าจะทำอะไรดี จะทำงานหรือเรียนปริญญาตรีอีกใบในสิ่งที่ตัวเองรัก นั่นคือการทำอาหาร เพราะตอนเด็กๆ มักคอยเป็นลูกมือให้คุณย่าที่ทำอาหารขายเอาเป็นว่าช่วงเวลานั้นเครียดมากมันสับสนไปหมด งานก็ต้องสมัคร ซึ่งพอได้งานแล้ววันที่ต้องไป

รายงานตัวกับที่ทำงาน ดันเป็นวันที่ต้องไปรายงานตัวกับที่เรียน สุดท้าย ผมก็เลือกไปรายงานตัวกับที่เรียน ที่คณะวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรมอาหารและการบริการ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ซึ่งผมใช้การเทียบโอนหน่วยกิตจากปริญญาใบแรก จากที่ต้องเรียนสี่ปี ก็กลายเป็นเรียนแค่สองปีครับ"

เชฟโจ้เผยว่า เขามักจะคอยถามใจตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า ทำอะไรแล้วมีความสุข แล้วก็รู้ตัวมาตลอดว่า ทำอาหารนี่แหละคือความสุข สนุกกับการทำและมีความสุขการที่มีคนกินแล้วติชม

"การเรียนทำอาหารมีทั้งการเรียนทฤษฎีและปฏิบัติ พอเรียนจบผมก็เข้าร่วมโครงการไปทำงานที่ร้านอาหารไทยที่รัฐโอเรกอน สหรัฐ ไปทำงานที่นั่นอยู่ปีกว่าๆ พอกลับมา ก็มาทำงานที่ธนาคารธนชาต ทำได้ 6 เดือนรู้สึกไม่ใช่ ก็เลยออกมามาเรียนทำขนมหวานที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต

 

ด้วยความที่เราเป็นคนใจร้อนเลยมาฝึกความใจเย็นด้วยการทำขนมหวาน พอเรียนแล้วเรารู้ว่ามันยากมาก เพราะเวลาเราทำผิดสูตรมันก็เสียไปเลย แก้ไขไม่ได้เหมือนทำอาหาร ผมใช้เวลาเรียนอยู่ 9 เดือนและฝึกงานอีก 3 เดือน พอเรียนจบปุ๊บ ก็ได้มาทำงานที่มิสซิสฟีลด์ จริงๆ ผมไม่ถนัดทำคุกกี้ ผมเป็นคนชอบทำเค้ก แต่พอได้มีโอกาสเข้ามางานที่นี่ มันมีอะไรที่มากกว่าที่เราคิด ผมได้ศึกษาได้ทดลองทำจนได้เรียนรู้ว่าส่วนผสมกับอุณหภูมิเป็นเรื่องสำคัญของการทำคุกกี้"

เชฟโจ้ทำงาน ณ ที่แห่งนี้มาได้ 3 ปีแล้ว เป็น 3 ปีที่เขาสามารถนำคุกกี้มาทำเป็นเมนูใหม่ ผสมกับวัตถุดิบอื่นๆ ให้ออกมีหน้าตาแปลกใหม่ ซึ่งเขาถือว่า นี่คือโอกาสแห่งการได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน

"ผมชอบที่ได้ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ การเป็นเชฟถือเป็นงานที่เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ รวมทั้งเป็นวิทยาศาสตร์ด้วย เพราะงานแบบนี้มันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว มันมีต้องทดลองทำอย่างมีศาสตร์และศิลป์ และเป็นงานที่ไม่มีคำว่าหยุดนิ่งครับ (ยิ้ม)"

เชฟโจ้เผยว่า เขายังสนุกกับการทำงาน ณ ที่แห่งนี้ แต่อนาคตเขาก็มีฝันอยากเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง ซึ่งเขาเชื่อว่าความรู้และประสบการณ์ของเขาจะนำพาเขาให้ไปถึงจุดจุดนั้นในท้ายที่สุด

 

เมนูดาร์กช็อกโกแลต (เมนูพิเศษ)

ส่วนผสม

แป้งอเนกประสงค์ 150 กรัม

ผงโกโก้ 27 กรัม

ดาร์กช็อกโกแลต (70%) 180 กรัม

เนย 170 กรัม

น้ำตาลทราย 200 กรัม

ผงฟู 4 กรัม

เกลือ 4 กรัม

ไข่ไก่ 3 กรัม

กลิ่นวานิลลา 8 กรัม

ช็อกโกแลตชิป 40 กรัม

วิธีทำ

1.เปิดเตาอบ วอร์มที่ 160 องศาเซลเซียส เตรียมพิมพ์ ทาเนย และปูกระดาษรองอบ (พักไว้)

2.นำเนยและดาร์กช็อกโกแลตมาละลายรวมกัน ทิ้งไว้พออุ่นๆ และใส่กลิ่นวานิลลาลงไป (พักไว้)

3.ร่อนแป้ง ผงโกโก้ ผงฟู เกลือรวมกัน

4.ตีไข่กับน้ำตาลทรายรวมกัน ให้น้ำตาลทรายละลาย นำส่วนผสมข้อที่ 2 ใส่ลงไป ผสมให้เข้ากัน หลังจากนั้น ร่อนแป้งลงไป ผสมให้เข้ากัน และใส่ช็อกโกแลตชิปลงไป ผสมให้เข้ากันและเทใส่พิมพ์ นำเข้าเตาอบประมาณ 40 นาที

5.หลังจากนั้น นำมาตกแต่งหน้าตามให้สวยงาม กับวัตถุดิบอื่นๆ เช่น มาการอง คาราเมล หรือไอศกรีม

 

เมนูไอศกรีมกับคุกกี้มิสซิสฟีลด์

ส่วนผสม

1.คุกกี้สูตรเฉพาะของมิซซิสฟีลด์ 2 ชิ้น

2.ไอศกรีมรสวานิลลา

3.วิปปิ้งครีม

4.ราสพ์เบอร์รี่

5.ใบมินต์ สำหรับตกแต่ง

วิธีทำ

1.นำคุกกี้ 2 ชิ้นมาประกบไอศกรีมรสชาติที่ชอบ แล้วนำมาวางบนจาน

2.บีบวิปครีมข้างๆ คุกกี้กับไอศกรีมกับคุกกี้

3.ตกแต่งด้วยราสพ์เบอร์รี่ หรือวัตถุดิบอื่นๆ ตามความพึงพอใจ