ยีนส์แบรนด์ไทยสุดไฮเอนด์
ใครที่เคยคิดว่ายีนส์แบรนด์ไทยมีฝีมือการออกแบบและตัดเย็บที่ด้อยกว่ายีนส์แบรนด์ดังๆ ของต่างประเทศ ให้คิดซะใหม่
โดย...ภาดนุ ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข
ใครที่เคยคิดว่ายีนส์แบรนด์ไทยมีฝีมือการออกแบบและตัดเย็บที่ด้อยกว่ายีนส์แบรนด์ดังๆ ของต่างประเทศ ให้คิดซะใหม่ ลองมาดูยีนส์ไทยสองแบรนด์นี้ ที่พิสูจน์ความมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและคุณภาพที่โดนใจ ในความเป็นยีนส์สายเลือดไทยแท้ๆ ที่มีความไฮเอนด์จนเป็นที่ยอมรับของคนไทยด้วยกัน แล้วยังเป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติซึ่งเป็นต้นตำรับของยีนส์ด้วย
อินดิโกสกิน ยีนส์ที่มาพร้อมศิลปะและผ้าไทย
ก้อธัชวีร์ สนธิระติ เล่าถึงที่มาของการทำยีนส์ไทยแบรนด์อินดิโกสกิน (Indigoskin) ว่าเกิดจากการเริ่มต้นสะสมกางเกงยีนส์มาก่อน จนเป็นแรงบันดาลใจให้ทำยีนส์แบรนด์ของตัวเองขึ้นมา ซึ่งตอนนี้ก็ก้าวเข้าสู่ปีที่ 6 แล้ว
“ตอนแรกผมเริ่มสะสมยีนส์แบรนด์ดังอย่าง ดีเซล ลีวายส์ และนูดี้ ก่อน โดยเริ่มซื้อรุ่นที่หายากขึ้นและแพงขึ้นไปเรื่อยๆ จากนั้นจึงเริ่มหันมาสะสมยีนส์แบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง ซามูไร และโมโมทาโร่ ผมสังเกตว่าราคายีนส์มันแพงขึ้นเรื่อยๆ เป็นหลักหมื่น ทำให้อยากรู้ว่าเขาใช้ผ้าอะไร ผลิตที่ไหน มีดีเทลอะไรบ้าง ทำไมเราถึงต้องยอมควักเงินซื้อขนาดนี้
พอศึกษามากขึ้นก็ได้รู้ว่ายีนส์อเมริกันก็มีเสน่ห์แบบนึง ส่วนยีนส์ญี่ปุ่นก็มีเสน่ห์อีกแบบนึง มีการนำผ้ายูกาตะมาทำซับในกระเป๋า ทำกระดุมรูปดอกซากุระ ผมจึงมาคิดว่าทำไมถึงไม่มีใครนำศิลปะไทย ลายไทย ลายกนก มาใช้กับยีนส์บ้างนะ เมื่อไม่มีใครทำ ผมจึงตัดสินใจทำเองซะเลย”
ก้อเริ่มต้นทำรีเสิร์ชความเห็นผ่านเว็บไซต์ www.soul4street.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับสินค้าสตรีทแวร์ที่เขาเป็นผู้ตอบกระทู้เรื่องยีนส์อยู่แล้ว ว่าเขาจะทำยีนส์แบรนด์ไทยที่ใช้ผ้าไทยและลายไทยมาผสมผสาน ใครมีความเห็นยังไงบ้าง ผลปรากฏว่าสมาชิกในเว็บต่างตอบรับเป็นอย่างดี เขาจึงรวบรวมไอเดียต่างๆ แล้วเดินหน้าสานฝันทันที
