‘บอมบ์กษิดิศ ประสิทธิ์’ นักวาดการ์ตูนจากใจ
ช่วง 2-3 เดือนมานี้ ในหน้าวอลล์เฟซบุ๊กบนหน้าไทม์ไลน์และทวิตเตอร์ของคุณมีภาพการ์ตูนแก๊ก
โดย...นกขุนทองชนิดาภา ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช
ช่วง 2-3 เดือนมานี้ ในหน้าวอลล์เฟซบุ๊กบนหน้าไทม์ไลน์และทวิตเตอร์ของคุณมีภาพการ์ตูนแก๊ก หมีกับคนที่เป็นคู่รักกันพร้อมบทสนทนาและท่าทางงุ้งงิ้งใส่กันตลอดเวลา ดูน่ารักน่าชัง หยอกเอิน หยิกกัด แสบคันนิดๆ แต่ก็แสดงให้เห็นว่ารักกันๆ คุณ...เคยเห็นภาพการ์ตูนแบบนี้บ้างไหม
ภาพการ์ตูนแก๊กที่แชร์ต่อๆ กันมา และแท็กๆ ให้กับคนรัก ซึ่งมีที่มาจากแฟนเพจชื่อ “คนอะไรเป็นแฟนหมี” ในเวลาเพียงแค่ 4 เดือน มียอดไลค์แฟนเพจพุ่งเฉียด 1 ล้าน เพราะเรื่องราวของคนอะไรเป็นแฟนหมีที่สื่อออกมาเป็นภาพการ์ตูนและข้อความมุขต่างๆ ที่สรรหามาใส่ใน “มันช่างโดน” ตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับคู่รักอีกหลายๆ คู่ กลายเป็นกระแสที่พูดถึงกันอยู่ในขณะนี้ ชนิดที่ว่าในสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์กคงไม่มีใครไม่รู้จักเพจน่ารักๆ แบบนี้
เมื่อกระแสมาแรงขนาดนี้ เราจะไม่ไปทำความรู้จักกับ “คนอะไรเป็นแฟนหมี” คงไม่ได้แล้ว ว่าแต่คนอะไรล่ะ...ที่เป็นแฟนหมี
คนผู้นี้ คือ “บอมบ์กษิดิศ ประสิทธิ์” ชายหนุ่มวัย 22 ปี เห็นเขามีทักษะทางด้านการวาดรูป แต่หารู้ไหมว่า เขาไม่ได้เฉียดใกล้การร่ำเรียนทางจิตรกรรม ทว่ามาจากใจรักและฝึกฝนเองล้วนๆ เพราะเขาเรียนคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต และความตั้งใจหลังจากเรียนจบก็อยากมีร้านเบเกอรี่เล็กๆ ขายขนมฝีมือเขาเอง แต่ทว่าตอนนี้กำลังรุ่งกับการทำแฟนเพจที่สร้างรายได้เม็ดงามให้กับเขา
จากไอเดียการวาดรูปที่ต้องการบอกความในใจของหนุ่มมาดเซอร์ให้แฟนสาวรับรู้ในความสัมพันธ์ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างวัน แฟนสาวตัวเล็กผิวขาว ซึ่งเขามองว่าแฟนตัวเองน่ารักเหมือนหมีไปซะอย่างนั้น คือจุดเริ่มต้นของผลงานสร้างชื่อ...คนอะไรเป็นแฟนหมี
