เส้นสีแห่งแดนสวรรค์ เสงี่ยม ยารังษี
ด้วยความเป็นคนช่ำชองในเรื่องการวาดรูปวิวทิวทัศน์ ความตั้งใจแรกของ เสงี่ยม ยารังษี คืออยากแบกเฟรมและกล่องสีไประบายภาพความงามของ "จิ่วจ้ายโกว"
ด้วยความเป็นคนช่ำชองในเรื่องการวาดรูปวิวทิวทัศน์ ความตั้งใจแรกของ เสงี่ยม ยารังษี คืออยากแบกเฟรมและกล่องสีไประบายภาพความงามของ "จิ่วจ้ายโกว" เมื่อตัวเขาเองได้มีโอกาสไปแสดงงานอยู่แรมเดือน ณ เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน สถานที่ซึ่งว่ากันว่างามจับใจที่สุดในช่วงปลายเดือน ต.ค.ของทุกปี โดยจะงามที่สุดเพียง 2 อาทิตย์เท่านั้น
ด้วยความพิเศษที่ปีหนึ่งจะมีเพียงหนเดียว ศิลปินเสงี่ยมจึงเฝ้ารอเวลาเช่นนั้นเพื่อจะไปยืนวาดรูป ณ จิ่วจ้ายโกวสักครั้งของชีวิต แต่ก็ไม่ได้คาดหวังมาก่อนว่า เมื่อได้สัมผัสกับห้วงเวลาที่สวยงามของพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวนที่เรียกว่า จิ่วจ้ายโกว เข้าจริงๆ สถานที่แห่งนี้จะมีพลังถึงขนาดทำให้เสงี่ยมต้องกลับมาสร้างงานในคอลเลกชั่นที่มีชื่อว่า "ธารทิพย์-แดนมังกร" อันเป็นการแสดงงานนิทรรศการครั้งใหม่ของศิลปินวัย 44 ปี
่ในวันที่งานนิทรรศการกำลังเริ่มจัดแสดง เจ้าของนิทรรศการเล่าถึงที่มาที่ไปด้วยความประทับใจให้ฟังว่า "ด้วยความที่ผมอยากมายืนเขียนรูปที่นี่สักครั้ง พอมีโอกาสก็ไปหาซื้อสีซื้อเฟรมขึ้นเพื่อนำไปวาด ซึ่งเวลาเดินทางไปก็ไปแต่เช้าเย็นกลับ แล้วพอได้ไปวิวที่นี่สวยมากทั้งสีของต้นไม้และสีของน้ำที่เป็นสีเขียวมรกต มันงามจับใจจนทำให้วาดเพลิน จนต้องไปซื้อสีซื้อเฟรมมาเพิ่มเลยนะ หลังๆ ก็นอนค้างที่นั่นเลย กลายเป็นทำงานสนุกแล้ววาดจริงจังมาก เรียกได้ว่าแรงบันดาลใจมาเต็ม เพราะธรรมชาติบนนั้นมันสวยจริงๆ"
ศิลปินจาก จ.เชียงราย ยิ้มเมื่อพูดจบ ฟังน้ำเสียงดูมีความสุขเหลือเกิน ที่ได้ทำงานชิ้นนี้ขึ้นเป็นรูปเป็นร่างให้ผู้คนได้เห็นได้สัมผัสกับสิ่งที่เขาสื่อสารออกไป ซึ่งเป็นภาพวาดสีน้ำมันแนวอิมเพรสชั่นนิสม์ตามสไตล์ถนัด อันเป็นรูปวิวทิวทัศน์ของจิ่วจ้ายโกวที่สงบงาม เด่นด้วยสีสันอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเทคนิคการวาดที่เชื่อมโยงไปกับการสงบนิ่งทำสมาธิก่อนลงฝีแปรง ทำให้ได้มุมมองภาพเสมือนได้ไปนั่งมองภูเขา ต้นไม้ และดอกหญ้าสั่นไหวไปตามแรงลมหนาวก็ไม่ปาน
"จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้ คือเรื่องของต้นไม้ที่เปลี่ยนสี ถือเป็นความพิเศษอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างงาน ที่นี่เหมือนสวรรค์และยิ่งใหญ่มาก ผมอยู่เป็นอาทิตย์ก็ยังไม่สามารถมองเห็นความงามของที่นี่ได้หมด แล้วยิ่งเห็นมันยิ่งมีความทะยานอยากในการคิดในการเขียนรูป ทำให้ผมมองเห็นอะไรหลายๆ อย่างและนำมาใส่ไว้ในงาน
"สุดท้ายแล้วงานนิทรรศการชิ้นนี้กลายเป็นงานที่ตั้งใจมากและใช้เวลาในการรับผิดชอบต่อชิ้นงานมากกว่าครั้งอื่น คือค่อนข้างละเอียดกว่าทุกครั้งที่เคยทำ เพราะอยากให้งานที่ออกมาสมบูรณ์ด้วยอารมณ์ความรู้สึก ที่ให้ความรู้สึกอิ่มเอมที่เราได้สัมผัส จึงพยายามถ่ายทอดและดึงความรู้สึกมาใส่ไว้ในงานชิ้นนี้ให้สมบูรณ์มากที่สุดเท่าที่ทำได้"
เสงี่ยม ยังเล่าต่ออีกว่า "ธารทิพย์-แดนมังกร" คืออีกหนึ่งความท้าทายในการทำงานศิลปะของเขา ตัวเขาเองพยายามหาช่วงเวลาที่แสงสวยที่สุดเพื่อวาดรูป กระทั้งต้องยอมนอนทนหนาวตัวสั่นในคืนที่อุณหภูมิติดลบ เพื่อที่จะได้ตื่นเช้ามาชื่นชมความงามอันน่ามหัศจรรย์ของธรรมชาติของจิ่วจ้ายโกว แม้ช่วงเวลานั้นจะผ่านไปแต่เสงี่ยมยังคงจดจำไม่เคยลืมและต่อมาได้กลับมาถ่ายทอดสิ่งที่เห็นเป็นผลงานชิ้นเอกกว่า 10 ชิ้น และนอกจากรูปธรรมชาติแล้ว เขาเองยังวาดรูปวิธีชีวิตของผู้คนและสถาปัตยกรรมเข้าไปด้วย และยังมีภาพที่มีขนาดยาวที่สุดเท่าที่เจ้าตัวเคยเขียนมาจัดแสดงเสริมเข้าไป
จึงทำให้งานในครั้งนี้ค่อนข้างจะมีความต่างอยู่ในที แต่เมื่อมองโดยรวมกลับเห็นความงามของสีที่ผสานไปด้วยกันในงานของเขา และสะท้อนออกมาง่ายและงามดูแล้วอิ่มเอมหัวใจเช่นที่ศิลปินกล่าวไว้
นิทรรศการ "ธารทิพย์-แดนมังกร" จัดแสดงเรื่อยไปตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือน ต.ค. ณ ขัวศิลปะ เชียงราย เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 10.00- 19.00 น. โดยไม่มีค่าเข้าชม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 08-8418-5431


