ออย อิทธิกุล ชีวิตที่ออกแบบได้

โดย...พุสดี สิริวัชระเมตตา ภาพ วิศิษฎ์ แถมเงิน 

ผ่านร้อนผ่านหนาวกับประสบการณ์ในบริษัทใหญ่มาพอสมควร ในวัย 37 ปี ออย อิทธิกุล ตัดสินใจออกแบบชีวิตเอง ด้วยการทำสิ่งที่รักและมีแพชชั่นไปควบคู่กัน เธอตั้งปฏิญญาในใจนับแต่ยื่นใบลาออกทิ้งเงินเดือนที่น่าพอใจมาพักเบรกชีวิตการทำงาน ว่า ต่อไปนี้ถ้าจะทำอะไรจะต้องเดินหน้าด้วยความสุขเป็นตัวตั้งเท่านั้น

หลังจากพักเบรกชีวิตพนักงานบริษัทมาทำสิ่งที่ตัวเองรัก ด้วยการทำธุรกิจเล็กๆ ของตัวเองไม่นาน ออยตัดสินใจทำงานประจำอีกครั้ง ด้วยการนั่งตำแหน่งแบรนด์เมเนแจอร์ สกิน อิงค์ สกินแคร์น้องใหม่ในบ้านเรา แต่ไม่ใหม่ในวงการความงาม เพราะสร้างแบรนด์มาถึง 7 ปี มีขายทั่วอาเซียนและดังไกลถึงยุโรป

สกิน อิงค์ ถือกำเนิดที่สิงคโปร์ โดยเจ้าของแบรนด์เดิมทำงานด้านไอที แต่เพราะเป็นสาวผิวแพ้ง่าย หาสกินแคร์มาตอบโจทย์ปัญหาผิวตัวเองไม่ได้ เลยตัดสินใจทำสกินแคร์ขายเอง ด้วยการลาออกจากงาน แบ็กแพ็กไปญี่ปุ่น เดินหาแล็บที่จะผลิตสกินแคร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของเธอและผู้หญิงทั่วโลก

“ที่บอกว่าตอบโจทย์ผู้หญิงทั่วโลกอย่างแท้จริง เพราะจุดเด่นของแบรนด์เราคือ มีเซรั่ม 9 สูตร แก้ปัญหาผิวส่วนใหญ่ของคุณผู้หญิง ดังนั้นลูกค้าสามารถเลือกมิกซ์ครีมได้ตามปัญหาผิวอย่างตรงจุด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในแต่ละช่วง เช่น ปีนี้ชอบออกกำลังกาย บางครั้งเล่นกีฬากลางแจ้ง มีปัญหาเรื่องรูขุมขน หน้าหมองคล้ำ ก็ใช้ครีมที่ช่วยเรื่องนี้โดยตรง แต่พอช่วงเดินทางมีปัญหาเรื่องหน้าแห้ง ก็มาเลือกปรุงครีมสูตรที่ตอบโจทย์ตรงนี้ได้”

ออย ว่า ผู้ใหญ่ยุคนี้มีสิทธิเลือก ไม่ใช่ว่าแบรนด์ออกอะไรมาต้องใช้แบบนั้น กลับกันลูกค้าสามารถกำหนดได้ว่าเรามีปัญหาอะไรและอยากแก้ปัญหาตรงจุดไหน เพราะผิวผู้หญิงแต่ละคนก็ไม่ต่างกับลายนิ้วมือ แต่ละคนมีปัญหาเฉพาะของตัวเองที่ต้องการแก้ปัญหาต่างกัน

ผู้บริหารสุดมั่นบอกว่า ด้วยจุดขายที่แตกต่างอย่างชัดเจนของแบรนด์นี้เอง ทำให้เธอซึ่งเคยผ่านงานในวงการความงามมาแล้ว และคิดว่าจะไม่กลับมาทำงานในวงการนี้อีก เปลี่ยนใจ ที่สำคัญด้วยความที่ทีมงานในไทยยังน้อยมาก ทำให้เธอได้เรียนรู้งานในทุกส่วน ประหนึ่งเป็นเจ้าของกิจการไม่ใช่แค่ลูกจ้างที่รอรับเงินเดือน

“ออยเคยทำงานกับแบรนด์เครื่องสำอาง ทำ 4 เดือน ลาออกเลย เพราะรู้สึกว่าไม่ใช่ งานด้านนี้ไม่ใช่ทางของเรา เลยไปงานด้านประชาสัมพันธ์อยู่พักหนึ่ง ก่อนจะผันตัวมาทำด้านการตลาดและบริหารแบรนด์ให้กับสินค้าประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ถึง 7 ปี

 