“คนเล่นยีนส์จะรู้อยู่แล้วว่าผ้ายีนส์ที่คนยอมรับคือผ้ายีนส์จากญี่ปุ่น ผมจึงติดต่อไปยังโรงงานไคฮาร่าที่ญี่ปุ่น เรียกว่าตื๊ออยู่นานจนโรงงานยอมขายผ้าให้ โดยขอดูคอนเซ็ปต์ไอเดียของยีนส์ก่อน จากนั้นโรงงานก็ส่งผ้ามาให้เมื่อถึงเวลาออกแบบ ผมเลยคิดว่าน่าจะนำผ้าไทยมาเป็นส่วนประกอบของยีนส์ด้วย เลยนึกถึงผ้าไทยโขมพัสตร์ซึ่งมีชื่อเสียงมานาน โดยขอให้โขมพัสตร์ทำผ้าสีพิเศษที่ดูร่วมสมัยและเข้ากับยีนส์ให้ และไม่ลืมที่จะปักลายกนกลงไปที่กระเป๋าหลังของยีนส์ด้วยครับ”
แม้ไม่ได้จบด้านดีไซน์มา แต่ด้วยความที่เป็นผู้ใช้ยีนส์มาก่อน เขาจึงรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ดังนั้นยีนส์อินดิโกสกินล็อตแรกที่ออกแบบเสร็จแล้ว จึงถูกโพสต์ลงไปในเว็บไซต์ ทำให้ลูกค้าสั่งพรีออเดอร์มามากมาย ซึ่งเอกลักษณ์ของยีนส์ล็อต 1 นี้อยู่ที่กระเป๋าหลังด้านซ้ายที่ปักด้ายลายกนก ป้ายหนังก็ยังเป็นลายกนก ยีนส์มีรูปแบบที่เรียบง่าย ใส่สบาย
“ยีนส์ล็อต 1 ผลิตออกมา 100 ตัว แต่มีลูกค้าพรีออเดอร์มา 60 ตัว ที่เหลือผมก็โพสต์ขายทางเว็บไซต์ เพราะตอนนั้นยังไม่ได้เปิดร้าน โดยขายตัวละ 4,500 บาท ซึ่งตอนนั้นถือว่าเป็นยีนส์ไทยที่ราคาสูงทีเดียว ถัดมาอีก 4 เดือนผมก็ผลิตยีนส์ล็อต 2 โดยเพิ่มดีเทลให้มากขึ้น ออกแบบกระดุมให้มีลายกนก ขอบกระเป๋าหลังใช้ด้ายทองดิ้นเงินมาเย็บ จากนั้นก็มีรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่ร่วมกับจิม ทอมป์สัน โดยนำลายผ้าลินินซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของเขามาเย็บเป็นกระเป๋าหลัง ทำออกมา 100 ตัวก็ขายหมดอีกเหมือนกัน
“หลังจากได้ที่เปิดร้านที่เอสพละนาดก็เริ่มทำยีนส์ล็อต 3 ออกมา โดยใช้ผ้าไฮเอนด์ขึ้นมาหน่อย ใช้ผ้าที่หนาขึ้น มีรุ่นที่เป็นยีนส์วินเทจซีรี่ส์ที่ใช้ผ้าสไตล์เก่าๆ ดีเทลเรียบๆ ง่ายๆ เป็นยีนส์ทรงกระบอกเล็กใหญ่ที่ใช้ผ้าย้อมครามธรรมชาติจากสกลนคร ซึ่งทอด้วยมือมาทำเป็นผ้าซับในกระเป๋า คือทุกล็อตที่ผลิตออกมาจะเปลี่ยนผ้าไม่ให้ซ้ำกัน ลูกค้าจะได้ไม่เบื่อครับ”
