เมื่อคิดให้ดี โลกนี้ก็หนีนินทาไม่พ้น
โดย...โจนาธาน
โดย...โจนาธาน
สถานการณ์
นัตถิ โลเก อนินทิโตไม่มีใครในโลกที่ไม่ถูกนินทา คำพระพุทธเจ้าตรัสไว้ จริงแท้และแน่นอน ใครบ้างไม่เคยถูกนินทา มากน้อยก็ว่ากันไป ถือเป็นสัจธรรมที่ทุกคนต้องเจอ หนีไม่ได้ เลี่ยงไม่พ้น ยิ่งเฉพาะสังคมคนทำงาน ออฟฟิศเดียวกันนี่ละ ดีนักแลในการนินทากัน สนุกปากเมื่อวงนินทาเกิดขึ้น คนนี้พูดคนนั้นเสริม จากเรื่องไม่เรื่องก็กลายเป็นเรื่องซะงั้น “อัญมา” สาวสวยแผนกประชาสัมพันธ์ เพิ่งจบใหม่ไฟแรง เก่งรอบด้าน เธอเข้ามาทำงานไม่ถึง 4 เดือน ก็เป็นที่รักของเพื่อนร่วมแผนก ส่วนเจ้านายไม่บอกเดาออกว่าปลื้มปริ่มในตัวและผลงานลูกน้องคนนี้มาก นำมาซึ่งใครบางคนเริ่มออกอาการหมั่นไส้ ทำไมชื่นชมกันจัง อะไรๆ ก็อัญมา ในที่สุดเสียงนินทาก็ค่อยๆ ดังเป็นระยะและหนาหูขึ้นเป็นลำดับจากปากรุ่นพี่ “สุคนธรส” ก็เด็กเส้นอะนะ พ่อเป็นเพื่อนรักกับเจ้านาย ฝากฝังลูกสาวให้เข้าทำงานโดยอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัวเจ้านาย เลยต้องประคบประหงมกันนิดส์หนึ่ง ฝีมือและสมองก็ไม่เท่าไหร่ ล่าสุดโดนลูกค้าคอมเมนต์ว่าไม่เป็นงาน แถมยังทำตัวเป็นคุณหนูเหวี่ยงวีนใส่นักข่าว โอ้แม่เจ้า!!!
ทางออก
อย่าหยุด! อย่าหยุดที่จะพิสูจน์ตัวเอง พิสูจน์ฝีมือ หากคำนินทานั้นไม่ใช่เรื่องจริง อัญมาต้องอย่าไปแคร์กับคำนินทาของรุ่นพี่ขี้อิจฉา เห็นใครดีกว่าตัวไม่ได้ ก็ฟาดงวงฟาดงาด้วยคำพูดไร้สาระ สร้างเรื่องสร้างกระแสให้คนอื่นเสียหาย น้องใหม่ไฟแรงควรรับฟัง ถือว่าคำนินทาคือการทักท้วง เพื่อเตือนสติให้กลับมาทบทวนว่าเราเป็นอย่างที่คนอื่นว่าไว้หรือไม่ ดีก็รักษา ไม่ดีก็ปรับปรุง ไม่มีประโยชน์อันใดเท่าการปล่อยวาง ทางที่ดีคือพัฒนาตัวเองและก้าวข้ามจากคำนินทาให้ได้ เปลี่ยนคำนินทา หรือคำดูแคลน ให้เป็นพลังใจ ยกตัวอย่าง ตลกหญิงสุดฮอต “ตุ๊กกี้สุดารัตน์ บุตรพรม” ก็เปลี่ยนคำว่า “หน้าปลวก” และอะไรต่อมิอะไรที่คนอื่นนินทาว่าร้าย ให้กลายเป็นเพียงอากาศธาตุ แล้วงัดความสามารถของตัวเองออกมา วันนี้เป็นไงเล่า เธอยืนหยัดอย่างสง่าในฐานะซุป’ตาร์ มีชีวิตที่ดีกว่าและมีความหมายกว่าคนที่เคยนินทาว่าร้ายซะอีก ท่องไว้เลย คนอื่นไม่ใช่เรา จะสู้รู้ดีว่าเราเป็นยังไง เราต่างหากล่ะที่รู้จักตัวเองดีกว่าใคร ฉะนั้นจงยิ้มกว้าง หรือจะหัวเราะลั่นกับเสียงนินทา เพราะโลกนี้หนีนินทาไม่พ้น
Ask the Expert....
