ราชินีแห่งดีว่า บาร์บรา สตรัยแซนด์
โดย...เพ็ญแข สร้อยทอง
โดย...เพ็ญแข สร้อยทอง
Barbra Streisand
Partners *** (BEC Tero Music)
หลัง Partners ผลงานชุดล่าสุดของ “บาร์บรา สตรัยแซนด์” ออกวางขาย อัลบั้มนี้ก็ไต่ขึ้นถึงอันดับ 1 ในบิลบอร์ดชาร์ต นับเป็นงานอันดับ 1 ชุดที่ 10 ของนักร้องหญิงผู้นี้ และเธอยังสร้างประวัติศาสตร์โดยกลายเป็นศิลปินคนแรกและคนเดียวที่มีอัลบั้มอันดับ 1 ตลอด 6 ทศวรรษติดต่อกัน เริ่มตั้งแต่อัลบั้ม People ซึ่งออกวางขายเมื่อปี 1964 เรื่อยมา
ที่ผ่านมา บาร์บรา ร้องเพลงร่วมกับเพื่อนศิลปินมากมาย ไม่ว่าจะ เซลีน ดิออน ไบรอัน อดัมส์ แบร์รี่ กิ๊บบ์ นีล ไดมอนด์ ฯลฯ การร่วมงานของเธอกับเพื่อนคนดังแต่ละครั้งก็ล้วนแล้วแต่ได้รับความสนใจจากคนฟังทั้งสิ้น ครั้งนี้กับ Partners บาร์บรา สตรัยแซนด์ เลือกร้องเพลงสุดคลาสสิกคู่กับนักร้องชายชื่อดัง ไม่ว่าจะ New York State of Mind กับ บิลลี โจเอล The Way We Were กับ ไลโอเนล ริชี It Had to Be You กับ ไมเคิล บูเบล Come Rain or Come Shine กับ จอห์น แมร์ (และกีตาร์ของเขา) ฯลฯ แม้แต่ เอลวิส เพรสลีย์ ก็ยังมากับ Love Me Tender ซึ่งต้องขอบคุณเทคโนโลยีห้องอัดที่ทำให้เกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ยังมีเพลงคู่ครั้งแรกของเธอกับลูกชาย เจสัน โกลด์ รวมอยู่ด้วย
หนึ่งในคนที่เธอเลือกมาดูเอตด้วยคือ เบลค เชลตัน ศิลปินคันทรี่และกรรมการ เดอะ วอยซ์ ซึ่งตื่นเต้นดีใจมากมายเมื่อนักร้องหญิงระดับตำนานผู้นี้เลือกเขา เมื่อไปถึงห้องอัด เบลคก็พบว่าบาร์บราไม่ได้อยู่ในสตูดิโอด้วย ต่างคนต่างร้องแล้วก็เอามารวมร่างกันทีหลัง ถึงจะไม่อยู่ บาร์บราก็โทรศัพท์มาหาเบลค ทั้งยังส่งของขวัญสำหรับขอบคุณตามมา “ผมยังช็อกอยู่เลย ไม่รู้ว่าเธอรู้จักผมได้ยังไง แต่ผมก็ดีใจนะ” เพลง I’d Want It To Be You ที่พวกเขาร้องร่วมกัน เหมือนเพลงละครเวทีกลิ่นอายคันทรี่
อัลบั้มนี้น่าจะทำให้แฟนๆ ของ บาร์บรา สตรัยแซนด์ ปลาบปลื้มและสนับสนุนเธอเช่นที่เคยทำมาตลอด 50 ปี จะว่าไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรักษาความเป็นศิลปินอันดับ 1 ไว้ได้ตลอดหลายทศวรรษ เหตุผลที่ทำให้เธอคนนี้อยู่ยงคงกระพันและยังเป็นอันดับ 1 มาได้นานขนาดนี้ ข้อแรกน่าจะเป็น เสียงร้อง ด้วยเทคนิคและเสียงร้องระดับเมซโซโซปราโนทำให้ บาร์บรา ร้องเสียงสูงได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นเสียงและวิธีร้องซึ่งแฟนคลับดีว่าทั่วโลกชื่นชอบ เสียงของบาร์บรานั้นเป็นเอกลักษณ์ บางครั้งเธอร้องเสียงขึ้นจมูก บางครั้งร้องแบบสนทนา บางครั้งเธอร้องแจ๊ซด้วยเสียงนุ่มๆ บางทีเธอร็อกจนลำโพงสะเทือน เสียงของบาร์บรานั้นราวกับไร้กาลเวลา เสียงของเธอในวันนี้แทบไม่ต่างจากเมื่อ 50 ปีก่อนเลย นอกจากนั้นแล้วเสียงและผลงานเพลงของ บาร์บรา สตรัยแซนด์ ก็ไม่เคยต่ำกว่ามาตรฐาน นอกจากนั้นแล้วตัวตนและบุคลิกภาพแบบดีว่าของเธอก็มีมนต์เสน่ห์น่าติดตามค้นหาเสมอ
Partners โปรดิวซ์โดย เคนเนธ “เบบี้เฟซ” เอ็ดมอนด์ และ วอลเตอร์ อัฟฟานาซิฟฟ์ เป็นอัลบั้มรวมเพลงสไตล์สแตนดาร์ด/เทรดิชั่นป๊อป/โวคอลป๊อป นุ่มนวลน่าฟังไว้ด้วยกัน 12 แทร็ก ฟังได้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเช้าสายบ่ายค่ำ ไม่ได้เป็นอัลบั้มที่นำเสนอสิ่งใหม่ๆ แต่เป็นงานซึ่งบอกว่า คุณภาพเสียงร้อง มาตรฐานงาน และตัวตนของบาร์บรา ในวัย 72 ปี นั้นไม่ได้ลดน้อยถอยลง รัศมีดาวของเธอนั้นไม่ริบหรี่ลงแม้แต่น้อย
อัลบั้ม Partners ทำให้ บาร์บรา สตรัยแซนด์ เป็นศิลปินคนแรกและคนเดียวที่มีอัลบั้มอันดับ 1 ในช่วงเวลาติดต่อกัน 6 ทศวรรษ อัลบั้มอันดับ 1 ของเธอนับรวมถึง People ซึ่งออกวางขายเมื่อปี 1964 ตามด้วย The Way We Were (ปี 1974) A Star Is Born (ปี 1976) Barbra Streisand’s Greatest Hits Vol. 2 (ปี 1978) Guilty (ปี 1980) The Broadway Album, (ปี 1985) Back to Broadway (ปี 1993) Higher Ground (ปี 1997) Love Is the Answer (ปี 2009)
และ Partners (ปี 2014)
นอกจากอัลบั้มแล้วศิลปินสาววัย 72 ปีคนนี้ยังมีเพลงอันดับ 1 อีกจำนวนหนึ่งคือ People (ปี 1964) The Way We Were (ปี 1974) Evergreen (Love Theme from A Star Is Born), (ปี 1977) You Don’t Bring Me Flowers (ปี 1978) No More Tears (Enough Is Enough) (ปี 1979) และ Woman in Love (ปี 1980)