ปัจจุบันนี้ยีนส์อินดิโกสกินมีทั้งทรงกระบอกตรง ทรงสลิม และทรงสกินนี่ ส่วนทรงขาม้า อาจต้องรอให้กระแสแฟชั่นหวนกลับมาก่อนจึงค่อยผลิต ราคายีนส์มีตั้งแต่ 4,500-1.59 หมื่นบาท ยีนส์ที่ราคาสูงสุดตอนนี้คือยีนส์รุ่นที่ทำร่วมกับโมโมทาโร่ ซึ่งเป็นยีนส์แบรนด์ดังจากญี่ปุ่น โดยนำลายกนกไทยไปผสมผสานกับสไตล์ของโมโมทาโร่ แล้วจะวางขายในเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ยังเป็นคนไทย 90% เจ้าตัวบอกว่ารอให้พร้อมกว่านี้อีกหน่อยก็น่าจะมีโอกาสโกอินเตอร์
“ผมว่าเสน่ห์ของยีนส์คือเป็นกางเกงที่สามารถนำไปมิกซ์แอนด์แมตช์กับเสื้อผ้าได้หลากหลาย แม้แต่ใส่กับสูทก็ยังทำให้ดูดีเลยครับ ตัวเนื้อผ้ายิ่งเก่ามันก็ยิ่งมีเสน่ห์ เพราะริ้วรอยการเฟดหรือสีซีดจางของคนใส่แต่ละคนมันจะไม่เหมือนกัน เพราะมันบ่งบอกถึงบุคลิกของคนใส่ พูดง่ายๆ ว่ายีนส์เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมีอย่างน้อย 1 ชิ้นในตู้เสื้อผ้าตัวเอง”
(ร้านอยู่ที่สยามสแควร์ ซอย 1 ตรงข้ามโรงหนังสกาล่า และถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 12 จ.เชียงใหม่ Facebook.com/indigoskinjeans
พิกเกอร์ เวิร์กส์ ยีนส์ไทยจากประสบการณ์
ยีนส์พิกเกอร์ เวิร์กส์ (Piger Works) เกิดจากการรวมตัวกันของ 2 หนุ่มหุ้นส่วน โอภาสพงษ์ ทองนุช (โอ) และคงชัช วงศ์รักมิตร (ชัช) ซึ่งรักและมีประสบการณ์กับการใส่ยีนส์มานาน โดยชื่อแบรนด์เกิดจากการนำปีเกิดของชัชซึ่งเกิดปีกุน (Pig) และโอ ซึ่งเกิดปีขาล (Tiger) มารวมกันเป็นคำว่า Piger ส่วน Works ก็หมายถึงผลงานหรือยีนส์ที่ “หมูเสือ” (โลโก้เป็นหมูลายเสือ) ได้สร้างขึ้นมานั่นเอง
“ผมกับพี่ชัชมีโอกาสได้คุยกันจนรู้ว่าต่างฝ่ายต่างชอบยีนส์มากๆ ยีนส์รุ่นนี้เป็นยังไง อันไหนดี อันไหนไม่ดี เรียกว่าเอาประสบการณ์ของเราสองคนมาแชร์กัน เพราะผมเองก็ใส่ยีนส์มาตั้งแต่เรียนมหา’ลัย ความชอบยีนส์มันเลยฝั่งอยู่ในใจเราโดยไม่รู้ตัว เรียกว่าทั้งใส่ทั้งศึกษาเรื่องยีนส์ไปด้วย เราทั้งคู่คิดตรงกันว่าทำไมเราไม่ทำยีนส์ที่ดีที่สุดของคนไทยขึ้นมาเองเลยล่ะ เอาที่มีกระดุมเงินแท้ๆ ด้วยนะ ซึ่งยีนส์ดังๆ บางแบรนด์ก็ไม่ได้ใช้กระดุมเงินแท้ๆ นะครับ แต่จะเป็นกระดุมโลหะชุบซิงก์ พอใช้ไปนานๆ มันก็จะลอกหรือเป็นสนิมได้”