“ผมเริ่มคบกับแฟนเมื่อเดือน ก.พ. แต่ด้วยนิสัยผู้หญิงที่อาจจะมีงี่เง่า เอาแต่ใจตัวเอง และไม่ค่อยมีเหตุผล เลยวาดเป็นการ์ตูนให้เขาดูว่าเราคิดยังไงกับเรื่องนี้ แบบไม่พูดตรงๆ ตอนแรกก็วาด 23 รูป ก็ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวก็มีเพื่อนๆ มากดไลค์และก็แชร์แท็กกันต่อๆ ไป และผมก็สร้างเพจใช้ชื่อ คนอะไรเป็นแฟนหมี อาทิตย์แรกมีคนมากดไลค์เกือบ 4 หมื่น ที่คนมากดเยอะเพราะก่อนหน้านี้ผมมีเพจอื่นอยู่ก็เลยเอาไปแชร์ไว้ด้วย คนก็เลยเห็นเยอะ”
แฟนเพจที่ผ่านมาของบอมบ์ อาทิ “9GAG in thai” เป็นแฟนเพจเกี่ยวกับการ์ตูนที่มาจากเมืองนอก แล้วมาใส่มุขเอง จากนั้นก็มาทำแฟนเพจคำคม ชื่อว่า “มุมต่าง” และก็เป็นธรรมดาของชีวิตวัยรุ่นที่ต้องมีความรัก จุดกำเนิดเล็กๆ จากการสร้างแฟนเพจ ก็นำพาบอมบ์ไปสู่ความสำเร็จอีกก้าวหนึ่ง
“คือเพื่อนเรียกเขา (พูดถึงแฟน) ว่าหมีก็เลยวาดเป็นหมี ตอนแรกลายเส้นมันไม่ได้ตรงอย่างนี้ คือมันเปลี่ยนมาเรื่อยๆ ตอนแรกในเพจก็ไม่ใช่หมีแบบนี้ แต่ที่เห็นกันตอนนี้ในเพจในหนังสือลายเส้นมันลงตัวที่สุด คาแรกเตอร์หมีก็เหมือนเขา หน้าเขาจะเหวี่ยงแบบนี้ล่ะครับ ก็ขี้งอนครับ เอาแต่ใจ ขี้อ้อน เหตุผลไม่ค่อยมี เราเหมือนแบบเป็นคนรองรับอารมณ์เขาแล้วก็มาเปลี่ยนเป็นเหตุผลแทน ส่วนเรื่องที่นำมาส่วนใหญ่เป็นเรื่องจริงนะครับ แต่มาแต่งตรงที่คำ แต่งคำให้คนทั่วไปอ่านได้ ให้ลงให้เข้าใจง่าย ผมว่าที่คนติดตามเยอะ เพราะคำพูดนะครับ เพราะว่าตอนแรกรูปมันไม่ได้สวยอะไรเลย คนมาตามเพราะเนื้อเรื่องมากกว่า เนื้อเรื่องมันมีส่วนมากเลยกับตัวการ์ตูน ถ้าตัวการ์ตูนสวยแต่เนื้อเรื่องไม่ดีมันก็คงไม่มาขนาดนี้ และเรื่องของเราก็ไม่ได้พิเศษ คือมันธรรมดาคนอื่นๆ ก็เป็นกัน เลยเข้าถึงคนได้ง่ายและเยอะ”
ความแรงฉุดไม่อยู่ เมื่อสำนักพิมพ์น้องใหม่ “เฮอ พับลิชชิ่ง” (Her Publishing) นำเรื่องราวของคนอะไรเป็นแฟนหมีมาจัดพิมพ์เป็นพ็อกเกตบุ๊ก และเพียงเวลาไม่กี่อาทิตย์หลังวางแผงก็ถูกจัดพิมพ์เป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยเรื่องราวในหนังสือแฟนๆ จะได้ทราบถึงที่มาก่อนที่บอมบ์จะเป็นแฟนกับหมี และอารมณ์อันหลากหลายของหมี แต่ด้วยทัศนคติที่ดีของผู้ชายคนนี้ ก็หาวิธีที่จะรองรับอารมณ์แล้วเปลี่ยนมาเป็นเหตุผลแทน
“อย่ามองเรื่องของอีกฝ่ายเป็นเรื่องไร้สาระแม้ว่าเรื่องนั้นมันจะไร้สาระจริงๆ ก็เถอะ” ประโยคหนึ่งที่เขาใช้อธิบายความเข้าใจผู้หญิงในแง่มุมที่ดี หนังสือเล่มนี้จึงเป็นเหมือนบันทึกของคนรักที่เป็นผู้รับฟังที่ดี พร้อมจะเข้าใจในทุกสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ
คนอะไรเป็นแฟนหมียังฮอตไม่เลิก เมื่อได้ถูกนำไปเป็นสติกเกอร์ไลน์ (Line) ใช้ชื่อว่า “Beargirlfriend Love Story” มีทั้งหมด 40 ตัว ปล่อยลงในไลน์ สโตร์ (Line Store) ซึ่งวันเปิดขายวันแรก มียอดซื้อถึง 6 หมื่นคน
“สติกเกอร์ไลน์จะมีสองตลาดก็คือ Creators Market ที่จะเปิดตลาดให้คนทั่วไปทำสติกเกอร์ลง และอีกหนึ่งตลาดคือ บริษัทไลน์ติดต่อเข้าไปโดยตรง ของผมบริษัทเอเยนซีติดต่อมาอีกทีครับ ให้ทำลงในไลน์เลย ไม่ผ่าน Creators Market ก็ดีครับ คนจะเห็นเยอะกว่า คาแรกเตอร์ก็เหมือนเดิมครับ ดึงมาจากที่เราวาดเลย อาจจะมีแก้ไขแบ็กกราวด์ ขนาดตัวอักษรใหญ่ไปเล็กไป คำผมก็คิดเอง เป็นคำที่อยู่ในบทสนทนาที่ใช้กันทั่วไปกับแฟนในชีวิตประจำวันจริงๆ เป็นอีกหนึ่งงานที่ภูมิใจครับ เพราะกว่าจะมาเป็นสติกเกอร์ได้ต้องผ่านการตรวจสอบจากบริษัทไลน์ที่ญี่ปุ่นเสร็จก็มาผ่านเพลย์ สโตร์ (Play Store) ผ่านกูเกิล เพลย์ (Google Play) ผ่านแอพ สโตร์ (App Store) ก็รวมกันประมาณ 2 เดือนครับ กว่าจะได้ตรงนี้”
นอกจากแฟนเพจ “คนอะไรเป็นแฟนหมี” ตอนนี้บอมบ์ก็ได้เปิดอีกแฟนเพจ โดยดึงเอาเพื่อนเข้ามาสร้างความหลากหลายด้วย ชื่อ “นี่เพื่อนไงจำไม่ได้หรอ” เป็นแฟนเพจที่บอกเล่าเรื่องราวของเพื่อนหมี และเพื่อนของแฟนหมี ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตคู่ แต่ก็จะกลายเป็นส่วนเกิน แฟนเพจนี้ก็ได้รับความสนใจไปไม่น้อยเลย ด้วยยอดคนติดตามกว่า 3 แสนในตอนนี้
“สร้างให้มันก็มีความหลากหลายมากขึ้น อย่างเพจเก่าเรื่องของเราโดนใจก็มีการแชร์การแท็กไปให้แฟน แต่ละโพสต์ไม่ต่ำกว่าพัน พอเพจนี้ก็จะเป็นการแท็กไปให้เพื่อน ไอเดียก็มาจากหมีจากเพื่อนๆ เป็นเรื่องในชีวิตประจำวันเหมือนเดิมครับ”
บอมบ์ เปิดเผยอีกว่า ตอนนี้มีเอเยนซีโฆษณามาติดต่อ โดยการเอาโฆษณามาแฝงในเรื่องราว ซึ่งเป็นช่องทางเกิดรายได้อีกทาง ทว่าต้องนำเสนอให้เป็นศิลปะ ไม่ดูเป็นการโฆษณาเกินไป จนแฟนๆ ที่ติดตามรับไม่ได้