Q.ทำงานด้านเลขามา 10 กว่าปี อยากเปลี่ยนสายงานไปทำด้านอื่น แต่กลัวการเริ่มต้นว่าจะใช่สิ่งที่ต้องการหรือไม่ เราจะตอบตัวเองให้ชัดเจนได้อย่างไรดีคะ ?
A.นพดล ตังวัชรินทร์ Success CoachMax Potentials ให้ข้อแนะนำว่า หากอยากจะตอบตัวเองให้ชัดเจนต้องเริ่มต้นจากการมีคำถามให้ตัวเองที่ชัดเจนก่อน ถ้าคิดจะเปลี่ยนสายงานให้ถามตัวเองก่อนเลยว่า “ที่ผ่านมางานที่ฉันชอบทำมีลักษณะอย่างไร อะไรที่ฉันทำแล้วมีความสุขจัง” เพื่อค้นหาสิ่งที่เราถนัดและเป็นจุดแข็งของเรา จากนั้นให้ถามตัวเองว่า “ถ้าฉันจะไม่ยอมแพ้กับข้อจำกัดต่างๆ ฉันอยากเห็นตัวเองมีชีวิตการทำงานในอีก 10 ปีข้างหน้าอย่างไร” และ “การมีชีวิตแบบนั้นมันจะให้อะไรกับฉันบ้าง มันสำคัญกับฉันเพราะว่าอะไร” เพื่อให้เราเข้าใจเป้าหมายของตัวเองและอันนี้สามารถทำได้เรื่อยๆ นะครับเพราะว่าการคิดครั้งแรกกับการคิดครั้งที่สองอาจจะออกมาไม่เหมือนกันแต่ขอให้คิดต่อไปแล้วความคิดเราจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ อันต่อมาที่ต้องถามตัวเองก็คือ “ฉันมีทักษะและความรู้เพียงพอหรือไม่ที่จะไปอยู่ตรงนั้น หากยังไม่พอฉันต้องเพิ่มอะไรในตัวฉันบ้างเพื่อให้ฉันสามารถไปอยู่ตรงนั้นได้” และท้ายที่สุดคือขอให้ลองพาตัวเองไปอยู่ในกลุ่มคนที่ทำงานด้านต่างๆ เพื่อหาข้อมูลและให้ได้สัมผัสจริงๆ ว่าเขาทำอะไรกันแล้วเราชอบมั้ยก่อนจะตัดสินใจครับ
He Said / She Said
นิวธุรกิจส่วนตัว
“ผมว่าผู้ชายชอบมองผู้หญิงเซ็กซี่นะ แต่จริงๆ แล้วผมว่าน่าจะชอบผู้หญิงน่ารักมากกว่า ผมชอบผู้หญิงตัวเล็กๆ น่ารักๆ ดูน่าอุ้ม น่ากอดดีครับ”
ไข่มุกพนักงานบริษัท
“ชอบผู้ชายที่เทคแคร์เก่ง เอาใจใส่เรา มีความสุขกับเรื่องของผู้หญิง พาไปช็อปปิ้งแล้วไม่หัวเสีย และพาเราทำกิจกรรมสนุกๆ อย่าง เที่ยว เล่นกีฬา ก็พอแล้วค่ะ”
Quote
“ฉันคิดว่าสิ่งที่ฉันทำล้วนเป็นการลงทุนกับตัวเอง สร้างตัวเองให้เป็นแบรนด์ เหมือนๆ กับที่คิม คาร์ดาเชียนทำนั่นแหละ เวลาเธอไปช็อปเสื้อผ้าอะไรต่างๆ เธอก็คิดว่านั่นเป็นการลงทุนกับตัวเอง เพราะเธอเป็นแบรนด์ที่ใหญ่มาก เมื่อทำแบบนั้นแล้วก็ได้รับเสียงชื่นชม ฉันว่าฉันก็มีหน้ามีตาพอที่จะเป็นแบบเธอได้อยู่นะ แล้วฉันก็ทะเยอทะยานอยากเป็นแบบนั้นด้วย แต่ฉันคิดว่าอาจจะสร้างแบรนด์ที่ตรงข้ามกับที่คิมเป็น ฉันอยากให้คนฮือฮาในความเป็นฉัน ไม่ต้องรักก็ได้ เป็นคนที่สังคมชิงชังแต่ดังได้ฉันก็ยอมค่ะ”
ไฮดี มอนแท็ก เซเลบริตี้ชาวอเมริกัน