นอกจากความหลงใหลในยีนส์แล้ว ทั้งคู่อยากจะพิสูจน์คำพูดที่ว่า ยีนส์ญี่ปุ่นเป็นยีนส์ที่มีการตัดเย็บที่เนี้ยบที่สุดนั้นไม่จริงเสมอไป เพราะคนไทยเองก็มีฝีมือการตัดเย็บที่สวยงามประณีตไม่แพ้ใครเหมือนกัน จึงเป็นแรงผลักดันให้พวกเขาสร้างธุรกิจยีนส์แบรนด์ไทยจนย่างเข้าสู่ปีที่ 5 แล้ว ซึ่งก็ได้รับการตอบรับมากขึ้นเรื่อยๆ
“ผมกับพี่ชัชเริ่มทำโรงงานออกแบบตัดเย็บยีนส์กันเอง โดยใช้พื้นที่ของบ้านผมเป็นโรงงาน โดยมีการลงทุนซื้อจักรสำหรับเย็บยีนส์ซึ่งเป็นจักรรุ่นเก่าที่ให้รอยเย็บหรือตะเข็บแบบวินเทจ ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ที่เป็นยีนส์สไตล์โมเดิร์นวินเทจพอดี เราใช้เงินลงทุนเป็นหลักล้านเหมือนกัน มีการจ้างช่างเย็บ ช่างออกแบบ แต่บางส่วนผมก็ออกแบบเองด้วยครับ”
โอยอมรับว่าผ้ายีนส์จากญี่ปุ่นยังเป็นผ้ายีนส์ที่ดีที่สุด เขาจึงสั่งผ้ายีนส์มาจากโรงงานในเมืองโอคายาม่า แล้วนำมาตัดเย็บที่โรงงานด้วยมือทั้งหมด ใช้มือวาดลวดลายกระเป๋า แล้วใช้จักรเข็มเดี่ยวเดินลายให้โค้งสวยงามตามแนวที่วาดไว้ รวมทั้งตัวกางเกงยีนส์ด้วย ดังนั้นยีนส์ล็อตแรกที่ออกมา แม้แต่คนจากโรงงานญี่ปุ่นเองก็ยังอดทึ่งในฝีมือการตัดเย็บที่แสนเนี้ยบนี้ไม่ได้
“ยีนส์ล็อตแรกหรือยีนส์ต้นแบบของพิกเกอร์ เวิร์กส์ ที่ตั้งใจว่าจะลองผลิตดูสัก 20 ตัวก่อน แต่ปรากฏว่าพอเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในกลุ่มโซเชียลเน็ตเวิร์กรู้เข้าก็สั่งกันมาถึง 75 ตัว เราจึงผลิตยีนส์ล็อตแรกออกมา 75 ตัว ใช้ชื่อรุ่นว่า เฟิร์ส โพรดักชั่น รัน ราคา 5,950 บาท โดยตั้งใจให้เป็นยีนส์ที่มีคัตติ้งเนี้ยบที่สุดเท่าที่เราจินตนาการไว้”
เมื่อได้รับฟีดแบกที่ดีทั้งคู่จึงลองผลิตยีนส์รุ่นบิ๊กแตงส์เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าออกมาแค่ 25 ตัว ราคา 6,950 บาท เพราะอยากพิสูจน์ความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อยีนส์ ผลปรากฏว่าก็ขายหมดเกลี้ยงไม่เหลืออีก เรียกว่าถ้ามีรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่นรุ่นไหนออกมาลูกค้าก็จะสั่งหมดทุกครั้งไป