“ตอนนี้ก็มีติดต่อมาหลาย 10 ที่ครับ แต่ผมก็ไม่ได้รับหมด ส่วนคอนเซ็ปต์ผมคิดเองครับ เพราะถ้าให้เขาคิดให้ก็จะดูเป็นการโฆษณามากเกินไป คนจะมองว่าเป็นโฆษณาทั้งหมดเลย ซึ่งตอนแรกผมยอมตามใจเขา ดูเป็นการโฆษณามากเลย คือมีโลโก้โฆษณาอยู่ในเรื่องเลย ก็มีแฟนๆ ต่อว่ามาเหมือนกันครับ ผมก็เข้าใจ เป็นเราก็โกรธ ไม่ชอบ ส่วนใหญ่จะเอาตัวเองเป็นพื้นฐานมากกว่าครับ ทำไรแล้วเราไม่ชอบเราก็จะไม่ทำกับคนอื่น หลังจากนั้นผมก็เอาตามคอนเซ็ปต์เรา โฆษณาที่เข้ามาต้องไม่เสียคอนเทนต์ของเรา หมีก็เป็นเหมือนเดิม คนก็เป็นเหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนไปเพราะโฆษณา และเรื่องที่มีโฆษณาก็พยายามลงไม่เกินอาทิตย์ละ 2 ครั้งครับ แต่ผมว่าคนน่าจะเข้าใจว่าคนทำเพจก็ต้องหากินบ้าง”
แม้ว่าการวาดการ์ตูนจะไม่ใช่งานทางด้านที่บอมบ์เรียนมา แต่การที่เขามีทัศนคติที่ดีในการมองโลก มีไอเดียที่ดีที่จะประคับประคองความรักของเขา และทำๆๆ ไปเรื่อยๆ จนฝันของเขาค่อยๆ สำเร็จไปทีละอย่าง
“ส่วนใหญ่ผมจะชอบฟังพวกนักเขียนพูด อย่างนิ้วกลมบอกว่าอย่าทิ้งความฝันจนกว่ามันจะเป็นจริง ก็คือทำไปเรื่อยๆ ยังไงก็เป็นความฝันเรา ว่าเราอยากจะทำ ถ้าเราทำแล้วเรามีความสุขก็ทำไป ไม่เห็นต้องแคร์อะไร ไม่เห็นต้องแคร์ใคร หนังสือก็เป็นความฝันของผมซึ่งในที่สุดก็เป็นจริงแล้ว”
ปัจจุบันบอมบ์ก็ยังนำการ์ตูนโพสต์ลงในหน้าแฟนเพจวันละ 23 ภาพ ไม่แน่ว่าอาจจะได้เห็นผลงานนำมารวบเล่มอีกครั้งก็ได้
“ตอนนี้ผมก็ยังวาดผมตามปกตินะครับ แต่มันเหมือนกับต้องแคร์คนในเพจมากขึ้น แคร์คนอ่านมากขึ้น จากปกติเขียนตามใจตัวเอง ระวังเรื่องภาษาให้สุภาพขึ้น ก็ยังสนุกกับการทำงาน กับเรื่องที่เราคิดขึ้นมาอยู่ เพราะเหตุการณ์กับหมีเราก็ยังเจออยู่ทุกๆ วัน มีเหตุการณ์ใหม่ๆ ขึ้นมา เขาก็ยังสร้างเรื่องให้ได้วาดอยู่ (หัวเราะ)”
การสร้างแฟนเพจ การใช้ชีวิตส่วนหนึ่งอยู่ในโลกโซเชียลของบอมบ์ ผู้ใหญ่บางคนอาจจะมองว่า เป็นการใช้เวลาที่เปล่าประโยชน์ มองไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่ทำ ทว่าวันนี้บอมบ์ได้พิสูจน์แล้วว่า สิ่งที่เขาเพียรทำนั้น ทำประโยชน์และคุณค่ามาให้แก่เขา
“ผมว่าถ้าคนอยากทำอะไรก็ปล่อยให้เขาทำไปดีกว่า เหมือนแบบเด็กบางคนอยากเล่นดนตรีที่บ้านก็ห้าม ทั้งที่จริงตอนนี้โลกดนตรีมันเปิดกว้างขึ้น เหมือนข่าวเด็กที่เล่นเกมแล้วได้แชมป์โลก คือเขาตั้งใจทำเรื่องนั้นให้มันดี มันไม่มีเรื่องไหนที่ไม่มีประโยชน์จริงๆ ผมว่ามันก็ทำให้เรามีประโยชน์ได้ทุกเรื่อง ถ้าเราตั้งใจทำมันจริงๆ” บอมบ์ ฝากทิ้งท้ายไว้เช่นนี้