“เชื่อมั้ยออกทำงานในวงการแอลกอฮอล์มาจนถึงจุดที่บอกตัวเองว่าอิ่มตัว ทั้งด้วยตัวงานที่ทำการตลาดยากขึ้น มีข้อกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง และที่สำคัญคือ ออยรู้สึกบาป เหมือนเราพยายามขายของที่ผิดศีลให้คนอื่น สุดท้ายออยเลยลาออกไปหาความท้าทายใหม่ ไปทำงานอีกทีหนึ่ง ปรากฏเป็นแบรนด์ที่กำลังสร้างแบรนด์ใหม่ งานค่อนข้างหนัก กลับบ้านตี 2 ออยเลยตัดสินใจพอ อยากเบรกให้ตัวเองได้พัก”

ช่วงที่หยุดพักมาตั้งหลักนี้เอง ทำให้เธอตัดสินใจทำธุรกิจที่อยากทำมานาน นั่นคือ การเปิดโรงแรมแมว แต่ด้วยสเกลงานค่อนข้างใหญ่ อาจยังไม่พร้อมในหลายๆ เรื่อง เธอจึงตัดสินใจเริ่มต้นจากการเปิดร้านขายเฟอร์นิเจอร์แมวทางออนไลน์ก่อน

“ออยอยากทำธุรกิจเกี่ยวกับแมว รักแมวมาก เลี้ยงอยู่ 4 ตัว ออยเริ่มต้นทำธุรกิจนี้ คล้ายกับเจ้าของแบรนด์สกินอิงค์นะ คือ หาของน่ารักถูกใจมาให้แมวไม่ได้ เลยทำขายเองซะเลย ออยออกแบบเอง ไปจ้างโรงงานผลิตเอง ทำการตลาดเองภายใต้ชื่อเพจ Caturday Bangkok ขายของทุกอย่างเกี่ยวกับแมว มีทั้งโซฟาแมว บ้านแมว เฟอร์นิเจอร์แมว ทุกวันนี้มีส่งไปขายแถวยุโรปบ้าง”

อย่างไรก็ตาม ออยยืนยันว่า ธุรกิจที่ทำเพราะใจรักนี้ไม่เป็นอุปสรรคต่องานประจำ เพราะเธอถือคติไม่ทำอะไรเกินตัว ธุรกิจของตัวเอง เธอทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่เร่ง ส่วนความฝันที่ว่าสักวันอยากเปิดโรงแรมแมว ยังไม่ทิ้งไปไหน เพียงแต่รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสม

“ออยว่า การที่เราทำอะไรที่มีแพชชั่น ไม่มีคำว่าเหนื่อย ทุกวันนี้ออยสนุกกับการนำประสบการณ์ตลอดที่ผ่านมานับ 10 ปี มาปลุกปั้นแบรนด์เล็กๆ นี้ให้เป็นที่รู้จักเป็นหนึ่งในลักซ์ชัวรี่สกินแคร์ที่ผู้หญิงรุ่นใหม่นึกถึง ส่วนตัวออยเองทุกวันนี้ก็มีความสุขกับงาน แพลนชีวิตจากนี้คงไม่มีอะไรมาก อยากให้เวลากับคุณพ่อคุณแม่มาก เพราะออยเป็นลูกสาวคนเดียว ขณะเดียวกันก็ทำสิ่งที่ตัวเองรัก” ผู้บริหารสาวสุดมั่น กล่าวทิ้งท้าย

วินเทจ จัดหนักแอกเซสซอรี่ นี่แหละฉัน

ถามถึงสไตล์การแต่งตัว ออยรีบออกตัวว่าไม่ใช่ผู้หญิงประเภทตามเทรนด์จ๋า กลับกันออกจะเป็นแนวแมนๆ ลุยๆ ไม่ค่อยใส่กระโปรง หรือเดรสเท่าไหร่ เสื้อผ้าเน้นใส่ได้นาน ที่หลงใหลเป็นพิเศษคือพวกของวินเทจ ของมือสอง แต่ละวันต้องมีหนึ่งชิ้นเป็นของมือสอง

“อย่างวันนี้เป็นกางเกงมือสอง ออยโชคดีตัวเลข พอไปซื้อพวกของวินเทจ คนสมัยก่อนเอวเล็ก ออยก็ใส่ได้ไม่มีปัญหา พวกเสื้อผ้าออยไม่เน้นมาก แต่เรื่องแอกเซสซอรี่อย่างแหวน นาฬิกา จัดเต็ม แหวนต้องใส่อย่างน้อย 5 วงต่อวัน เติมด้วยกำไลอีก”

เอื้อเฟื้อสถานที่โดยร้าน The Girl and The Pig ชั้น 5 เซ็นทรัล เอ็มบาสซี