“ปรัชญาของพิกเกอร์ เวิร์กส์ คือ ลูกค้าทุกคนมีความเท่าเทียมกัน เราจึงไม่มีการโปรโมทว่าคนดังคนไหนใช้ยีนส์ของเราบ้าง เพราะอยากให้ยีนส์ของเราเป็นสินค้าพรีเมียมสำหรับคนที่รัก ชอบ อยากทำความรู้จัก และเข้าใจยีนส์จริงๆ เท่านั้น ตอนนี้เราจึงยังไม่ได้คำนึงถึงมูลค่าทางการตลาดมากมายนัก ปัจจุบันนี้เรามีสินค้าทั้งยีนส์ขากระบอก ขากระบอกเล็ก ขาบาน ซูเปอร์สลิม และยีนส์เอวต่ำ นอกจากนี้ยังมีสินค้าไลน์อื่น เช่น เสื้อเชิ้ตผ้ายีนส์เดนิมแขนสั้นยาว รวมทั้งกางเกงผ้าชิโนอีกด้วย”
จุดเด่นอีกอย่างของพิกเกอร์ เวิร์กส์ก็คือ การบริการหลังการขายโดยไม่คิดเงิน ถ้าลูกค้าซื้อไปแล้วเกิดทำกระดุมหลุด กางเกงขาด หรือต้องตัดความยาวขากางเกง ทางร้านก็รับซ่อมและตัดปลายขาให้ฟรีเลย หรือถ้าใส่ไปนานๆ แล้วผ้ายีนส์เกิดยืดใส่ไม่กระชับ ทางร้านก็รับปรับทรงกางเกงยีนส์ให้กระชับขึ้นได้
“ผมว่าเสน่ห์ของยีนส์มันอยู่ที่มูลค่าและความสวยงามที่ไม่เคยหายไป อย่างถ้าเราใช้ยีนส์จนเก่าและสีของยีนส์ซีดจางลง มันก็จะมีร่องรอยของประสบการณ์ในการใช้ชีวิตของเราหลงเหลืออยู่ด้วย เมื่อเราใส่ยีนส์เราจะรู้สึกรักและผูกพันกับมันโดยไม่รู้ตัวครับ”
(พิกเกอร์ เวิร์กส์ แฟกทอรี แอนด์ สโตร์ ซอยพิบูลย์สงคราม 22 (วัดกำแพง 14/4) และจริงใจมาร์เก็ต ถนนอัษฎาธร จ.เชียงใหม่ Facebook.com/pigerworksdenim และ www.pigerworks.com
เทคนิคในการเลือกยีนส์ให้เหมาะกับตัวเอง
- คนผอม เหมาะกับยีนส์ทรงกระบอกเล็ก ทรงสลิม หรือทรงสกินนี่ ซึ่งคนผอมไม่ค่อยมีปัญหาในการใส่ยีนส์ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ก้นปอด ไม่ค่อยมีก้น ควรเลือกยีนส์ที่กระเป๋าด้านหลังมีขนาดยาวสักหน่อย ก็จะช่วยทำให้แลดูมีก้นและก้นไม่ปอดได้-คนหุ่นนักกีฬา มีกล้ามเนื้อ เหมาะกับยีนส์ทรงกระบอกตรง หรือทรงสลิมที่ไม่เล็กมากจนเกินไป เพราะจะยิ่งเน้นกล้ามเนื้อให้ดูเป็นปล้องๆ จนดูไม่ดี-คนอ้วน มีพุง เอวหนา เหมาะกับยีนส์ทรงกระบอกตรง ไม่ฟิต เพราะถ้าใส่กางเกงยีนส์ขาเล็กหรือฟิตเกินไป จะยิ่งเป็นการเน้นให้ต้นขายิ่งดูใหญ่มากขึ้น ควรเลือกยีนส์ที่มีขนาดต้นขาที่พอดี ไม่ฟิตหรือไม่ใหญ่จนเกินไป ปลายขาตรง ไม่เล็กมาก ก็จะช่วยพรางรูปร่างให้ดูดีได้-คนตัวใหญ่ การใส่ยีนส์สีเข้มๆ สามารถช่วยพรางรูปร่างให้แลดูตัวเล็กลงได้ รวมทั้งการใส่ยีนส์ที่มีลายเนื้อผ้าทอที่เป็นเส้นแนวตั้งก็จะช่วยให้รูปร่างดูสูงขึ้นและดูเพรียวขึ้น


